ริ้วรอยเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรับมือกับริ้วรอยทั้ง 3 ประเภท

ริ้วรอยเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรับมือกับริ้วรอยทั้ง 3 ประเภท

ริ้วรอยบนใบหน้าและบริเวณร่างกายนั้น ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยระหว่างคิ้ว, ริ้วรอยร่องแก้ม, รอยย่นหน้าผาก หรือ รอยตีนกา เป็นปัญหาที่หลายคนมองข้าม เพราะคิดว่าจะมาในช่วงอายุที่มากขึ้นเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นทั้งภายในและภายนอกที่กระตุ้นให้ผิวแก่ มีริ้วรอยและรอยย่นก่อนวัยได้ แล้วสาเหตุหลักของริ้วรอยบนใบหน้ามาจากอะไร? สามารถป้องกันและดูแลด้วยวิธีไหนได้บ้าง สามารถหาคำตอบจากบทความนี้ได้เลย

สารบัญบทความ

  • ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดเกิดจากอะไร
  • ริ้วรอยบนใบหน้ามีกี่ประเภท
  • บริเวณไหนที่มักจะเกิดริ้วรอย
  • วิธีรักษา และป้องกันการเกิดริ้วรอย
  • วิธีการรักษาริ้วรอยด้วยหัตถการทางแพทย์
  • คำถามที่พบบ่อย

ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดจากอะไร

แน่นอนว่าเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายเริ่มผลิตสารได้น้อยลง โดยเฉพาะสารสำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงอย่าง อิลาสติน กรดไฮยาลูรอน หรือคอลลาเจน ผิวจึงเริ่มหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย รอยตีนกา และ รอยย่นบนใบหน้าตามจุดต่างๆ เมื่ออายุเข้า 25 ปีจะค่อยๆ ลดลง 1-2% ทุกปี นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อย่าง

ปัจจัยภายใน

  • กรรมพันธุ์
  • อายุ

ปัจจัยภายนอก

  • แสงแดด
  • มลภาวะ
  • อนุมูลอิสระ
  • ความเครียด
  • สุรา และบุหรี่

ริ้วรอยบนใบหน้ามีกี่ประเภท

1. ริ้วรอยแบบตื้น ขนาดเล็ก

เป็นริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากผิวแห้ง สามารถสังเกตเห็นได้จากบริเวณรอบดวงตา โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา และริมฝีปาก ฉะนั้นจึงควรเติมความชุ่มชื้นเพื่อลดริ้วรอยขนาดเล็ก ๆ เหล่านี้ ด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวหรือมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizor) เป็นประจำ เช้า-เย็น


ริ้วรอยเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรับมือกับริ้วรอยทั้ง 3 ประเภท

2. ริ้วรอยแบบลึก ที่ชั้นหนังแท้

เป็นริ้วรอยที่เสื่อมสภาพแล้ว กลับมาคืนรูปได้ยาก สามารถสังเกตเห็นได้บนใบหน้าได้ตลอดเวลา มักพบริ้วรอยชนิดนี้ได้บนใบหน้าผู้มีผิวแห้งมาก ๆ หรือผู้ที่มีผิวมันมาก ๆ รวมถึงผู้ที่มีพฤติกรรมแสดงสีหน้าบ่อย ๆ เช่น หัวเราะ, ขมวดคิ้ว, เลิกหน้าผาก จนเกิดรอยพับจนกลายเป็นรอยตีนกา รอยย่นที่หน้าผาก หรือ ริ้วรอยร่องแก้ม โดยริ้วรอยประเภทนี้เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง ทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและเกิดร่องลึกขึ้น หากผิวมีความยืดหยุ่นลงลงจะคืนตัวได้ค่อนข้างยาก

บริเวณไหนที่มักจะเกิดริ้วรอย


ริ้วรอยเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรับมือกับริ้วรอยทั้ง 3 ประเภท

1. ริ้วรอยหน้าผาก

ริ้วรอยบริเวณหน้าผากเกิดขึ้นบริเวณผากและระหว่างคิ้ว มักเกิดจากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าและการสูญเสียคอลลาเจน และความชุ่มชื้นในผิวหนัง

2. ริ้วรอยขมวดคิ้ว

เกิดจากการแสดงสีหน้าและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อบริเวณคิ้ว มักเห็นชัดเพราะตั้งอยู่ตรงกลางใบหน้า

3. ริ้วรอยร่องแก้ม

ริ้วรอยร่องแก้มเกิดจากการแสดงสีหน้าเมื่อมีการยิ้มและความหย่อนคล้อยของผิวหนัง มักเป็นร่องลึกตั้งแต่ปีกจมูกไปถึงมุมปาก

4. ริ้วรอยที่คอ

เกิดขึ้นเนื่องจากขาดความยืดหยุ่นและความหนาแน่นของผิวหนังในบริเวณนั้น มักเกิดจากอายุที่มากขึ้น

5. ริ้วรอยใต้ตา

ริ้วรอยใต้ตาเกิดจากผิวหนังบริเวณรอบดวงตาที่บางลงและเสียความยืดหยุ่นเร็ว มักเริ่มเป็นริ้วรอยบาง ๆ หรือตีนกาบริเวณหางตาและค่อย ๆ ลึกขึ้นเมื่อไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม


ริ้วรอยเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรับมือกับริ้วรอยทั้ง 3 ประเภท

6. ริ้วรอยที่ผิวกาย

สำหรับริ้วรอยบริเวณผิวกายนั้น มาพร้อมกับสภาพผิวแห้งและอายุที่มากขึ้น ทำให้ผิวในบริเวณนั้นไม่กระชับ มีความหย่อนคล้อย ไม่เรียบเนียน เห็นได้ชัดจากบริเวณแขนที่ย้วยหย่อนกว่าเดิม หลัก ๆ เกิดจากความยืดหยุ่นของผิวและความหนาแน่นของผิวลดลง เช่น หลังมือเหี่ยว ขาแขนที่ย้วย คอที่เหี่ยวยับ เป็นต้น เพราะฉะนั้น จึงควรใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำ เพราะเป็นวิธีลดริ้วรอยที่ง่ายและสะดวกที่สุด เมื่อดูแลอย่างต่อเนื่อง ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีตามมา หรือใครที่ยังไม่เกิดปัญหาก็ถือว่าเป็นการบำรุงและกันไว้ก่อนได้

วิธีรักษา และป้องกันการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า

1. หลีกเลี่ยงแสงแดด

ควรปกป้องผิวด้วยครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป ป้องกันทั้งรังสี UVA และ UVB เป็นประจำ ควรทาซ้ำเมื่อเวลาผ่านไป 2-3 ชั่วโมง เป็นวิธีลดริ้วรอยชั้นหนังแท้ที่สามารถทำได้ทุกวัน


ริ้วรอยเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรับมือกับริ้วรอยทั้ง 3 ประเภท

2. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

เพราะสารในแอลกอฮอล์ทำให้ผิวขาดน้ำ และปล่อยสารที่เป็นพิษต่อเนื้อเยื่อและอวัยวะในร่างกาย จึงทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยบนผิวได้ ดังนั้นการลดการดื่มแอลกอฮอล์ก็สามารถลดริ้วรอยได้เช่นกัน


3. ครีมลดริ้วรอยหน้า

การใช้ครีมลดริ้วรอยหน้า เป็นอีกทริคที่จะช่วยชะลอให้ผิวไม่แก่ก่อนวัย เมื่ออายุเริ่มเข้าสู่เลข 3 ก็สามารถเริ่มบำรุงผิวเฉพาะจุด เช่น ริ้วรอยร่องแก้ม ริ้วรอยระหว่างคิ้วและรอยตีนกาได้แล้ว วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากฉีดโบท๊อกซ์ หรือร้อยไหม ลองหาครีมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจากวิตามินต่างๆ เพื่อบำรุงไม่ให้ผิวดูแก่ก่อนวัย หรือหลีกเลี่ยงความเครียด มลภาวะที่ทำให้ผิวเครียดได้ก็จะยิ่งดี เช่นเดียวกับผิวกายก็ไม่ควรปล่อยปะละเลย ต้องบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นหลังจากเผชิญมลภาวะนอกบ้านและสูญเสียน้ำมาทั้งวันอย่างสม่ำเสมอ อย่าง นีเวีย ลูมินัส630 แอนตี้เอจ แอนด์ สปอต เซรั่ม (NIVEA luminous 630 anti-age & spot serum) ด้วยสารไทอามิดอล (Thiamidol) สารไบรท์เทนนิ่งที่ทรงประสิทธิภาพพร้อม 2 พลัง ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระชับ ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก และฝ้าแดดจุดด่างดำสะสม โดยไม่เกิดผลข้างเคียง จัดการได้ลึกถึงต้นตอฟื้นฟูผิวให้ดูสม่ำเสมอ เรียบเนียน อ่อนเยาว์ มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนเข้มข้น สารสกัดจากถั่วเหลือง และ วิตามินอี ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง


ริ้วรอยเกิดจากอะไร? พร้อมวิธีรับมือกับริ้วรอยทั้ง 3 ประเภท

4. ออกกำลังกายคาร์ดิโอเป็นประจำ

ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยให้เลือดลมสูบฉีด หลอดเลือดได้ฟิตเฟิร์มตลอดเวลา ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ฮอร์โมนทำงานได้อย่างปกติ และ ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

5. อาบน้ำในอุณหภูมิที่เหมาะสม

อุณหภูมิน้ำต้องไม่ร้อนจนเกินไป จะทำให้ผิวชั้นบนไม่ถูกทำร้ายจากความร้อน หรือเมื่ออาบน้ำเสร็จควรบำรุงด้วยออยล์ หรือครีมบำรุงผิวทันที

วิธีรักษาริ้วรอย ด้วยหัตถการทางแพทย์

1. รักษาด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency therapy)

วิธีรักษาริ้วรอยด้วยคลื่นวิทยุ เป็นกระบวนการที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนัง ซึ่งช่วยให้ผิวหน้าดูกระชับและริ้วรอยบนใบหน้าดูจางลงได้

2. รักษาด้วยการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย

การฉีดโบท็อกเป็นวิธีการที่ทำให้ผิวดูกระชับ เรียบเนียน ดูเต่งตึงขึ้น ช่วยให้ริ้วรอยรอบดวงตา หน้าผาก และหางตารวมถึงตีนกาดูจางลง สามารถเห็นผลเร็ว

3. รักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ลดริ้วรอย

การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ร่องลึก และผิวหนังหย่อนคล้อยได้ดีสามารถเห็นผลทันที โดยที่สาร Hyaluronic Acid จะไปช่วยปรับสภาพผิว และช่วยเติมเต็มริ้วรอยต่าง ๆ ให้เต่งตึง ทำให้ผิวหน้าดูกระชับมากยิ่งขึ้น

 

4. รักษาด้วยการทำเมโสหน้าใส

เมโสหน้าใส คือการฉีดวิตามินบำรุงผิวที่สกัดจากสารต่างๆเช่น กลูต้าไธโอน, คอลลาเจน, วิตามินเอ, วิตามินอี และวิตามินซี เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้แกผิว ไม่ให้ผิวหยาบกระด้าง รูขุมขนดูกระชับ และช่วยลดรอยสิวที่เกิดจากสิวอักเสบให้ผิวดูมีสุขภาพดีและเรียบเนียนขึ้น

5. รักษาด้วยการทำ HIFU

HIFU Macrofocus คือเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ไม่ต้องใช้เข็มหรือการผ่าตัด โดยใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์เพื่อยกกระชับผิวและลดริ้วรอยในระดับลึกของผิวหนังโดยยิงคลื่นไปใต้ชั้นผิว เพื่อไปกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนใต้ผิวหนัง ซึ่งช่วยลดริ้วรอย และความหย่อนคล้อยลงได้

การดูแลผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ ลดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม, ริ้วรอยระหว่างคิ้ว, รอยตีนกา และรอยย่นหน้าผาก เป็นสิ่งที่เราสามารถดูแลได้ในทุก ๆ วัน เริ่มต้นจากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายผิวและหันมาดูแลผิวให้ชุ่มชื้นและป้องกันผิวจากแสงแดด

คำถามที่พบบ่อย

  1. Q: ริ้วรอยเกิดจากสาเหตุอะไร
    A: ริ้วรอยเกิดจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกร่างกาย โดยปัจจัยภายในที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้การผลิตสารสำคัญอย่างคอลลาเจน อิลาสติน และกรดไฮยาลูรอน ลดลง 1-2% ทุกปีเมื่ออายุเกิน 25 ปี รวมถึงปัจจัยทางกรรมพันธุ์ ส่วนปัจจัยภายนอกที่เร่งให้เกิดริ้วรอยเร็วขึ้นได้แก่ การสัมผัสแสงแดด มลภาวะ อนุมูลอิสระ ความเครียด รวมถึงพฤติกรรมการดื่มสุราและสูบบุหรี่
  2. Q: อายุเท่าไรถึงเริ่มมีปัญหาริ้วรอย
    A: ปัญหาริ้วรอยสามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงอายุ แต่มักจะเป็นปัญหาที่มากขึ้นเมื่อเข้าสู่วัย 25 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นช่วงที่คอลลาเจนที่ผิวหนังเริ่มลดลง ทำให้ริ้วรอยเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามการเกิดริ้วรอยมีปัจจัยอื่น ๆ เช่นกัน อย่างการไม่ทาครีมกันแดดเมื่อออกไปเจอแสง UV, การสูบบุหรี่ หรือการดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
  3. Q: การหัวเราะบ่อยเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอยหรือไม่
    A: การหัวเราะไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยโดยตรง แต่การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าขณะหัวเราะอาจทำให้เกิดริ้วรอยชั่วคราวบนใบหน้าได้ ซึ่งริ้วรอยเหล่านี้จะหายไปเมื่อหยุดหัวเราะและกล้ามเนื้อกลับสู่สภาพปกติ อย่างไรก็ตาม หัวเราะเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและอารมณ์ของเรา ดังนั้นไม่ควรกังวลว่าการหัวเราะจะทำให้เกิดริ้วรอย
  4. Q: การล้างหน้าหลายครั้งต่อวันทำให้เกิดริ้วรอยหรือไม่
    A: การล้างหน้าหลายครั้งต่อวัน จริง ๆ แล้วไม่ใช่สาเหตุทำให้เกิดริ้วรอย หากเป็นการล้างหน้าที่เอาสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนผิวหน้าออก เช่น ความมัน อย่างไรก็ตามการล้างหน้าวันละ 2 ครั้งถือว่าเหมาะสมที่สุด เพราะการล้างหน้าบ่อยๆ โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสารเคมีที่เข้มข้นอาจส่งผลให้ผิวหน้าแพ้ หรือผิวบางลงได้ ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับประเภทผิวของคุณ
  5. Q: กินวิตามินอะไรถึงช่วยลดริ้วรอยได้
    A: วิตามินที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดริ้วรอยมีหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซีที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและต้านอนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอี (Vitamin E) ที่ช่วยปกป้องผิวจากความแก่ชรา โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) ที่ช่วยซ่อมแซม และรักษาพลังงานในเซลล์ผิวที่ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นสามารถลดเลือนริ้วรอยได้ และ แอสต้าแซนธิน (Astaxanthin) ที่ช่วยปกป้องเซลล์ผิวจากจากสารอนุมูลอิสระ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวมีความยืดหยุ่น ลดริ้วรอย

อ้างอิง : https://www.bdmswellness.com/knowledge/5-vitamins-to-strengthen-your-skin


ทิปส์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ