Ingredients Glossary

A-E

1,2-Hexanediol

ปกติแล้ว 1,2-Hexanediol จะทำหน้าที่เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ สารช่วยกักเก็บน้ำ สารเพิ่มการละลายและสารบำรุงผิว โดยจะช่วยทำละลายส่วนผสมออกฤทธิ์ที่เป็นลิโพฟิลิก (ละลายในไขมันได้ดี) ส่วนผสมชนิดนี้จะอยู่ในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม น้ำหอม ผลิตภัณฑ์สำหรับการอาบน้ำ เครื่องสำอาง ฯลฯ

1-METHYLHYDANTOIN-2-IMIDE

ผู้เชี่ยวชาญของ BDF ได้นำเทคโนโลยีชั้นสูงมาใช้เพื่อให้ Creatine บริสุทธิ์ในผลิตภัณฑ์ของเรามีความเสถียรโดยเติม Creatinine (“สารตั้งต้น”) ลงไปในผลิตภัณฑ์ที่เสื่อมสภาพได้ สูตรดังกล่าวจึงช่วยรักษาสมดุลของ Creatine และ Creatinine ได้อย่างเป็นธรรมชาติเช่นเดียวกับในร่างกาย

4-BUTYLRESORCINOL

ส่วนผสมนี้จะช่วยจัดการกับจุดด่างดำบนผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ACACIA FARNESIANA FLOWER EXTRACT

กระถินเทศ (Acacia Farnesiana) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Cassia คือพันธุ์ไม้ในวงศ์ Genus Acacia ซึ่งอาจมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเขตร้อน แต่ก็พบเห็นได้ทั่วไปในเขตร้อนทั่วโลกที่มีภูมิอากาศแห้ง ผลและเปลือกสีน้ำตาลคล้ำที่มีสารแทนนินมักถูกนำมาใช้เป็นสารแต่งสี และผลยังนำมาผลิตเป็นหมึกได้อีกด้วย ส่วนยางจะนำมาใช้ผลิตกาว ในฝรั่งเศสจะนิยมปลูกต้นกระถินเทศไว้เพื่อนำดอกหรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Cassia มาผลิตเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในการผลิตน้ำหอม

ACETUM

ส่วนผสม Acetum เป็นสารควบคุมค่า pH ที่ได้จากพืช โดย Acetum (น้ำส้มสายชู) จะมีคุณสมบัติป้องกันไฟฟ้าสถิต จึงช่วยลดไฟฟ้าสถิตโดยปรับค่าประจุไฟฟ้าบนผิวและเส้นผมให้เป็นกลาง

Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer

Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ซึ่งมักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก เช่น เจลอาบน้ำ หรือเพื่อให้อิมัลชั่นมีความคงตัว เช่น ในครีมหรือโลชั่น โดยเฉพาะหากมีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดด แร่ธาตุ หรือเกลือ สารชนิดนี้จะทำให้เกิดเนื้อเจลใสเมื่อผสมกับน้ำโดยจะทำให้ความเหลวเปลี่ยนไป นอกจากนี้ Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer ยังสามารถใช้เพื่อลดอิมัลซิไฟเออร์หรือผสมในอิมัลชั่นเนื้อบางเบาที่ไม่มีอิมัลซิไฟเออร์ได้อีกด้วย

Acrylates Copolymer

Acrylates Copolymer เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่มักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ซึ่งมีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก (เช่น เจลอาบน้ำ) โดยเฉพาะหากต้องการให้เม็ดบีดหรืออนุภาคของแข็งอื่นๆ กระจายตัวและช่วยรักษาความคงตัว สารชนิดนี้จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมีเนื้อเจลใส แม้จะผสมในสูตรที่มีสารลดแรงตึงผิวจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม Acrylates Copolymers ที่มีคุณลักษณะพิเศษจะทำหน้าที่เป็นสารก่อฟิล์มได้เช่นกัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญต่อผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เช่น สเปรย์ใส่ผม เพื่อให้มั่นใจว่าผมจะอยู่ทรงได้นานโดยไม่ทิ้งสิ่งตกค้าง

Acrylates/Hydroxyesters Acrylates Copolymer

Acrylates/Hydroxyesters Acrylates Copolymer ช่วยให้ผมอยู่ทรงโดยป้องกันไม่ให้ผมดูดซับความชุ่มชื้นและปกป้องผมจากการเกิดประจุไฟฟ้าด้วยการสร้างชั้นเคลือบบางๆ บนผิว เส้นผมหรือเล็บ Copolymer เป็นโพลีเมอร์ที่ได้จากการผสมสารประกอบเคมีขนาดเล็กที่เรียกว่ามอนอเมอร์เข้ากับโมเลกุลขนาดใหญ่มากที่มีคุณสมบัติต่างกัน

Acrylates/Octylacrylamide Copolymer

Acrylates/Octylacrylamide Copolymer ช่วยให้ผมอยู่ทรงโดยป้องกันไม่ให้ผมดูดซับความชุ่มชื้นและปกป้องผมจากการเกิดประจุไฟฟ้าด้วยการสร้างชั้นเคลือบบางๆ บนผิว เส้นผมหรือเล็บ Copolymer เป็นโพลีเมอร์ที่ได้จากการผสมสารประกอบเคมีขนาดเล็กที่เรียกว่ามอนอเมอร์เข้ากับโมเลกุลขนาดใหญ่มากที่มีคุณสมบัติต่างกัน

Acrylates/Steareth-20 Methacrylate Crosspolymer

Acrylates/Steareth-20 Methacrylate Crosspolymer เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์สำหรับผลิตภัณฑ์สูตรที่มีน้ำเป็นส่วนผสม เนื่องจากการดัดแปรให้ไม่ละลายในน้ำ (ชอบน้ำมัน) Acrylates/Steareth-20 Methacrylate Crosspolymer จึงมีประสิทธิภาพสูงในการเพิ่มความหนืดและช่วยให้โพลีเมอร์มีความคงตัว โดยจะสร้างโครงสร้างเจลในน้ำแม้จะผสมในสูตรที่มีสารลดแรงตึงผิวจำนวนมาก

Acrylic Acid/VP Crosspolymer

Acrylic Acid/VP Crosspolymer เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ซึ่งมักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก หรือเพื่อให้อิมัลชั่นมีความคงตัว เช่น ในครีมหรือโลชั่น โดย Acrylic Acid/VP Crosspolymerr จะช่วยให้เนื้อสัมผัสไม่เหนียวเหนอะหนะเมื่อทาบนผิว นอกจากนี้ โพลีเมอร์ชนิดนี้ยังใช้เพื่อช่วยป้องกันเม็ดสีไม่ให้ในเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์กันแดด

ALANINE

ส่วนผสม Alanine จัดอยู่ในกลุ่มของกรดอะมิโน ซึ่งจะช่วยดูแลผิวให้ดูดีอยู่เสมอ

Alcohol Denat

เอทานอลหรือที่เรียกว่าเอทิลแอลกอฮอล์ซึ่งใช้ในสูตรของเราเป็นส่วนผสมที่ได้จากพืช เป็นเวลาหลายทศวรรษที่มีการใช้เอทานอลในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อความงามจำนวนมากอย่างแพร่หลาย โดยมีหน้าที่เป็นตัวทำละลายในโลชั่นและครีม เพื่อให้มั่นใจว่าโลชั่นจะไม่เกิดการแยกชั้นกัน คำว่า "Denat" ย่อมาจาก Denatured Alcohol (แอลกอฮอล์แปลงสภาพ) เอทานอลชนิดนี้มีสารแปลงสภาพเพื่อทำให้รสชาติแย่ เหตุผลก็เพราะแอลกอฮอล์ยังพบได้ในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ อีกด้วย เช่น ไวน์หรือเบียร์ และหลายๆ ประเทศจะคิดภาษีจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอัตราที่สูงมาก ดังนั้น จึงต้องแปลงสภาพแอลกอฮอล์เพื่อหลีกเลี่ยงการชำระภาษีสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งไม่ได้ผลิตขึ้นเพื่อการบริโภค (กล่าวคือนำมาใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว)

ALGIN

Algin หรือกรดแอลจิเนตคือพอลิแซ็กคาไรด์ที่สกัดได้จากสาหร่ายสีน้ำตาล ตามปกติจะพบได้ในผนังเซลล์ของสาหร่ายสีน้ำตาล โดยมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำสูงมากและพองตัวได้มากกว่าน้ำหนักของตัวเองประมาณร้อยเท่าเมื่อโดนน้ำ ซึ่งจะก่อให้เกิดโครงสร้างคล้ายเจลขึ้นมา จึงนำมาใช้เป็นสารที่ใช้ยึดเหนี่ยว อิมัลซิไฟเออร์ และสารก่อฟิล์มในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ นอกจากนี้ Algin ยังทำหน้าที่ควบคุมความหนืดของสูตรผลิตภัณฑ์และมักนำมาใช้ผสมในโลชั่นอีกด้วย

ALLANTOIN

Allantoin (5-Ureidohydantoin) เป็นผลิตภัณฑ์ตามธรรมชาติที่ได้จากกระบวนการออกซิเดชัน/กระบวนการเผาผลาญของกรดยูริกในสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังบางชนิด ซึ่งให้ประโยชน์กับผิวโดยจะช่วยปรับสภาพผิวหนังชั้น Stratum Corneum เป็นหลัก
aloe barbadensis

Aloe Barbadensis Leaf Juice Powder / Aloe Vera

True aloe หรือ Medicinal aloe (Aloe vera) ซึ่งยังรู้จักกันในชื่อ Barbados aloe หรือ Burn aloe เป็นสายพันธุ์พืชในวงศ์ Aloe มนุษย์เราใช้ต้น Aloe vera ในการบำบัดโรคมาเป็นเวลาหลายพันปีโดยใช้เพื่อปกป้อง รักษาและปลอบประโลมผิว เนื้อในใบ Aloe vera มีความชุ่มชื้นโดยเฉลี่ยถึง 95% เพราะมีแว็กซ์เคลือบอยู่ด้านนอก ผลการศึกษาได้พิสูจน์แล้วว่าเจลของต้น Aloe vera สามารถเติมความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมปกป้องผิวจากความแห้งกร้านในขณะเดียวกัน โดยใบ Aloe vera จะผลิตเจลใส เมื่อคุณหักใบออกจากต้น คุณจะสามารถทาเจลด้านในลงบนผิวที่แห้งกร้าน ผิวไหม้แดดหรือผิวที่เป็นแผล

Alpha-Isomethyl Ionone - Floral Violet Woody

ส่วนผสมที่ให้กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์โดยมีกลิ่นคล้ายแป้งจากดอกไวโอเล็ตและออริส รวมถึงกลิ่นจางๆ ของเบอร์รี่สีแดง เปี่ยมด้วยกลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกราวช่อดอกไม้ และมีกลิ่นละมุนดุจรังไหม

ALUMINUM CHLORIDE

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ และขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพการลดเหงื่อ ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อจะมีคุณสมบัติในการลดเหงื่อได้สูงสุด 20% ถึง 60% โดยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของส่วนผสม นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีเกลืออะลูมิเนียมที่มีฤทธิ์เป็นกรดจะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมระดับจุลภาคของแบคทีเรียตามผิวหนัง จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการต้านเชื้อแบคทีเรีย

ALUMINUM CHLOROHYDRATE

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ และขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพการลดเหงื่อ ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อจะมีคุณสมบัติในการลดเหงื่อได้สูงสุด 20% ถึง 60% โดยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของส่วนผสม นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีเกลืออะลูมิเนียมที่มีฤทธิ์เป็นกรดจะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมระดับจุลภาคของแบคทีเรียตามผิวหนัง จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการต้านเชื้อแบคทีเรีย

ALUMINUM SESQUICHLOROHYDRATE

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ และขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพการลดเหงื่อ ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อจะมีคุณสมบัติในการลดเหงื่อได้สูงสุด 20% ถึง 60% โดยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของส่วนผสม นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีเกลืออะลูมิเนียมที่มีฤทธิ์เป็นกรดจะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมระดับจุลภาคของแบคทีเรียตามผิวหนัง จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการต้านเชื้อแบคทีเรีย

Aluminum Starch Octenylsuccinate

Aluminum Starch Octenylsuccinate เป็นแป้งสตาร์ชดัดแปรที่ไม่ละลายในน้ำซึ่งมีคุณสมบัติดูดซับความมันหรือน้ำมันได้ดี

Aluminum Stearates

Aluminum Stearates เป็นเกลืออะลูมิเนียมของกรดไขมัน ซึ่งใช้ในสูตรเครื่องสำอางจำนวนมากเนื่องจากจะช่วยเพิ่มความคงตัวของอิมัลชั่นและเนื้อสัมผัสของสูตรผลิตภัณฑ์ เช่น ในครีมหรือโลชั่น Aluminum Stearates จะทำหน้าที่เป็นสารประกอบที่ช่วยเพิ่มความเสถียรโดยสามารถจับตัวกับน้ำได้ รวมทั้งยังสร้างโอลีโอเจลในสูตรที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม

ALUMINUM ZIRCONIUM TETRACHLOROHYDREX GLY

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ และขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพการลดเหงื่อ ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อจะมีคุณสมบัติในการลดเหงื่อได้สูงสุด 20% ถึง 60% โดยขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของส่วนผสม นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีเกลืออะลูมิเนียมที่มีฤทธิ์เป็นกรดจะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมระดับจุลภาคของแบคทีเรียตามผิวหนัง จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านการต้านเชื้อแบคทีเรีย

Aminoethylaminopropyl Dimethicone

ส่วนผสมชนิดนี้เป็นซิลิโคน ซึ่งเป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปแบบของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดมากกว่าหรือน้อยกว่า โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย คุณสมบัติของซิลิโคน ออยล์เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนุ่มลื่น ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมหรือผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้ามีเนื้อนุ่มลื่นดุจแพรไหม เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่หรูหรา รวมถึงให้ความแวววาวและนุ่มละมุนเมื่อผสมในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ* หากต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีซิลิโคนหรือไม่ โปรดดูรายการส่วนผสมในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งอาจอยู่ในชื่อต่างๆ เช่น "dimethicone", "cyclomethicone", "dimethiconol" และ "amodimethicone"

AMINOMETHYL PROPANOL

Aminomethyl Propanol เป็นสารควบคุมค่า pH ที่สังเคราะห์ได้จากกลุ่มแอลกอฮอล์ โดย Aminomethyl Propanol จะทำหน้าที่ควบคุมและคงความเสถียรของค่า pH ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

Ammonium Acryloyldimethyltaurate/VP Copolymer

Ammonium Acryloyldimethyltaurate/VP Copolymer เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ซึ่งมักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก หรือเพื่อให้อิมัลชั่นมีความคงตัว เช่น ในครีมหรือโลชั่น โดยเฉพาะสูตรที่มีเนื้อสัมผัสเบาสบายและไม่มีส่วนผสมของอิมัลซิไฟเออร์ สารชนิดนี้จะทำให้เกิดเนื้อเจลใสเมื่อผสมกับน้ำโดยจะทำให้ความเหลวเปลี่ยนไป

Amodimethicone

ซิลิโคน* เป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปแบบของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดมากกว่าหรือน้อยกว่า โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย คุณสมบัติหลักของซิลิโคน ออยล์เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนุ่มลื่น ซึ่งจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมหรือเครื่องสำอาง มีเนื้อเรียบเนียนดุจแพรไหม เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่หรูหรา รวมถึงให้ความแวววาวและนุ่มละมุนเมื่อผสมในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ* หากต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีซิลิโคนหรือไม่ โปรดดูรายการส่วนผสมในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งอาจอยู่ในชื่อต่างๆ เช่น "dimethicone", "cyclomethicone", "dimethiconol" และ "amodimethicone"

ANISE ALCOHOL

Anisyl alcohol พบได้ตามธรรมชาติในน้ำมันวานิลลาและน้ำมันยี่หร่า ซึ่งมีกลิ่นหอมละมุนคล้ายดอกไม้และแป้ง
aqua

Aqua / Water

น้ำมีความโปร่งใส ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น และแทบจะไม่มีสี น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของโลกโดยอยู่ในรูปแบบลำธาร ทะเลสาบ และมหาสมุทร รวมถึงของเหลวในสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ น้ำสำคัญต่อทุกชีวิตอย่างยิ่ง แม้จะไม่ให้แคลอรี่หรือสารอาหารอินทรีย์ นอกจากนี้ น้ำยังเป็นส่วนผสมในครีม โลชั่น และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแทบทั้งหมด

Arachidic Acid

Arachidic acid เป็นกรดไขมันอิ่มตัวโมเลกุลยาวที่พบได้ในเนยถั่วและเชื้อราที่ไม่ต้องการอากาศ Arachidic acid ที่ผสมในสูตรผลิตภัณฑ์จะทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิวในการผลิตสบู่และเครื่องสำอาง

Argania Spinosa Kernel Oil / Argan Oil

Argan Oil (หรือที่เรียกว่า Argania Spinosa Kernel Oil) เป็นน้ำมันสกัดเย็นที่สกัดจากเมล็ดของต้น Argan โดยจะมีกรดไขมันโอเมก้าที่สำคัญ เช่น กรดโอเลอิกและกรดไลโนเลอิก รวมถึงฟีนอล อัลฟา-โทโคฟีรอลและวิตามินอี

Arginine HCL

Arginine ยังพบได้ในบัควีท สารชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นสารปรับสภาพให้เป็นกลางในเครื่องสำอาง โดยสามารถช่วยปรับสภาพกรดต่างๆ ให้เป็นกลาง จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับสูตร ส่วนในสูตรที่เป็นกลาง มักจะใช้เป็นเกลือกรดไฮโดรคลอริก ("Arginine Hydrochloride") ทั้งนี้ Arginine จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

Ascorbic Acid

วิตามินซียังรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Ascorbic Acid ซึ่งมีบทบาทต่อกระบวนการต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ผักผลไม้เป็นแหล่งวิตามินซีที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะในอะเซโลราเชอร์รี่ ผลไม้ตระกูลส้ม พาสลีย์ พริกไทย กีวี โรสฮิป บร็อคโคลี่และคเร็ซ

ASCORBYL PALMITATE

Ascorbyl Palmitate เป็นอนุพันธ์ของวิตามินซีชนิดละลายในไขมัน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ โดยมีหน้าที่ ยับยั้งปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์อันเกิดจากออกซิเจนและป้องกันการเกิดออกซิเดชัน เช่น ความเหม็นหืนของส่วนผสม เป็นต้น

Avena Sativa Kernel Flour

ข้าวโอ๊ต (Avena) เป็นพืชที่มีต้นสูงไม่เกินหนึ่งเมตรและพบได้ทั่วทุกมุมโลก (ยกเว้นในเขตร้อน) สารประกอบสำคัญที่พบในข้าวโอ๊ต ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมันและฟลาโวนอยด์

Bambusa Vulgaris Shoot Extract

ส่วนผสม Bambusa Vulgaris Shoot Extract เป็นสารสกัดที่ได้จากพืช ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อช่วยให้ผิวดูดี

Behenyl Alcohol

Behenyl Alcohol มักได้จากน้ำมันหรือไขมันจากผัก ด้วยเหตุนี้ จึงเรียก Behenyl Alcohol ว่าแอลกอฮอล์ไขมัน อย่างไรก็ตาม Behenyl Alcohol ยังอาจได้มาจากการไฮโดรไลซ์แว็กซ์ สารสกัดชนิดนี้ใช้ในสูตรเครื่องสำอางจำนวนมากเนื่องจากจะช่วยเพิ่มความคงตัวของอิมัลชั่นและเนื้อสัมผัสของสูตรผลิตภัณฑ์ เช่น ในครีมหรือโลชั่น นอกจากนี้ Behenyl Alcohol จะก่อตัวเป็นของแข็งสีขาวซึ่งทำหน้าที่เป็นสารประกอบที่ช่วยเพิ่มความเสถียรโดยสามารถจับตัวกับน้ำได้

Benzethonium Chloride

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป)
สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์
เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ
การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

BENZOPHENONE

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Benzophenone-3

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Benzophenone-4

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Benzyl Alcohol

Benzyl Alcohol ไม่ใช่น้ำหอมโดยตรง แต่จะใช้ในผลิตภัณฑ์บางอย่างโดยเป็นตัวทำละลายสารประกอบที่เป็นน้ำหอมต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของส่วนผสมในน้ำหอมส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายในตลาดน้ำหอม ดังนั้น ผลิตภัณฑ์บางอย่างจึงอาจไม่มีน้ำหอมแม้จะมี Benzyl Alcohol

BETAINE

Betaine เป็นกรดอะมิโน N-trimethylated ขนาดเล็ก ในระบบทางชีวภาพ สารชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นสารอินทรีย์ที่ทำให้เกิดอิออนในน้ำ คุณสมบัติทางชีวฟิสิกส์เฉพาะตัวนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้สามารถควบคุมการดึงน้ำออกด้วยวิธีออสโมซิส หรือการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเพื่อการกักเก็บน้ำในผิว

BHT

BHT คือสารกันเสียที่ใช้ในอาหารและเครื่องสำอาง หลายๆส่วนผสม เช่น ไขมันหรือน้ำมันจากธรรมชาติ จะมีกลิ่นเหม็นหืนเมื่อทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในสภาพแวดล้อม แต่ BHT จะสามารถปกป้องส่วนผสมเหล่านี้เมื่อสัมผัสกับอากาศและช่วยให้คงคุณภาพได้นานยิ่งขึ้น

BIOSACCHARIDE GUM-1

Biosaccharide Gum-1 เป็นพอลิแซ็กคาไรด์ที่ได้มาจากการหมักคาร์โบไฮเดรตจากซอร์บิทอล Biosaccharide Gum-1 นิยมใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวต่างๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้า ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม รวมถึงยาสีฟัน เนื่องจากเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่มากที่ได้มาจากธรรมชาติ สารชนิดนี้จึงทำหน้าที่เป็นสารบำรุงผิวที่ช่วยดูแลผิวแห้งเสียโดยลดความหยาบกร้านพร้อมคืนความนุ่มเนียนให้ผิว

BIOTION

Biotin หรือที่รู้จักกันในชื่อวิตามินเอช (เอช มาจากภาษาเยอรมันว่า “Haar” และ “Haut” ที่แปลว่า “ผมและผิวหนัง”), วิตามินบี 7 หรือวิตามินบี 3 ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการเผาผลาญต่างๆ ในร่างกาย โดยหลักแล้วจะเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากไขมัน คาร์โบไฮเดรต และกรดอะมิโน ด้วยเหตุนี้ จึงทราบกันดีว่าวิตามินเอชจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงผิว

BISABOLOL

Bisabolol เป็นสารประกอบจากเอสเซนเชียลออยล์ในคาโมมายล์ที่ขึ้นตามธรรมชาติ (Matricaria Chamomilla) โดยสัดส่วนของ Bisabolol ในน้ำมันคาโมมายล์อาจมีมากถึง 50% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพและความหลากหลายของพื้นที่ Bisabolol มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการใช้งานทั้งวงการแพทย์และวงการเครื่องสำอาง อย่างไรก็ตาม สำหรับผลิตภัณฑ์หลายชนิด Bisabolol ที่ผลิตโดยการสังเคราะห์กลับเป็นที่นิยมมากกว่าเพราะมีความบริสุทธิ์สูง นอกจากนี้ Bisabolol ยังขึ้นชื่อในเรื่องต้านการอักเสบและปลอบประโลมผิวอีกด้วย

Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

BIS-DIGLYCERYL POLYACYLADIPATE-2

Bis-Diglyceryl Polyacyladipate-2 เป็นสารกึ่งของแข็งที่ช่วยปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม ซึ่งใช้แทน Lanolin ที่ไม่มีส่วนประกอบจากสัตว์เป็นหลัก โดยสามารถเพิ่มคุณสมบัติทนน้ำให้สูตรเครื่องสำอางและยึดเกาะผิวได้ดี นอกจากนี้ ยังขึ้นชื่อในเรื่องของความเข้ากันกับผิวได้ดีเป็นพิเศษ พร้อมให้ความรู้สึกสบายผิว จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์กันแดด และผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปาก โดยส่วนประกอบหลักมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ และอีกส่วนเล็กๆ ของโมเลกุลได้มาจากการสังเคราะห์

Bis-(Isostearoyl/Oleoyl Isopropyl) Dimonium Methosulfate

Bis-(Isostearoyl/Oleoyl Isopropyl) Dimonium Methosulfate เป็นสารให้การบำรุงประสิทธิภาพสูงโดยช่วยให้ผมหวีง่าย นุ่มสลวยและเปล่งประกายแวววาว

BUTANE

Butane เป็นก๊าซสังเคราะห์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์หัวพ่น เช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือสเปรย์ใส่ผม โดยนำมาใช้เป็นสารขับดันที่มีหน้าที่จ่ายแรงดันเพื่อให้สเปรย์ฉีดออกมาอย่างเหมาะสม

Butyl Acrylate/Ethyltrimonium Chloride Methacrylate/Styrene Copolymer

Butyl Acrylate/Ethyltrimonium Chloride Methacrylate/Styrene Copolymer เป็นสารให้การบำรุงประสิทธิภาพสูงโดยช่วยให้ผมหวีง่าย นุ่มสลวยและเปล่งประกายแวววาว

Butyl Methoxydibenzoylmethane

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Butylene Glycol

Butylene Glycol เป็นแอลกอฮอล์ประเภทหนึ่งที่ประกอบด้วย Hydroxyl สองหมู่ซึ่งเรียกว่าไดออล สารชนิดนี้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่นิยมใช้กันแพร่หลายที่สุดในผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวและเครื่องสำอางเพื่อดูแลผิวให้ชุ่มชื้น Butylene Glycol จะใช้เป็นตัวทำละลายและสารลดความหนืด จึงทำให้ผลิตภัณฑ์มีสัมผัสเหนียวลดลงและทาง่าย Butylene Glycol สามารถพบได้ตามธรรมชาติในผักหรือสังเคราะห์จากปิโตรเลียม

Butylene Glycol Dicaprylate/Dicaprate

Butylene Glycol Dicaprylate/Dicaprate เป็นเอสเตอร์ของ Butylene Glycol และ Caprylic/Capric Acid ซึ่งส่วนผสมหลักได้มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ (น้ำมันมะพร้าว) อีกส่วนเล็กๆ ของโมเลกุลมาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี สารชนิดนี้จะมอบสัมผัสที่แห้งสบายไม่เหนียวเหนอะหนะและมักใช้ในผลิตภัณฑ์กันแดดเนื่องจากเป็นตัวทำละลายที่ดีของสารป้องกันแสงแดด

BUTYLOCTANOIC ACID

Butyloctanoic Acid เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่เกลี่ยได้ปานกลาง มอบความรู้สึกสบายผิวพร้อมความคงตัวที่ดีเยี่ยม รวมถึงมีคุณสมบัติต้านจุลชีพและนิยมใช้กันในสูตรเครื่องสำอางต่างๆ
butyrospermum parki butter sheabutter

Butyrospermum Parki Butter / Sheabutter

Butyrospermum Parkii Butter (เชียบัตเตอร์) เป็นสารสกัดเนื้อครีมที่ได้จากเมล็ดเชียของต้นเชียซึ่งเติบโตในแอฟริกา มีการใช้เชียบัตเตอร์ในแอฟริกามาหลายปีเพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงและความเปล่งประกายให้ผิวและเส้นผม เชียบัตเตอร์เป็นส่วนผสมพิเศษสำหรับผิว เพราะมีวิตามินเอและอีสูง จึงมีคุณสมบัติในการรักษาเยียวยาหลายด้าน เชียบัตเตอร์จะละลายที่อุณหภูมิร่างกายเช่นเดียวกับบัตเตอร์ทั่วไป พร้อมมอบความรู้สึกเนียนนุ่ม โดยประกอบด้วยไขมันชนิดต่างๆ กรดไขมันที่จำเป็น และสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลิตคอลลาเจน รวมถึงสามารถส่งเสริมการทำงานของปราการผิว

C12-15 Alkyl Benzoate

C12-15 Alkyl Benzoate เป็นสารสังเคราะห์ที่ปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มซึ่งปลอดภัยต่อผิว โดยเป็นสารประกอบน้ำมันที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ และเกลี่ยบนผิวได้ง่าย พร้อมช่วยปลอบประโลมผิวแห้งกร้านและยังเป็นสารละลายที่มีประโยชน์สำหรับส่วนผสมในเครื่องสำอางจำนวนมาก

C12-15 Pareth-3

C12-15 Pareth-3 ทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิวและอิมัลซิไฟเออร์ซึ่งช่วยให้น้ำมันและน้ำผสมกันและคงสูตรเหล่านี้ไว้

C15-19 Alkane

C15-C19 Alkane เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่มีปิโตรเคมีเป็นส่วนผสม ซึ่งได้จากการผสม Alkanes ที่มีลักษณะเป็นเส้นตรง (Linear) โดยมีอะตอมคาร์บอน 15 ถึง 19 อะตอมในสาย Alkyl สารชนิดนี้จะให้สัมผัสที่สดชื่นและความเรียบลื่น พร้อมให้ความนุ่มละมุนหลังทา

C18-36 ACID TRIGLYCERIDE

C18-36 Acid Triglyceride เป็นเอสเตอร์ที่เกิดจากกรดไขมัน (C18-36) สายยาวกับกลีเซอรีน มีลักษณะเป็นแว็กซ์โปร่งแสงสูงเหมือนผลึก คล้ายกับแว็กซ์คาร์นอบา ซึ่งช่วยเพิ่มความเหนียวข้นให้กับอิมัลชั่นและเพิ่มความแข็งให้กับผลิตภัณฑ์แบบแท่ง

C18-38 ALKYL HYDROXYSTEAROYL STEARATE

C18-38 Alkyl Hydroxystearoyl Stearate เป็นแว็กซ์เอสเตอร์คุณภาพสูง โดยส่วนหนึ่งของโมเลกุลมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ และอีกส่วนหนึ่งมาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี ซึ่งช่วยเพิ่มความเหนียวข้นให้กับอิมัลชั่นและเพิ่มความแข็งให้กับผลิตภัณฑ์แบบแท่ง

C20-40 ALKYL STEARATE

C20-40 Alkyl Stearate เป็นแว็กซ์เอสเตอร์สังเคราะห์ที่แข็งมากแต่ละลายเร็ว สามารถนำมาใช้แทนส่วนโมโนเอสเตอร์ของไขผึ้งในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้ จึงมักมีการใช้กับผลิตภัณฑ์แบบแท่งหรือใช้เป็นสารให้ความคงตัวในอิมัลชั่นเพื่อเพิ่มความเหนียวข้น

CAFFEINE

Caffeine เป็นแอลคาลอยด์ที่ปกติจะสกัดออกมาจากเมล็ดและใบกาแฟ ใบชา เมล็ดโคลา และเมล็ดโกโก้ โดยมีคุณสมบัติเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือดฝอยในผิวและกระตุ้นให้เส้นผมงอก

CALENDULA OFFICINALIS FLOWER EXTRACT

Calendula Officinalis หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ดอกดาวเรือง เป็นพืชที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายและเป็นไม้ประดับ ดาวเรืองเป็นพืชสารพัดประโยชน์ที่สามารถเติบโตได้ในดินแทบทุกสภาพที่มีแดดส่องถึง สารสกัดจากคาเลนดูลาจะมีส่วนผสมตามธรรมชาติที่แตกต่างกัน เช่น อนุพันธุ์จากสารเทอร์ปีน ฟลาโวนอยด์ และแคโรทีนอยด์ ปกติแล้ว คาเลนดูลาจะใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ แต่ก็มีประโยชน์ในทางเครื่องสำอางด้วยเช่นกัน โดยมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้น จึงนิยมใช้ในแวดวงเครื่องสำอางอย่างแพร่หลาย

CALCIUM CARBONATE

มีการใส่ Hydrogen Peroxide ลงในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวเพื่อใช้เป็นสารต้านจุลชีพและสารออกซิไดซ์ ซึ่งสารต้านจุลชีพจะออกฤทธิ์ฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตหรือการแพร่พันธุ์ของเชื้อจุลินทรีย์ ส่วนในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว สารออกซิไดซ์จะใช้เพื่อผลิตสารย้อมสีในระหว่างการย้อมสีผมด้วยการออกซิเดชันและเพื่อออกซิไดซ์คราบบนผิวฟันออกเพื่อให้ฟันขาวขึ้น

CALCIUM CHLORIDE

Calcium Chloride เป็นเกลืออนินทรีย์ที่ใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวต่างๆ เพื่อช่วยให้อิมัลชั่นมีความคงตัว

CALCIUM PANTHOTHENATE

ส่วนผสมนี้เป็นเกลือที่ได้จากกรดแพนโทเทนิก ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องการฟื้นบำรุงและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
camellia sinensis leaf extract black tea

Camellia Sinensis Leaf Extract / Black Tea Extract

Black tea ทำจากใบชาที่ผ่านการอบแห้งและบด โดยจะนำไปหมักในภายหลัง จากนั้น กระบวนการออกซิเดชันจะสิ้นสุดลง สารสกัดจะได้รับการผลิตโดยใช้กระบวนการสกัดที่อ่อนโยนซึ่งเหมาะสมที่สุดเพื่อช่วยให้เก็บรักษาส่วนผสมตามธรรมชาติเอาไว้ได้ Black tea extract จะช่วยให้ผิวรู้สึกชุ่มชื้นและเติมความมีชีวิตชีวาให้ผิวเนื่องจากมีคาเฟอีนเป็นส่วนผสม
camellia sinensis leaf extract green tea

Camellia Sinensis Leaf Extract / Green Tea Extract

Camellia Sinensis Leaf Extract คือสารสกัดชาเขียวที่ได้จากใบ Camellia sinensis โดยจะอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติซึ่งทราบกันดีว่าทำหน้าที่ช่วยปกป้องเซลล์ นอกจากนี้ ยังมีการนำสารสกัดชาเขียวมาใช้เนื่องจากคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่สามารถปกป้องผิวจากอันตรายของอนุมูลอิสระได้

Candelilla Cera

Candelilla Cera เป็นแว็กซ์บริสุทธิ์จากพืชที่ได้จากใบต้นแคนเดลิลลา ซึ่งเรียกอีกชื่อว่า Euphorbia Cerifera หรือ Euphorbiaceae

CARNITINE

L-Carnitine เป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโน ซึ่งมีหน้าที่เสริมการสร้างพลังงานของเซลล์โดยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไขมันภายในเซลล์ เพื่อเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว
caprylic capric triglyceride

Caprylic/Capric Triglyceride

Caprylic/Capric triglyceride เป็นทริเอสเตอร์ที่ได้จากการผสมน้ำมันมะพร้าวและกลีเซอรีนในธรรมชาติ น้ำมันชนิดนี้มีประโยชน์ตรงที่ทนต่อการออกซิเดชัน Caprylic/capric triglyceride เป็นสารบำรุงผิวที่ยอดเยี่ยม ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มอบสัมผัสที่ดี รวมถึงช่วยให้ผิวนุ่มละมุนและเรียบเนียนยิ่งขึ้น พร้อมช่วยให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส จึงมักนำมาผสมในครีม โลชั่น ผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปาก และผลิตภัณฑ์กันแดด

Caprylyl/Capryl Glucoside

Caprylyl/Capryl Glucoside เกิดจากการทําปฏิกิริยาระหว่างแอลกอฮอล์ประเภทหนึ่งกับกลูโคส สิ่งที่ได้ก็คือสารลดแรงตึงผิวที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ซึ่งใช้กันแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก ผิวหน้าและผิวกาย ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

Caprylyl Glycol

Caprylyl Glycol คือสารเติมแต่งอเนกประสงค์ที่ทำหน้าที่เป็นสารช่วยให้เปียกและสารควบคุมการเพิ่มความหนืด เป็นที่ทราบกันว่าสารชนิดนี้จะมอบความรู้สึกนุ่มสบายผิว นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการต้านจุลชีพ รวมถึงมีการนำมาผสมในสูตรอิมัลชั่นและผลิตภัณฑ์แบบล้างออก
carbomer

Carbomer

Carbomer เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์จาก Acrylic acid ซึ่งมักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก หรือเพื่อให้อิมัลชั่นมีความคงตัว เช่น ในครีมหรือโลชั่น โพลีเมอร์ชนิดนี้จะทำให้เนื้อสัมผัสมีรูปแบบการไหลแตกต่างไป

Cetyl Palmitate

Cetyl Palmitate เป็นเอสเตอร์ของ Cetyl Alcohol และ Palmitic acid โดยเป็นสสารสีขาว โปร่งแสงเหมือนผลึกและมีเนื้อคล้ายแว็กซ์ พร้อมช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม หลักๆ แล้ว จะใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดหรือสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มในเครื่องสำอาง

CELLULOSE

Cellulose เป็นสารประกอบของผนังเซลล์พืชที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ Cellulose และอนุพันธ์ต่างๆ ของ Cellulose จะใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในลักษณะที่หลากหลาย ในทางเคมี Cellulose คือพอลิแซ็กคาไรด์ที่มีลักษณะเป็นเส้นตรงในรูปของน้ำตาลกลูโคส นอกจากนี้ Cellulose ยังได้มาจากแบคทีเรียโดยผ่านการเพาะเชื้อแบคทีเรียภายใต้การควบคุมที่คัดเลือกอย่างระมัดระวัง ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบที่ผ่านการดัดแปลงหลายรูปแบบ Cellulose มีคุณสมบัติตามธรรมชาติในการก่อเจล ทนต่อความร้อนได้ปานกลาง ไม่ละลายในไขมัน และมีลักษณะใส จึงทำให้ Cellulose เหมาะที่จะนำไปใช้งานได้หลากหลาย

Cellulose Gum

Cellulose Gum เป็นโพลีเมอร์ที่ละลายน้ำได้ซึ่งมีที่มาจากเซลลูโลสตามธรรมชาติที่ผ่านการดัดแปร โดยจะทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความหนืดในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ประกอบด้วยน้ำเมื่อผ่านการปรับสภาพให้เป็นกลาง สารชนิดนี้สามารถสร้างเนื้อเจลใสหรือเพิ่มความเสถียรให้อิมัลชั่น จึงนำมาใช้อย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ยาหรืออาหาร

CENTAUREA CYANUS FLOWER EXTRACT

Centaurea Cyanus Flower Extract เป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า สารสกัดจากดอกคอร์นฟลาวเวอร์ คอร์นฟลาวเวอร์สีน้ำเงินเข้มเป็นดอกไม้ป่าที่ขึ้นตามทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ของอังกฤษ โดยมีชื่อเฉพาะว่า Cyanus ซึ่งเป็นภาษากรีกที่แปลว่า ‘สีน้ำเงินเข้ม’ ส่วนผสมจากสมุนไพรชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้กันในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสำหรับดูแลผิว

Cetearyl Alcohol

Cetyl Alcohol มักได้จากน้ำมันหรือไขมันจากผัก ด้วยเหตุนี้ จึงเรียก Cetyl Alcohol ว่าแอลกอฮอล์ไขมัน อย่างไรก็ตาม Cetyl Alcohol ยังอาจได้มาจากการไฮโดรไลซ์แว็กซ์ สารสกัดชนิดนี้ใช้ในสูตรเครื่องสำอางจำนวนมากเนื่องจากจะช่วยเพิ่มความคงตัวของอิมัลชั่นและเนื้อสัมผัสของสูตรผลิตภัณฑ์ เช่น ในครีมหรือโลชั่น Cetyl Alcohol จะก่อตัวเป็นของแข็งสีขาวซึ่งทำหน้าที่เป็นสารประกอบที่ช่วยเพิ่มความเสถียรและเพิ่มสามารถของการจับตัวกับน้ำได้

CERA ALBA

Cera Alba หรือไขผึ้งเป็นผลิตผลบริสุทธิ์ที่ขับออกมาจากต่อมผลิตไขผึ้งของผึ้ง แว็กซ์ที่ได้มาจากธรรมชาตินี้ประกอบด้วยเอสเตอร์ของกรดไขมันและแอลกอฮอล์สายยาวเป็นหลัก โดยมีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ประมาณ 60°C จึงเหมาะสำหรับนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ที่มีความเหนียวข้นสูง (ลิปสติกและบาล์ม) และลุคแมตต์ (ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเนื้อหนืด) ไขผึ้งจะช่วยให้อิมัลชั่นชนิดน้ำในน้ำมันมีความคงตัว (ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกาย) รวมถึงสร้างชั้นฟิล์มเคลือบปกป้องผิว

Cera Microcristallina

ส่วนผสม* มิเนอรัล ออยล์ชนิดนี้เป็นไขมันจากฟอสซิล โดยส่วนผสมที่มีความบริสุทธิ์สูงจะอยู่ในรูปแบบต่างๆ (น้ำมัน เจล ฯลฯ) และไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส มิเนอรัล ออยล์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ Paraffinum Liquidum ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์แบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่ มิเนอรัล ออยล์สังเคราะห์ซึ่งไม่มีสารอื่นเจือปนตั้งแต่กระบวนการผลิต และมิเนอรัล ออยล์จากปิโตรเคมี ซึ่งเป็นมิเนอรัล ออยล์ที่ผ่านการกลั่นโดยได้มาจากการทำให้ฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติ มีความบริสุทธิ์ ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเราเป็นผลิตภัณฑ์เกรดเภสัชกรรม ดังนั้นจึงมีความบริสุทธิ์สูง คุณสมบัติหลักของส่วนผสมกลุ่มนี้ก็คือการปกป้องผิวไม่ให้ขาดน้ำ นอกจากนี้ ส่วนผสมเหล่านี้ยังช่วยพัฒนาคุณภาพของเนื้อสัมผัสและยังมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและขจัดเครื่องสำอาง
 
* หากต้องการค้นพบส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ของเรา โปรดตรวจสอบรายชื่อส่วนผสมบนบรรจุภัณฑ์ โดยคุณสามารถค้นหาส่วนผสมที่มีมิเนอรัล ออยล์ได้อย่างง่ายดายจากชื่อต่างๆ เช่น "paraffinum liquidum", "cera microcristallina", "ozokerite", "paraffin" และ "แว็กซ์สังเคราะห์"

CERAMIDE NP

Ceramide เป็นไขมันชนิดพิเศษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในชั้นผิวและช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวเรา ไขมันดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า สฟิงโกลิพิด ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนังชั้นบนสุดหรือผิวหนังชั้น Horny Layer (Stratum Corneum) Ceramide มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอยและนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CETEARETH-6

Ceteareth-6 จะช่วยสร้างอิมัลชั่นที่มีความคงตัว ซึ่งผลิตจากการผสม Cetyl เข้ากับ Stearyl Alcohol อันเป็นสารที่ได้จากธรรมชาติ

CETEARETH-12

Ceteareth-12 ผลิตจาก Cetearyl Alcohol ซึ่งเป็นส่วนผสมที่พบได้ในผัก และจะช่วยสร้างอิมัลชั่นโดยลดความตึงผิวของสารที่จะทําอิมัลชั่น

Ceteareth-20

Ceteareth-20 คือสารประกอบสังเคราะห์ที่สังเคราะห์ผ่านขั้นตอนที่เรียกว่า Ethoxylation ซึ่งเป็นปฏิกิริยาเคมีที่มีการเพิ่ม Ethylene Oxide ลงในสารที่มี Cetyl Alcohol และ Stearyl alcohol Ceteareth-20 ทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิวและอิมัลซิไฟเออร์ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวต่างๆ จำนวนมาก เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย ครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์กันแดด ผลิตภัณฑ์ขัดผิวและผลิตภัณฑ์รักษาสิว ในส่วนของการทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ Ceteareth-20 จะลดความตึงผิวโดยกระจายตัวในน้ำมัน/น้ำหรือผิวของอากาศ/น้ำ ซึ่งมีผลด้านความคงตัวในอิมัลชั่น

CETEARYL ETHYLHEXANOATE

Cetearyl Ethylhexanoate เป็นน้ำมันเอสเตอร์ที่ผลิตจากการผสมแอลกอฮอล์อิ่มตัวที่ได้จากธรรมชาติเข้ากับกรดที่มีโครงสร้างแบบกิ่งก้าน น้ำมันชนิดนี้สามารถนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ อย่างแพร่หลาย โดยจะให้สัมผัสที่เนียนนุ่มสบายผิว

CETETH-20

Ceteareth-20 ผลิตจาก Cetearyl Alcohol ซึ่งเป็นส่วนผสมที่พบได้ในผัก Ceteareth-20 จะช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ ละลายในตัวทำละลายที่ตามปกติจะละลายไม่ได้

Cetrimonium Chloride

Cetrimonium Chloride คือเกลือควอเทอร์นารีแอมโมเนียม (เกลือแอมโมเนียมชนิดจตุรภูมิ) ซึ่งช่วยให้ผมจัดทรงง่ายและป้องกันหรือยับยั้งการเกิดไฟฟ้าสถิต จึงมีการนำมาผสมในสูตรครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์ย้อมผมและผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม

CETEARYL GLUCOSIDE

อันที่จริงนั้น Cetearyl Alcohol มาจากการผสมแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติถึงสองชนิดเข้าด้วยกัน คือ Stearyl Alcohol (C18) และ Cetyl Alcohol (C16) ในอัตราส่วนประมาณ 70:30 โดยวัสดุตั้งต้นจะถูกแยกออกจากน้ำมัน (ในเมล็ด) ปาล์ม หรือน้ำมันมะพร้าว Cetearyl Alcohol ใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดในสูตรเครื่องสำอางมานานหลายทศวรรษ เพื่อให้เกิดโครงสร้างคล้ายเจลที่หนืดขึ้น ประสิทธิภาพดังกล่าวให้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิดและมีการนำมาใช้ในครีม โลชั่น ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ แชมพู และครีมนวด ผลิตภัณฑ์ที่มี Cetearyl Alcohol เป็นส่วนผสมจะยังคงถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ "ปราศจากแอลกอฮอล์" ตามข้อกำหนดของ FDA

CETEARYL ISONONANOATE

Cetearyl Isononanoate เป็นเอสเตอร์ของ Pelargonic Acid และ Cetearyl Alcohol ซึ่งส่วนผสมหลักมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ (ปาล์มและ/หรือน้ำมันในเมล็ดปาล์ม) อีกส่วนที่เล็กกว่าของโมเลกุลมาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี Cetearyl Isononanoate มีความหนืดปานกลาง มาพร้อมคุณสมบัติไม่ละลายในน้ำ (กันน้ำ) เพื่อช่วยให้ผิวที่หยาบกร้านมีสัมผัสนุ่มละมุนและเรียบเนียนยิ่งขึ้น

CETYL DIGYCERYL TRIS(Trimethylsiloxy)SILYLETHHYL DIMETHICONE

Cetyl Diglyceryl Tris (Trimethylsiloxy) silylethyl Dimethicone เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ผลิตโดยการสังเคราะห์ ซึ่งช่วยให้สามารถคิดค้นสูตรเครื่องสำอางที่ปลอดสาร PEG และช่วยให้สามารถผลิตอิมัลชั่นชนิดน้ำในซิลิโคนและอิมัลชั่นชนิดน้ำในน้ำมันที่มีความคงตัวพร้อมสัมผัสเบาสบายผิว

CETYL PEG/PPG-10/1 DIMETHICONE

Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone เป็นส่วนผสมของซิลิโคนที่ผลิตโดยการสังเคราะห์ โดยมีคุณสมบัติจับกับน้ำ ให้ความเนียนนุ่ม ลื่นและนุ่มละมุนดุจแพรไหม สารชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นสารบำรุงผิว/เส้นผมและเป็นอิมัลซิไฟเออร์ ซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้าและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CETYL RICINOLEATE

Cetyl Ricinoleate เป็นสารเอสเตอร์ของ Cetyl Alcohol และกรดลิโนเลนิกที่ได้มาจากน้ำมันละหุ่ง โดยสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่พบได้ตามธรรมชาติชนิดนี้มีความเหนียวข้นคล้ายเนยอ่อนและละลายที่อุณหภูมิร่างกาย ซึ่งนำมาใช้ในอิมัลชั่นของผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น โลชั่นและครีม
Chamomilla Recutita Flower Extract / Chamomile

Chamomilla Recutita Flower Extract / Chamomile

เป็นที่รู้จักกันมายาวนานว่าดอก Chamomile มีคุณสมบัติในการรักษาเยียวยา จึงมีการใช้ดอก Chamomile เป็นพืชสมุนไพรมาตั้งแต่ในสมัยอียิปต์โบราณ สารสกัดดอก Chamomile จะได้รับการผลิตโดยใช้กระบวนการสกัดที่อ่อนโยนซึ่งเหมาะสมที่สุดเพื่อช่วยในการเก็บรักษาส่วนผสมตามธรรมชาติเอาไว้ได้ สารสกัดชนิดนี้ยังเหมาะสำหรับใช้บนผิวเป็นพิเศษเพราะมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ นอกจากนี้ ดอก Chamomile ยังมี Alpha bisabolol ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผลเป็นพิเศษ

CHARCOAL POWDER

Charcoal Powder เป็นสารคาร์บอนแห้งที่ได้มาจากการเผาสารอินทรีย์ด้วยความร้อน ซึ่งเป็นวัสดุรูพรุนแบบไมโครพอรัสที่มีคุณสมบัติดูดซับดีเยี่ยมสำหรับพื้นผิวกว้างโดยเฉพาะ จึงเหมาะสำหรับการทำความสะอาดผิว และนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมันและผิวที่เป็นสิวง่าย

CHITOSAN

ส่วนผสมนี้มีสถานะเป็นของแข็งที่ไม่ละลายในน้ำ ส่วนในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว อาจมีการนำ Siloxane Polymer มาใช้ในผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งตา ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้า ลิปสติก น้ำยาทาเล็บ รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม

CHOLESTEROL

Cholesterol เป็นสารไขมันคล้ายแว็กซ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้สารประกอบของน้ำมันและของเหลวในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวแยกออกจากกัน และเมื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวก็จะมีคุณสมบัติบำรุงผิวด้วยเช่นกัน

CHONDRUS CRISPUS EXTRACT

Chondrus Crispus Extract หรือคาร์ราจีแนนเป็นโพลิเมอร์ประจุลบตามธรรมชาติที่สกัดมาจากสาหร่ายสีแดง ซึ่งละลายได้ในน้ำร้อนหรือน้ำเย็น สามารถเพิ่มความหนืดให้น้ำและก่อเจลได้อีกด้วยโดยขึ้นอยู่กับชนิด สำหรับในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง มีการนำสารชนิดนี้มาใช้เพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือช่วยให้อิมัลชั่นมีความคงตัว นอกจากนี้ Chondrus Crispus Extract ยังมีคุณลักษณะพิเศษที่ช่วยให้สบายผิวเมื่อทาอีกด้วย

CI 10316

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 11680

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 12490

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 14720

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 15850

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 15985

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 16035

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 17200

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 19140

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 28440

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 40800

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 42053

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 42090

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 45100

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 47005

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 60725

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 61565

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 61570

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 73360

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 74160

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 75470

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 77007

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 77266 (CARBON BLACK)

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจะมีสีเป็นส่วนผสม

CI 77268:1

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 77288

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 77289

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 77491

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 77492

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 77499

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CI 77891

CI ย่อมาจาก Color Index (ดัชนีสี) ตัวเลขที่เพิ่มเข้ามาจะบอกถึงสีที่เจาะจง เช่น CI 42090 คือสีน้ำเงิน ทั้งนี้ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้ารวมถึงเป็นสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CITRAL

CITRAL - Citrus Lemon Verbena (ตัวบ่งชี้กลิ่นหอมตามมาตรฐานของ IFRA)

เป็นกลิ่นหอมที่พบได้ทั่วไปในเอสเซนเชียลออยล์จากพืชตระกูลส้มตามธรรมชาติ โดยให้กลิ่นผลไม้ตระกูลส้ม และเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้น้ำหอม พร้อมทั้งเติมความสดชื่นและมอบกลิ่นหวานฉ่ำให้กับกลิ่นหอมตระกูลกลิ่นเฮสเพอริดิค
citric acid

Citric Acid

Alpha hydroxy acids (ตัวย่อ: AHAs) อยู่ในกลุ่มส่วนผสม เช่น Lactic acid และ Citric Acid AHAs พบได้ในผลไม้ เช่น องุ่นและเลมอน รวมถึงในอ้อยและนม มักเรียกกันว่ากรดผลไม้ โดยจะนำมาใช้ในระดับความเข้มข้นต่ำเพื่อเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามปกติอย่างอ่อนโยน เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง เซลล์ผิวด้านบนสุดที่แห้งจะค่อยๆ ลอกออก ช่วยให้ผิวแลดูเนียนและดูดีกว่าที่เคย

CITRONELLOL - FLORAL ROSE CITRUS

CITRONELLOL - Floral Rose Citrus (ตัวบ่งชี้กลิ่นหอมตามมาตรฐานของ IFRA)

กลิ่นหอมชนิดนี้พบได้ในเจอเรเนียม กุหลาบ และดอกไม้ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่มกลิ่นกุหลาบธรรมชาติสำหรับการปรุงน้ำหอมผู้หญิง และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในกลิ่นหอมแนวแมกไม้ (fougére) สำหรับผู้ชาย

CITRULLINE

Citrulline (Citrulline ในที่นี้จะหมายถึง L-(+)-citrulline เสมอ) เป็นกรดอะมิโนแบบแอลฟา ซึ่งจะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในพืชและสัตว์ พบได้มากในน้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อของต้นเบิร์ช ต้นแอลเดอร์ และต้นวอลนัท และยังพบได้จากพืชในวงศ์แตงอีกด้วย ในตับมนุษย์ Citrulline จะเกิดจาก Carbamyl Phophate และ Ornithine โดยจะทำหน้าที่เป็นสารตัวกลางในวัฏจักรยูเรีย ปกติแล้ว Citrulline จะสังเคราะห์มาจาก L-ornithine และ Carbamoyl Phosphate โดยมี Ornithine-Carbamoyl Transferase ที่แยกออกมาจากเศษตกค้างของ Phosphate Citrulline จะถูกขับออกมาพร้อมปัสสาวะ ส่วนในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Citrulline จะใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

CITRULLUS LANATUS FRUIT EXTRACT

สารสกัดจากผล Citrullus Lanatus หรือที่รู้จักกันในชื่อ แตงโม สารสกัดจากพืชชนิดนี้เป็นที่รู้จักและอธิบายไว้ในสิ่งตีพิมพ์ว่าเป็นที่มาของสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งรวมถึงไลโคปีน โดยอุดมด้วยกลุ่มวิตามิน (เอ, บี, ซี และอี), เกลือแร่ (K, Mg, Ca และ Fe), กรดอะมิโน Citrulline, Arginine, สารต้านอนุมูลอิสระแคโรทีนอยด์และสารประกอบฟีนอล

CITRUS AURANTIFOLIA JUICE

มะนาวหรือ Citrus Aurantifolia จัดอยู่ในกลุ่มพืชตระกูลส้ม ซึ่งเป็นผลไม้ที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในแทบทุกมุมโลก ผล เนื้อ เปลือก และเมล็ดของมะนาวเป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อเครื่องสำอางอย่างมาก มะนาวทั้งลูกยังอุดมไปด้วยด้วยวิตามิน แคโรทีนอยด์ แร่ธาตุ และน้ำมันหอมระเหย

CITRUS LIMON JUICE

มีการนำส่วนผสมจำนวนมากที่ได้จากเลมอน เช่น สารสกัดจากผล Citrus Limon (เลมอน) และน้ำมันจากผล Citrus Limon (เลมอน) มาใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว โดยส่วนผสมดังกล่าวอาจพบได้ในผลิตภัณฑ์อาบน้ำ สบู่และผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งตา ผลิตภัณฑ์น้ำหอม และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม

CLIMBAZOLE

โดยหลักแล้ว Climbazole จะใช้เป็นสารต้านเชื้อราในผลิตภัณฑ์สูตรรักษารังแคจำนวนมาก

Cocamide DEA

Cocamide DEA เป็นของเหลวเหนียวที่ใช้เป็นสารก่อโฟมในแชมพูและผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ส่วนผสมชนิดนี้ได้จากการทำปฏิกิริยาระหว่างการผสมกรดไขมันของน้ำมันมะพร้าวเข้ากับ Diethanolamine ตัวอักษร 'DEA' ใน Cocamide DEA ย่อมาจาก Diethanolamide แต่ไม่ควรสับสนระหว่างสารอีกชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Diethanolamine หรือที่บางครั้งเรียกว่า 'DEA' ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง กฎหมายเกี่ยวกับเครื่องสำอางห้ามไม่ให้ใช้ Diethanolamine ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ส่วน Cocamide DEA สามารถใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ กฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยของเครื่องสำอางในยุโรปที่เคร่งครัดได้กำหนดว่าส่วนผสมทั้งหมดในเครื่องสำอางต้องปลอดภัยต่อการใช้งาน โดยคณะกรรมาธิการยุโรปหรือ Scientific Committee on Consumer Safety (SCCS) ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอิสระไม่เคยตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของ Cocamide DEA

Cocamidopropyl Betaine

Cocamidopropyl betaine เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดสองประจุที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

Coco-Glucoside

Coco-Glucoside เกิดจากการทําปฏิกิริยาระหว่างกรดไขมันของน้ำมันมะพร้าวกับกลูโคส สิ่งที่ได้ก็คือสารลดแรงตึงผิวที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ซึ่งใช้กันแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก ผิวหน้าและผิวกาย ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

Coco-Betaine

Coco-Betaine เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดสองประจุที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

Coco-Caprylate/Caprate

Coco-Caprylate/Caprate เป็นผลิตภัณฑ์จากแอลกอฮอล์ไขมันมะพร้าวจากธรรมชาติที่ได้จากเมล็ดหรือเนื้อของมะพร้าวแก่ และการผสมกรดไขมันที่แยกส่วนจากไขมันผักตามที่กำหนดไว้ จนได้เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่เกลี่ยได้รวดเร็วและช่วยให้ความชุ่มชื้น Coco-Caprylate/Caprate จะทำให้ผิวรู้สึกดีเพราะมอบความรู้สึกเบาสบายผิวเป็นพิเศษและเกลี่ยได้รวดเร็ว นอกจากนี้ ยังไม่สามารถออกซิเดชันได้และไม่มีกลิ่น สารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่เหมาะสมเช่นนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ผลิตภัณฑ์สำหรับการนวด ฯลฯ ทุกประเภท

Coconut Acid

Coconut Acid เป็นส่วนผสมตามธรรมชาติของกรดไขมันที่มีกรดไขมันขนาดโมเลกุลปานกลางซึ่งได้จากน้ำมัน Cocos Nucifera (มะพร้าว) มีการใช้ Coconut Acid ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวโดยทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิว/ช่วยทำความสะอาด สารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทําอิมัลชั่น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและดูแลผิวให้เนียนนุ่ม โดยจะซึมลงบนผิวอย่างช้าๆ และมอบความสดชื่นได้ยาวนานยิ่งขึ้น

COCOS NUCIFERA OIL

น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันจากเนื้อมะพร้าวแห้งเป็นน้ำมันธรรมชาติที่รับประทานได้ ซึ่งได้จากเมล็ดหรือเนื้อของมะพร้าวที่เก็บเกี่ยวจากต้นมะพร้าว (Cocos Nucifera) น้ำมันมะพร้าวแทบไม่มีกลิ่นเหม็นหืน เนื่องจากมีปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวสูงมาก (กรดลอริก 40%) ซึ่งจะละลายที่อุณหภูมิ 25°C จึงเรียกอีกชื่อว่าไขมันมะพร้าว ในแวดวงเครื่องสำอาง Cocos Nucifera Oil นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและริมฝีปาก ครีมกันแดด เจลอาบน้ำ และแชมพู

Colloidal Oatmeal

Colloidal Oatmeal เป็นข้าวโอ๊ตบด ซึ่งทราบกันว่าช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองเล็กๆ น้อยๆ บนผิว เมื่อมีการผสมข้าวโอ๊ตในผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวและเครื่องสำอาง ก็จะเรียกว่า "Avena Sativa (Oat) Kernel Meal"

COUMARIN

Powdery Warm Almond (ตัวบ่งชี้กลิ่นหอมตามมาตรฐานของ IFRA)

เป็นกลิ่นหอมที่มีที่มาจากเมล็ดถั่วทองกา ซึ่งให้กลิ่นอัลมอนด์ที่หอมละมุนเป็นธรรมชาติ ชวนให้รู้สึกอบอุ่น ผสานกลิ่นจางๆ ของต้นยี่หร่าและยาสูบ กลิ่นหอมกลิ่นนี้ใช้เป็นส่วนประกอบหลักของน้ำหอมในตระกูลฟูแฌร์และออเรียนทอล เพราะมีกลิ่นหอมละมุนคล้ายแป้งที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย

Copernicia Cerifera Cera

Creatine เป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโนในร่างกายที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานของเซลล์ โดยเซลล์จะมี Creatine ถึงระดับที่ต้องการทางชีวภาพได้โดยการชีวสังเคราะห์จาก Arginine ของกรดอะมิโน Glycine และ Methionine และ/หรือการรับประทานเนื้อและปลา Creatine มีหน้าที่สำคัญคือให้พลังงานแก่ร่างกายโดยทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่ที่เชื่อมต่อ ลำเลียง และปลดปล่อยพลังงาน ซึ่งจะช่วยดูแลความต้องการพลังงานสำรอง

Creatine

Creatine เป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโนในร่างกายที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานของเซลล์ โดยเซลล์จะมี Creatine ถึงระดับที่ต้องการทางชีวภาพได้โดยการชีวสังเคราะห์จาก Arginine ของกรดอะมิโน Glycine และ Methionine และ/หรือการรับประทานเนื้อและปลา Creatine มีหน้าที่สำคัญคือให้พลังงานแก่ร่างกายโดยทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่ที่เชื่อมต่อ ลำเลียง และปลดปล่อยพลังงาน ซึ่งจะช่วยดูแลความต้องการพลังงานสำรอง

CUCUMIS SATIVUS JUICE

สารสกัดแตงกวาได้มาจากการสกัดเย็นแตงกวาบด แตงกวามีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 5 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือมีส่วนประกอบที่จำเป็นต่อร่างกายของเราแทบทั้งหมด โดยส่วนผสมหลักได้แก่ แม็กนีเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส กรดอะมิโนที่มีประโยชน์ โพแทสเซียม ทองแดง สังกะสี และแคลเซียม นอกจากนี้ สารสกัดแตงกวายังอุดมด้วยวิตามินเอ, บี 1, บี 2, ซี และอี ซึ่งสารอาหารที่มีคุณค่าเหล่านี้จะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

Cyclomethicone

ซิลิโคน* เป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปแบบของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดมากกว่าหรือน้อยกว่า โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย คุณสมบัติของซิลิโคน ออยล์เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนุ่มลื่น นั่นก็คือจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมหรือผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้ามีเนื้อนุ่มลื่นดุจแพรไหม เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่หรูหรา รวมถึงให้ความแวววาวและนุ่มละมุนเมื่อผสมในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ* หากต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีซิลิโคนหรือไม่ โปรดดูรายการส่วนผสมในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งอาจอยู่ในชื่อต่างๆ เช่น "dimethicone", "cyclomethicone", "dimethiconol" และ "amodimethicone"

CYMBOPOGON CITRATUS EXTRACT

Cymbopogon Citratus หรือที่เรียกกันว่าตะไคร้เป็นพืชพื้นเมืองที่ปลูกในเขตร้อนและเขตกึ่งร้อนของเอเชีย โดยรวมแล้ว ตะไคร้จะประกอบด้วย Citral, Citronellal, Geraniol, Limonene และ Methyl Heptenone ประโยชน์ของตะไคร้มีหลายอย่าง เนื่องจากมี Terpene-Derivates หรือ ISO ที่หลากหลาย จึงมีการนำตะไคร้มาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ

Decyl Glucoside

Decyl Glucoside เกิดจากการทําปฏิกิริยาระหว่างแอลกอฮอล์ประเภทหนึ่งกับกลูโคส สิ่งที่ได้ก็คือสารลดแรงตึงผิวที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ซึ่งใช้กันแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก ผิวหน้าและผิวกาย ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

DECYL OLEATE

Decyl Oleate เป็นเอสเตอร์ของ Decyl Alcohol และกรดโอเลอิก ซึ่งเป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่หาได้ตามธรรมชาติโดยมีความหนืดและนุ่มละมุนเมื่อสัมผัสผิว

Decylene Glycol

Decanediol (Decylene Glycol) เป็นส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นซึ่งมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย Decylene Glycol ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม

DEHYDROACETIC ACID

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxyethanol และ Parabens

DIAMMONIUM CITRATE

Diammonium Citrate เป็นเกลือของกรดซิตริก ซึ่งใช้เป็นสารปรับความเป็นกรดหรือความเป็นด่างให้เป็นกลาง และคงความเสถียรของค่า pH ทางสหภาพยุโรปได้อนุญาตให้ใช้ Diammonium Citrate เป็นสารเติมแต่งอาหารและเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

DIAMOND POWDER

Diamond Powder ได้จากการดัดแปลงคาร์บอนให้ตกผลึกและปกติแล้ว จะมีแหล่งกำเนิดตามธรรมชาติ
DIBUTYL ADIPATE

Diazolidinyl Urea

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

DIBUTYL ADIPATE

Dibutyl Adipate เป็นไดเอสเตอร์ของ Butyl Alcohol และ Adipic Acid มีลักษณะเป็นของเหลวเหมือนน้ำมันสังเคราะห์ใสไร้สี และสามารถเกลี่ยบนผิวได้ดี พร้อมช่วยดูแลผิวให้เนียนนุ่ม จึงเหมาะกับสูตรผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นพิเศษเนื่องจากสามารถทำละลายได้ดีในสารป้องกันแสงแดดที่ไม่มีสี

Dicaprylyl Ether

Dicaprylyl Ether พบได้ในธรรมชาติ (จากน้ำมันปาล์มหรือน้ำมันในเมล็ดปาล์ม) หรืออาจได้มาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี และอาจพบได้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น โลชั่น/มอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์กันแดด ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย ครีมบำรุงผิวรอบดวงตา และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

Dichlorobenzyl Alcohol

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Diethylhexyl Butamido Triazone

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Diethylhexyl Syringylidenemalonate

Diethylhexyl Syringylidenemalonate ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ พร้อมช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไม่ให้เสื่อมสภาพทางเคมีหรือทางกายภาพเพราะแสงแดด

DIHYDROXYACETONE

โลชั่นกันแดดหรือโลชั่นทำผิวแทนมีสาร Dihydroxyacetone (DHA) ที่ทำให้ผิวเข้มขึ้นตามปฏิกิริยาเคมี โดย DHA เป็นผลิตผลทางชีวภาพที่ร่างกายสร้างขึ้น และจะส่งผลในผิวชั้น Stratum Corneum DHA จะทำให้ผิวมีสีน้ำตาลเข้มขึ้นได้เองผ่านปฎิกิริยาไกลโคซีเลชั่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเอนไซม์แบบทวนกลับไม่ได้ของสารเอมินหรือกลุ่มอะมิโนในโปรตีนผิว ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า Maillard reaction

DIISOSTEAROYL POLYGLYCERYL-3 DIMER DILINOLEATE

Diisostearoyl Polyglyceryl-3 Dimer Dilinoleate คือเอสเตอร์ที่ได้มาจากกรดไขมันที่จำเป็น มีลักษณะเป็นของเหลวหนืดคล้ายน้ำมัน จึงขึ้นชื่อในด้านการยึดติดผิวได้นานพิเศษ ใช้เพื่อเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำในสูตรครีมกันแดดหรือเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้าติดทนนาน

Dimethicone

ซิลิโคน* เป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปแบบของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดมากกว่าหรือน้อยกว่า โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย คุณสมบัติหลักของซิลิโคน ออยล์เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนุ่มลื่น นั่นก็คือจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมหรือเครื่องสำอางมีเนื้อเรียบเนียนดุจแพรไหม เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่หรูหรา รวมถึงให้ความแวววาวและนุ่มละมุนเมื่อผสมในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ* หากต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีซิลิโคนหรือไม่ โปรดดูรายการส่วนผสมในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งอาจอยู่ในชื่อต่างๆ เช่น "dimethicone", "cyclomethicone", "dimethiconol" และ "amodimethicone"

Dimethicone Crosspolymer

ซิลิโคน* เป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปแบบของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดมากกว่าหรือน้อยกว่า โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย คุณสมบัติหลักของซิลิโคน ออยล์เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนุ่มลื่น นั่นก็คือจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมหรือเครื่องสำอางมีเนื้อเรียบเนียนดุจแพรไหม เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่หรูหรา รวมถึงให้ความแวววาวและนุ่มละมุนเมื่อผสมในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ* หากต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีซิลิโคนหรือไม่ โปรดดูรายการส่วนผสมในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งอาจอยู่ในชื่อต่างๆ เช่น "dimethicone", "cyclomethicone", "dimethiconol" และ "amodimethicone"

Dimethiconol

ซิลิโคน* เป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปแบบของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดมากกว่าหรือน้อยกว่า โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย คุณสมบัติหลักของซิลิโคน ออยล์เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนุ่มลื่น นั่นก็คือจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมหรือเครื่องสำอางมีเนื้อเรียบเนียนดุจแพรไหม เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่หรูหรา รวมถึงให้ความแวววาวและนุ่มละมุนเมื่อผสมในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ* หากต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีซิลิโคนหรือไม่ โปรดดูรายการส่วนผสมในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งอาจอยู่ในชื่อต่างๆ เช่น "dimethicone", "cyclomethicone", "dimethiconol" และ "amodimethicone"

DIPENTAERYTHRITYL HEXACAPRYLATE/HEXACAPRATE

มีการนำ Tridecyl Stearate, Tridecyl Trimellitate และ Dipentaerythrityl Hexacaprylate/Hexacaprate มาผสมกันจนได้ส่วนผสมพิเศษของเอสเตอร์ที่ไม่ได้มาจากสัตว์โดยสกัดได้จากผัก (เมล็ด/เนื้อในเมล็ด/ผลของมะพร้าวและ/หรือปาล์ม) และแหล่งสังเคราะห์ ซึ่งจะให้สัมผัสที่เข้มข้น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมทั้งเนียนนุ่มดุจแพรไหมและติดทนนาน

DIPROPYLENE GLYCOL

Dipropylene Glycol เป็นแอลกอฮอล์ซึ่งในตระกูลนี้ยังมีสารอื่นๆ อีกมากมาย เช่น Propylene Glycol หรือ Butylene Glycol เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ไม่ละลายในน้ำ (ชอบน้ำมัน) กลุ่มของ Glycol จึงเหมาะใช้เป็นตัวทำละลายส่วนผสมเพิ่มเติมชั้นดีในสูตรเครื่องสำอาง โดยจะช่วยให้ส่วนผสมหรือเม็ดสีกระจายตัวหรือเกลี่ยตัวได้อย่างสม่ำเสมอ และลดความหนืดของผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย จึงนิยมใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง เช่น แชมพู มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ครีมกันแดด และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

Disodium EDTA

EDTA และเกลือของ EDTA (เช่น Trisodium EDTA) ผลิตโดยการสังเคราะห์ วัตถุประสงค์หลักของการเติมส่วนผสมชนิดนี้ลงในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือคุณสมบัติด้านการจับไอออนของโลหะได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเสื่อมสภาพ

Disodium Lauryl Sulfosuccinate

Disodium Lauryl Sulfosuccinate เป็นสารลดแรงตึงผิวไอออนลบซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

Disodium PEG-5 Laurylcitrate Sulfosuccinate

Disodium PEG-5 Laurylcitrate Sulfosuccinate เป็นสารลดแรงตึงผิวไอออนลบซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว โดยสารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

Distarch Phosphate

Distarch Phosphate เป็นแป้งสตาร์ชธรรมชาติดัดแปร ซึ่งปกติมักใช้แป้งสตาร์ชข้าวโพด แป้งสตาร์ชขนาดไมโครเมตรจะช่วยดูดซับไขมัน (น้ำมัน) ได้มาก ดังนั้น เมื่อผสม Distarch Phosphate ลงในอิมัลชั่น เช่น ในครีมหรือโลชั่น ก็จะช่วยให้ผิวเรียบเนียน รู้สึกเบาสบายและมันน้อยลง Distarch Phosphate จึงเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสูตรควบคุมความมันเป็นพิเศษ

Disteardimonium Hectorite

Disteardimonium Hectorite เป็นดินดัดแปรที่เป็นลิโพฟิลิก ซึ่งเรียกอีกชื่อว่า Called organoclay วัตถุดิบชนิดนี้จะทำให้น้ำมันหนืดขึ้นและใช้ในสเปรย์ระงับกลิ่นกาย สบู่ก้อน หรือผลิตภัณฑ์แต่งหน้า นอกจากนี้ Disteardimonium Hectorite ยังทำให้อิมัลชั่นคงตัวเนื่องจากคุณสมบัติที่ทำให้น้ำมันหนืดขึ้น

Disodium Cocoyl Glutamate

Disodium Cocoyl Glutamate เป็นสารลดแรงตึงผิวที่เป็นกรดอะมิโนไอออนลบที่มีฤทธิ์อ่อนๆ โดยจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและเส้นผมมีฟองเนียนละเอียดและทำความสะอาดได้ดี

Disodium Laureth Sulfosuccinate

Disodium Laureth Sulfosuccinate เป็นสารลดแรงตึงผิวไอออนลบซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

DMDM Hydantoin

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

EDTA

EDTA และเกลือของ EDTA (เช่น Trisodium EDTA) ผลิตโดยการสังเคราะห์ วัตถุประสงค์หลักของการเติมส่วนผสมชนิดนี้ลงในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือคุณสมบัติด้านการจับไอออนของโลหะได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเสื่อมสภาพ

ETHYLHEXYL COCOATE

Ethylhexyl Cocoate เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่เป็นเอสเตอร์คุณภาพสูง ส่วนหนึ่งของโมเลกุลมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ (มะพร้าว) อีกส่วนหนึ่งมาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี
Ethylhexyl Cocoate นิยมใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางโดยช่วยให้ผิวมีสัมผัสที่นุ่มละมุน จึงใช้ในสูตรของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายเป็นหลัก

Ethylhexyl Methoxycinnamate

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Ethylhexyl Salicylate

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

ETHYLHEXYL STEARATE

Ethylhexyl Stearate เป็นน้ำมันสำหรับเครื่องสำอางที่ซึมซาบเร็ว พร้อมความสามารถในการกระจายตัวได้ดีโดยทนต่อการออกซิเดชัน ส่วนหนึ่งของโมเลกุลมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ (ปาล์มและ/หรือน้ำมันในเมล็ดปาล์ม) อีกส่วนหนึ่งมาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี
Ethylhexyl Stearate เหมาะสำหรับครีมและโลชั่น น้ำมันบำรุงผิวกายและผงแช่น้ำ รวมถึงกันแดดทุกประเภท (เนื่องจากมีความเข้ากันได้กับสารป้องกันแสงแดด)

Ethylhexyl Triazone

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Ethylparaben

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

EUGENOL

EUGENOL – ดอกกานพลู (ตัวบ่งชี้กลิ่นหอมตามมาตรฐานของ IFRA)

ส่วนผสมของน้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่มีโน้ตแบบ Spicy Woody ซึ่งเป็นธรรมชาติและตราตรึง พบได้ในเอสเซนเชียลออยล์ธรรมชาติตั้งแต่ชนิดที่มีอัตราส่วนสูง (เช่น กานพลู) จนถึงอัตราส่วนต่ำ (เช่น กระดังงา) นอกจากนี้ Eugenol ยังใช้กันแพร่หลายในแวดวงทันตกรรม โดยจะให้ความรู้สึกอุ่น มีความเป็นครีม และความรู้สึกดุจดอกไม้สีขาวจากธรรมชาติ

F-J

FARNESOL

กลิ่นหอมชนิดนี้ประกอบด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ เช่น น้ำมันหอมระเหยจากเนโรลี กระดังงา และพาลมาโรซา มาพร้อมกลิ่นหอมละมุนชวนสดชื่นของดอกไม้ ส่วนใหญ่ใช้เพื่อเพิ่มความสดชื่น ความรู้สึกสะอาด และความโปร่งสบายของดอกไม้

FOENICULUM VULGARE FRUIT EXTRACT

เฟนเนล (Foeniculum Vulgare) เป็นพืชตระกูลไม้ดอกในวงศ์แครอท ซึ่งเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปีที่มีความทนทาน มีดอกสีเหลืองและมีใบคล้ายขนนก เฟนเนลเป็นพืชท้องถิ่นที่ขึ้นตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ก็พบได้ทั่วไปในหลายภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะในบริเวณที่มีดินแห้งใกล้กับชายฝั่งทะเลและริมแม่น้ำ พืชชนิดนี้มีกลิ่นหอมมากและใช้เป็นเครื่องเทศในการประกอบอาหาร นอกจากนี้ ยังมีการนำสารสกัดมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ มาเป็นเวลาหลายปี

FOLIC ACID

Folate หรือที่รู้จักกันในชื่อวิตามินบี 9 หรือโฟลาซินเป็นวิตามินบีชนิดหนึ่ง Folic Acid ที่ผลิตขึ้นจะเปลี่ยนเป็น Folate เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อร่างกายเพื่อใช้ผลิต DNA และ RNA รวมถึงเผาผลาญกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการแบ่งเซลล์ เนื่องจากมนุษย์ไม่สามารถสร้าง Folate ได้เอง จึงต้องรับประทานจากอาหาร ทำให้ Folate เป็นวิตามินที่จำเป็น

FRAGARIA ANANASSA FRUIT JUICE

ส่วนผสม Fragaria Ananassa Fruit Juice เป็นวัตถุดิบที่ได้จากผักที่เป็นต้นกำเนิด หรือที่เรียกกันว่าสตรอว์เบอร์รี ซึ่งเพาะปลูกกันทั่วโลก ผลไม้ชนิดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นหอมเฉพาะตัว ผลสีแดงสด เนื้อชุ่มฉ่ำ และมีรสหวาน

Fucus Vesiculosus Extract

Fucus Vesiculosus Extract เป็นสารสกัดทัลลัสของสาหร่ายแบลด์เดอร์แรคแห้ง ซึ่งเป็นสาหร่ายสีน้ำตาลชนิดหนึ่งที่รับประทานได้ และอุดมด้วยแร่ธาตุสูง รวมถึงโซเดียมและโพแทสเซียม

GARCINIA CAMBOGIA FRUIT EXTRACT

Garcinia Cambogia Fruit Extract เป็นสารสกัดจากผลของต้นส้มแขก ซึ่งเป็นไม้ในตระกูลมังคุด Hydroxycitric Acid จากสมุนไพรในสารสกัดชนิดนี้จะช่วยลดการขับน้ำมันของผิวหนัง

GARDENIA TAITENSIS FLOWER EXTRACT

Gardenia Taitensis มีอีกชื่อว่า Tahitian Gardenia หรือดอกพุดแสงอุษา จัดเป็นพืชในตระกูลเข็ม และเป็นไม้พุ่มเขตร้อนที่เขียวชอุ่มตลอดทั้งปี พืชที่อยู่ในตระกูลเข็มจะมีกลิ่นหอมหวานมาก โดยเฉพาะชนิดที่มีดอกสีขาว เช่น Gardenia Taitensis กลิ่นของดอกพุดแสงอุษาจะคล้ายคลึงกับ Gardenias และ Polianthes Tuberosa (สมุนไพรของเม็กซิโก) และยังมีสารประกอบเช่นเดียวกับดอกแอปเปิ้ล

Geraniol - Floral Rose Geranium

ส่วนผสมอันเป็นเอกลักษณ์จะพบได้ในพืชนานาชนิด เช่น กุหลาบหรือเจอเรเนียม ลาเวนเดอร์ หรือเนโรลี ตะไคร้หอม ฯลฯ เมื่อเดินเข้าไปท่ามกลางสวนกุหลาบ คุณก็จะถูกรายล้อมด้วยกุหลาบ เมื่อใช้ส่วนผสมชนิดนี้แต่งกลิ่นหอม ก็จะมอบความรู้สึกราวดอกไม้จากธรรมชาติที่ชวนสดชื่น

Ginkgo Biloba Leaf Extract

Ginkgo หรือที่รู้จักกันในชื่อ Miracle tree ถูกนำออกจากญี่ปุ่นเพื่อมาปลูกในยุโรปเมื่อ 200 ปีก่อน Ginkgo biloba leaf extract ได้รับการผลิตโดยใช้กระบวนการสกัดที่อ่อนโยนซึ่งเหมาะสมที่สุดเพื่อช่วยให้เก็บรักษาส่วนผสมตามธรรมชาติเอาไว้ได้ สารสกัด Ginkgo biloba leaf มีส่วนผสมในกลุ่ม Flavonoids, Bilobalides และ Ginkgolides นอกจากนี้ Ginkgo biloba leaf extract ยังมีคุณสมบัติด้านการบำรุงอีกด้วย

Glucose

Glucose เป็นน้ำตาลที่เรารู้จักกันดี ซึ่งมีอยู่ในธรรมชาติและพบได้ในผลไม้และส่วนต่างๆ ของพืช Glucose เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่พบได้มากที่สุด ซึ่งจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตประเภทหนึ่ง โดยหลักแล้วจะเกิดขึ้นจากพืชและสาหร่ายส่วนใหญ่ในระหว่างการสังเคราะห์แสงจากน้ำและคาร์บอนไดออกไซด์โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ Glucose จะใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดที่ไม่มีประจุในเครื่องสำอาง เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เป็นต้น

GLUCOSYLRUTIN

ส่วนผสมนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งจะปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระออกซิเจน (ROS) โดย Isoquercitirin สามารถเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระและช่วยไม่ให้ผิวเกิดอาการแพ้แดด

GLUTAMIC ACID

Glutamic Acid เป็นกรดอะมิโนแบบแอลฟาที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ กรดชนิดนี้มีประโยชน์ในการคงค่า pH บนผิวของเรา โดยจะช่วยกักโมเลกุลน้ำ จึงให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้เล็กน้อย และมักใช้กันแพร่หลายในเครื่องสำอางต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวกาย

Glycerin

Glycerin (บางครั้งเรียกว่า Glycerol) เป็นสารประกอบแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ พบได้ในเนื้อเยื่อทุกชนิดของสัตว์ พืช และมนุษย์ซึ่งรวมถึงผิวและเลือด Glycerin นิยมใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว โดยมีที่มาจากแหล่งธรรมชาติ (เช่น ถั่วเหลือง อ้อย หรือน้ำตาลแบะแซ) หรือผลิตโดยการสังเคราะห์ ซึ่งจะมีโครงสร้างทางเคมีคล้ายคลึงกับ Glycerin ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และร่างกายจะใช้ประโยชน์จากทั้งคู่ได้ในลักษณะเดียวกัน ทั้งนี้ Glycerin เป็นสารช่วยกักเก็บน้ำที่รู้จักกันดีซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์และผิวสูญเสียความชุ่มชื้น รวมถึงเป็นเกราะป้องกันและบำรุงผิวอีกด้วย

GLYCERYL BEHENATE

Glyceryl Behenate, Glyceryl Dibehenate และ Tribehenin เป็นผลจากปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชันของ Behenic Acid และ Glycerol โดยส่วนผสมหลักๆ จะประกอบด้วย Diester Glyceryl Dibehenate ไขมันที่ได้จากธรรมชาติชนิดนี้เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปากและผิว (ครีมและโลชั่น) เป็นต้น ซึ่งใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดและสารให้ความคงตัวในอิมัลชั่นเป็นหลัก เพื่อให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสและเป็นสารเพิ่มความเงางามในผลิตภัณฑ์แบบแท่ง

Glyceryl Caprate

Glyceryl Caprylate เป็นสารช่วยให้เกิดความเปียกจากผักซึ่งทำหน้าที่ต้านแบคทีเรียและยีสต์ได้ดี ส่วนผสมชนิดนี้จะเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของกรดออร์แกนิกและสารกันเสียต่างๆ ตามรายการอนุญาตได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ Glyceryl Caprylate จะช่วยลดความตึงบนผิวเพราะมีโครงสร้างแบบแอมฟิฟิลิก จึงสามารถทำให้ละอองน้ำมีขนาดเล็กลงและอิมัลชั่นคงตัวมากขึ้น ดังนั้น หากใช้ในระดับที่เข้มข้นขึ้น ก็อาจลดความหนืดของอิมัลชั่นลงได้

Glyceryl Caprylate

Glyceryl Caprylate เป็นสารช่วยให้เกิดความเปียกจากพืชซึ่งทำหน้าที่ต้านแบคทีเรียและยีสต์ได้ดี โดยจะเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของกรดออร์แกนิกและสารกันเสียต่างๆ ตามรายการอนุญาตได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ Glyceryl Caprylate จะช่วยลดความตึงบนผิวเพราะมีโครงสร้างแบบแอมฟิฟิลิก จึงสามารถทำให้ละอองน้ำมีขนาดเล็กลงและอิมัลชั่นคงตัวมากขึ้น ดังนั้น หากใช้ในระดับที่เข้มข้นขึ้น ก็อาจลดความหนืดของอิมัลชั่นลงได้

GLYCERYL DIBEHENATE

Glyceryl Behenate, Glyceryl Dibehenate และ Tribehenin เป็นผลจากปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชันของ Behenic Acid และ Glycerol โดยส่วนผสมหลักๆ จะประกอบด้วย Diester Glyceryl Dibehenate ไขมันที่ได้จากธรรมชาติชนิดนี้เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปากและผิว (ครีมและโลชั่น) เป็นต้น ซึ่งใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดและสารให้ความคงตัวในอิมัลชั่นเป็นหลัก เพื่อให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสและเป็นสารเพิ่มความเงางามในผลิตภัณฑ์แบบแท่ง

GLYCERYL GLUCOSIDE

Glyceryl Glucoside มีหน้าที่กักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวโดยปรับ Aquaporin Water Channel บนผิวและเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว สารชนิดนี้เป็นอนุพันธ์ของสารช่วยกักเก็บน้ำในชั้นผิวหรือ Glycerol

GLYCERYL ISOSTEARATE

Glyceryl Isostearate เป็นส่วนผสมของ Glycerin และ Isostearic Acid พบได้ตามธรรมชาติหรือได้มาจากการสังเคราะห์ ใช้สำหรับเติมลงในครีมและโลชั่นเพื่อทำให้ส่วนผสมของน้ำกับน้ำมันกลายเป็นเนื้อเดียวกัน สารชนิดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้อิมัลชั่นมีความคงตัวเท่านั้น แต่ยังทำให้สูตรมีความเหนียวข้นอีกด้วย

GLYCERYL LAURATE

Glyceryl Laurate เป็นโมโนเอสเตอร์ที่ผลิตจาก Glycerin และ Lauric Acid ที่ได้จากผัก โดยเป็นส่วนผสมสารพัดประโยชน์ที่สามารถใช้ในสูตรของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

Glyceryl Oleate

Glyceryl Oleate ได้มาจากพืชและมีคุณสมบัติช่วยทําอิมัลชั่นได้ดี จึงมักนำมาใช้ผสมและทำให้น้ำกับน้ำมันมีความคงตัว นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนและนุ่มละมุน

Glyceryl Stearate

Glyceryl Stearate เป็นสารเพิ่มความคงตัวเพื่อไม่ให้เกิดการแยกชั้นและโคอิมัลซิไฟเออร์สำหรับอิมัลชั่นชนิดน้ำมันในน้ำที่ได้จากผัก สารชนิดนี้จะใช้เป็นสารให้ความคงตัว เช่น ในครีมและโลชั่นของผลิตภัณฑ์สูตรน้ำมันในน้ำ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความหนืดและการช่วยให้อิมัลชั่นคงตัว เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวมีการผสม Glyceryl Stearate อย่างแพร่หลายและสามารถพบได้ในโลชั่น ครีม แป้ง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว เมคอัพเบสและรองพื้น มาสคาร่า อายแชโดว์ อายไลเนอร์ ครีมนวดผมและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผม รวมถึงผลิตภัณฑ์กันแดด

Glyceryl Stearate Citrate

Glyceryl stearate citrate ซึ่งเป็นกลีเซอริลไดเอสเตอร์ ทำจากกลีเซอรีนและกรดไขมันที่ได้จากน้ำมันผัก ส่วนผสมชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มและอิมัลซิไฟเออร์ชนิดน้ำมันในน้ำประเภทไอออนลบที่ปราศจาก PEG และละลายในน้ำ โดยมักใช้ผสมในครีม โลชั่น ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ผลิตภัณฑ์กันแดดและผลิตภัณฑ์หลังการออกแดด

Glyceryl Stearate SE

Glyceryl Stearate SE เป็นอิมัลซิไฟเออร์จากธรรมชาติ (ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสานเข้ากัน) และสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม Glyceryl Stearate SE เป็น Glyceryl Stearate ในรูปแบบ "Self-Emulsifying (ละลายในน้ำได้โดยตรง)" นอกจากนี้ ยังมี Sodium และ/หรือ Potassium stearate ผสมอยู่เล็กน้อย Glyceryl Stearate SE จะช่วยให้อิมัลชั่นคงตัวและมอบเนื้อสัมผัสที่ยอดเยี่ยม รวมถึงจะทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นบนผิวซึ่งช่วยให้ผิวนุ่มละมุนและดูเรียบเนียน นอกจากนี้ ยังช่วยชะลอการสูญเสียน้ำบนผิวโดยสร้างปราการผิวขึ้นมา

GLYCINE

Glycine มีลักษณะเป็นผงสีขาวเหมือนผลึก โดยเป็นกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็นและมีขนาดเล็กที่สุดในบรรดากรดอะมิโน การทา Glycine บนผิวจะช่วยเพิ่มการกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว จึงมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม

GLYCINE SOJA GERM EXTRACT

สารสกัดพืชที่ได้จากถั่วเหลืองชนิดนี้อุดมไปด้วยส่วนผสมจากพืชทุติยภูมิที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้เครือข่ายคอลลาเจนของเซลล์ผิว

Glycine Soja Oil

ปกติแล้ว Soja oil (น้ำมันถั่วเหลือง) ได้จากการบีบอัดหรือสกัดเมล็ดถั่วเหลืองแล้วนำไปกลั่นต่อ ถั่วเหลืองเป็นพืชท้องถิ่นของจีนซึ่งมีการนำไปปลูกในอเมริกาเมื่อช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว จึงมีการเพาะปลูกจำนวนมาก เมล็ดถั่วเหลืองซึ่งมีไขมันและโปรตีนสูงเป็นอาหารที่ชาวเอเชียตะวันออกโปรดปรานมาตั้งแต่สมัยโบราณ น้ำมันอเนกประสงค์ชนิดนี้เป็นของเหลวใสที่แข็งตัวบางส่วนในอุณหภูมิห้อง (semi-drying) มีสีเหลืองอ่อนที่มีกลิ่นเฉพาะตัวบางเบา ส่วนประกอบ 55-65% ของ Gylcine Soja oil ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวจำนวนมากและมีการนำมาใช้เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอย่างแพร่หลาย

GLYCOGEN

Glycogen (หรือที่รู้จักกันในชื่อ แป้งในสัตว์หรือแป้งในตับ) เป็นพอลิแซ็กคาไรด์ที่มีโครงสร้างแบบกิ่งซึ่งผลิตจากหน่วยกลูโคส

GLYCOL

Glycol เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่อยู่ในกลุ่มแอลกอฮอล์ ซึ่งใช้เป็นตัวทำละลายและสารลดความหนืด นอกจากนี้ ยังใช้เป็นสารช่วยกักเก็บน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์สูญเสียความชุ่มชื้นได้อีกด้วย

Glycol Distearate

Glycol Stearate เป็นของแข็งลักษณะคล้ายแว็กซ์สีขาวหรือสีครีม ซึ่งเกิดจากการผสมโมโนเอสเทอร์และไดเอสเตอร์ของ Ethylene Glycol และ Stearic Acid Glycol Stearate มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ทึบแสง จึงใช้ในสูตรสบู่ทำฟอง ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมจำนวนมาก

Glycyrrhetinic Acid

Helianthus Annuus Seed Oil สกัดได้จากธรรมชาติในต้นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในอเมริกา ดอกทานตะวันที่พบเห็นได้ทั่วไปเป็นพืชปีเดียวขนาดใหญ่ในวงศ์ Helianthus โดยเป็นพืชผลที่ปลูกไว้เพื่อเก็บเกี่ยวน้ำมันและเมล็ดที่รับประทานได้ นอกจากนี้ น้ำมันดอกทานตะวันยังมีวิตามินอีอีกด้วย และเมื่อนำมาผสมในเครื่องสำอาง น้ำมันก็จะทำหน้าที่เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มเพื่อให้ผิวน่าสัมผัส

Glycyrrhiza Glabra Root Extract

ส่วนผสมชนิดนี้มีรสหวานและสกัดได้จากรากชะเอม ซึ่งพบได้ในยุโรปตอนใต้และพื้นที่บางส่วนของเอเชีย เช่น อินเดีย พืชชนิดนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องในทางพฤกษศาสตร์กับยี่หร่า โป๊ยกั้กหรือเฟนเนลซึ่งมีรสคล้ายคลึงกัน

Glycyrrhiza Inflata Root Extract

Glycyrrhiza Inflata Root Extract หรือที่เรียกว่า Licochalcone A ได้จากรากของต้นชะเอมเทศ โดยมีคุณสมบัติลดอาการระคายเคือง ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ Glycyrrhiza Inflata Root Extract สามารถช่วยปรับสภาพผิวที่ระคายเคืองและบอบบางแพ้ง่าย รวมถึงช่วยปกป้องผิวจากการก่อตัวของอนุมูลอิสระอันเกิดจาก UV

GOSSYPIUM HERBACEUM SEED EXTRACT

Gossypium Herbaceous เป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของฝ้าย Levant หรือต้นฝ้ายทั่วไป ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในแอฟริกาใต้ซาฮาราและอาระเบีย สารสกัดชนิดนี้ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระพร้อมช่วยปกป้องผิว จึงใช้กันแพร่หลายในสูตรเครื่องสำอางจำนวนมาก

GOSSYPIUM HERBACEUM SEED OIL

Gossypium Herbaceum Seed Oil เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มตามธรรมชาติที่ได้จากเมล็ดฝ้าย น้ำมันที่ได้จากกรดไขมันที่จำเป็นในปริมาณสูงอย่างกรดไลโนเลอิกนี้เป็นส่วนผสมที่มีประโยชน์ในเครื่องสำอาง และขึ้นชื่อในเรื่องการปรับสมดุลให้เกราะป้องกันผิว โดยปกติแล้ว คุณสมบัติเช่นนี้จะเกี่ยวกับการกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวชั้น Stratum Corneum จึงเป็นสารบำรุงผิวที่ดีเพราะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส นอกจากนี้ Gossypium Herbaceum Seed Oil ยังมีประโยชน์สำหรับผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยเนื่องจากมี Gamma Tocopherol เข้มข้นสูง ซึ่งเป็นวิตามินอีสูตรเจือจาง รวมถึงช่วยให้เส้นผมดูเงางามในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม

GUAIAZULENE

Guaiazulene หรือที่รู้จักกันในชื่อ Azulon เป็นสารที่สกัดจากไม้กวาแอคผ่านการสังเคราะห์ มีลักษณะเป็นผลึกไฮโดรคาร์บอนสีน้ำเงิน ซึ่งใช้ในวงการแพทย์และเครื่องสำอาง โดยมีคุณสมบัติที่แทบจะเหมือนกับ Chamomile Azulene ตามธรรมชาติ (Chamazulene)

HAMAMELIS VIRGINIANA BARK/LEAF EXTRACT

สารสกัด Hamamelis Virginiana Leaf ผลิตจากพืช Hamamelis Virginiana โดยได้มาจากการนำใบพืชมาแปรรูปเย็น นิยมใช้กันแพร่หลายในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว สารสกัด Hamamelis Virginiana Leaf จะใช้ในสูตรผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ครีมนวดผม แชมพู ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งตา และโลชั่นหลังโกนหนวด

HAMAMELIS VIRGINIANA WATER

Hamamelis Virginiana Water ขึ้นชื่อในเรื่องการเป็นดอกไม้ฤดูหนาวกลิ่นหอมและผลแห้งแตกที่มีเนื้อสัมผัสเหมือนไม้ สารสกัดจากใบจะใช้ในวงการแพทย์และเครื่องสำอาง โดยได้มาจากการนำใบพืชมาแปรรูปเย็น ซึ่งจะมี Polyphenol และ Flavonoid Hamamelis ขึ้นชื่อในเรื่องการปลอบประโลมผิว ต้านการอักเสบ และช่วยดูแลผิวเมื่อมีอาการระคายเคืองเล็กน้อย จึงมีการนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ

HELIANTHUS ANNUUS SEED CERA

Helianthus Annuus Seed Wax เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่ได้จากผัก พืชชนิดนี้ (ดอกทานตะวัน) มีถิ่นกำเนิดในอเมริกา ดอกทานตะวันที่พบเห็นได้ทั่วไปเป็นพืชปีเดียวขนาดใหญ่ในวงศ์ Helianthus โดยเป็นพืชผลที่ปลูกไว้เพื่อเก็บเกี่ยวน้ำมันและเมล็ดที่รับประทานได้ Helianthus Annuus Seed Cera เป็นแว็กซ์ที่สกัดจากเมล็ดดอกทานตะวัน ซึ่งสามารถใช้เป็นสารเพิ่มเนื้อสัมผัสในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบแข็งหรือแบบกึ่งแข็งได้เนื่องจากมีจุดหลอมเหลวสูง

HELIANTHUS ANNUUS SEED EXTRACT

Helianthus Annuus รู้จักกันทั่วไปในชื่อดอกทานตะวัน และเมล็ดสามารถนำมาใช้ผลิตน้ำมันที่เรียกว่าน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินอี กรดไลโนเลอิก กรดโอเลอิก กรดสเตียริก กรดปาลมิติก สเตอรอล และสควาลีน นอกจากนี้ ยังมีอนุพันธ์ต่างๆ ในเมล็ดที่สามารถใช้ในเครื่องสำอางได้ เช่น น้ำมันดอกทานตะวันที่เติมไฮโดรเจน กลีเซอไรด์น้ำมันดอกทานตะวัน และกรดเมล็ดดอกทานตะวัน Helianthus Annuus Seed Extract มีวิตามินอีสูงซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และยังเป็นสารดักจับอนุมูลอิสระที่สามารถปรับค่าอนุมูลอิสระให้เป็นกลางได้ ส่วนกรดไลโนเลอิกและกรดโอเลอิกมีประโยชน์กับผิวในด้านการฟื้นบำรุงไขมันในผิวชั้นนอกสุดที่ขาดหายไป ทำให้ชั้นผิวไม่เสียหาย จึงช่วยลดอาการผิวแห้ง อาการคัน และอาการผิวตกสะเก็ด

HEXYL CINNAMAL

HEXYL CINNAMAL – กลิ่นดอกไม้, มะลิ, พืชตระกูลส้ม (ตัวบ่งชี้กลิ่นหอมตามมาตรฐานของ IFRA)
ส่วนผสมของกลิ่นหอมชนิดนี้ได้มาจากการสังเคราะห์ทางเคมี ซึ่งเข้ากันได้ดีกับกลิ่นหอมของดอกไม้ธรรมชาติ รวมถึงให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นและชวนรื่นรมย์

HISTIDINE HCI

Histidine Hydrochloride (Histidine HCl เป็นเกลือของกรดอะมิโน) โดย Histidine เป็นกรดอะมิโนแบบแอลฟา ซึ่งก็คือหน่วยโครงสร้างของโปรตีน เกลือของกรดอะมิโน เช่น Histidine Hydrochloride จะใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว

Homosalate

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

HYDRATED SILICA

Hydrated Silica เป็น Silicon Dioxid ในรูปแบบที่มีน้ำประกอบซึ่งได้จากแร่ธาตุ และสามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่อ่อนโยนในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเนื่องจากมีรูปทรงกลม

HYDROGEN PEROXIDE

มีการใส่ Hydrogen Peroxide ลงในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวเพื่อใช้เป็นสารต้านจุลชีพและสารออกซิไดซ์ ซึ่งสารต้านจุลชีพจะออกฤทธิ์ฆ่าหรือยับยั้งการเจริญเติบโตหรือการแพร่พันธุ์ของเชื้อจุลินทรีย์ ส่วนในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว สารออกซิไดซ์จะใช้เพื่อผลิตสารย้อมสีในระหว่างการย้อมสีผมด้วยการออกซิเดชันและเพื่อออกซิไดซ์คราบบนผิวฟันออกเพื่อให้ฟันขาวขึ้น

Hydrogenated Castor Oil


Hydrogenated Castor Oil หรือที่รู้จักกันในชื่อแว็กซ์ละหุ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันเมล็ดละหุ่งตามธรรมชาติโดยมีการควบคุมปริมาณ ทั้งนี้ มีการเติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันมานานหลายทศวรรษเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและช่วยให้น้ำมันมีความคงตัวมากขึ้น Hydrogenated Castor Oil จะมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานกว่าและไม่เหม็นหืนง่ายเท่าน้ำมันที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการ Hydrogenated Castor Oil จะมีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง แข็งแต่เปราะง่ายและมีจุดหลอมเหลวสูง ทำหน้าที่เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มและสารเพิ่มความหนืด โดยจะช่วยเพิ่มความหนืดให้เนื้อครีม ขี้ผึ้ง และโลชั่น จึงสามารถนำมาผสมในเครื่องสำอางเพื่อให้ได้อิมัลชั่นที่นุ่มลื่นและมีความคงตัว

Hydrogenated Coco-Glycerides

Hydrogenated Coco-glycerides หรือที่รู้จักกันในชื่อน้ำมันมะพร้าวเติมไฮโดรเจนเป็นไขมันที่ได้จากพืชตามธรรมชาติ ซึ่งใช้ผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อช่วยฟื้นบำรุงผิวและช่วยให้ผิวดูดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

HYDROGENATED PALM GLYCERIDES

Hydrogenated Palm Glyceride เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่พบได้ตามธรรมชาติหรือได้มาจากการสังเคราะห์ ซึ่งเป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มและสารช่วยทําอิมัลชั่น เมื่อใช้แล้ว จะช่วยให้ผิวและริมฝีปากเนียนนุ่มยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อเพิ่มความสามารถในการทาของสูตรเครื่องสำอางเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมีสัมผัสที่ดีขึ้น

HYDROGENATED POLYDECENE

Hydrogenated Polydecene เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่ผลิตขึ้นจากไฮโดรคาร์บอนผ่านกระบวนการสังเคราะห์ ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมเพื่อให้ผิวเนียนนุ่ม Hydrogenated Polydecene เป็นน้ำมันที่ไม่ละลายในน้ำ ไม่เหนียวเหนอะหนะและเกลี่ยง่ายซึ่งจะก่อฟิล์มที่ไม่อุดตันบนผิวหนัง

Hydrogenated Polyisobutene

Hydrogenated Polyisobutene เป็นโพลีเมอร์ที่ผลิตโดยการสังเคราะห์ซึ่งใช้เพิ่มความหนืดในสูตร รวมถึงจะทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นบนผิวซึ่งช่วยให้ผิวนุ่มละมุนและดูเรียบเนียนเมื่อผสมในสูตรเครื่องสำอาง

Hydrogenated Rapeseed Oil

Hydrogenated Rapeseed Oil เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันผักกาดก้านขาวตามธรรมชาติโดยมีการควบคุมปริมาณ ทั้งนี้ มีการเติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันมานานหลายทศวรรษเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและช่วยให้น้ำมันมีความคงตัวมากขึ้น Hydrogenated rapeseed oil จะมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานกว่าและไม่เหม็นหืนง่ายเท่าน้ำมันที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการ ตัวอย่างน้ำมันเติมไฮโดรเจนที่พบได้ทั่วไปก็คือเนยเทียม บางครั้งน้ำมันผักกาดก้านขาวก็ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำมันคาโนล่า ซึ่งมาจากตัวย่อว่า "Can.O.,L-A" (พืชน้ำมันของแคนาดาที่มีความเป็นกรดต่ำ) น้ำมันทั้งสองชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกัน แต่น้ำมันคาโนล่าจะมีกรดอีรูซิกน้อยกว่าน้ำมันผักกาดก้านขาว และเมื่อนำมาผสมในเครื่องสำอาง น้ำมันชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นสารบำรุงผิว

HYDROGENATED STARCH HYDROLYSATE

Hydrogenated Starch Hydrolysate เป็นผลิตผลขั้นสุดท้ายที่ได้จากการเติมไฮโดรเจนลงในแบะแซโดยมีการควบคุมปริมาณ จึงจัดเป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งซึ่งได้มาจากกลูโคส Hydrogenated Starch Hydrolysate ใช้เป็นสารให้การป้องกัน สารเพิ่มความหนืด และสารช่วยกักเก็บน้ำในสูตรเครื่องสำอาง

HYDROGENATED VEGETABLE OIL

Hydrogenated Vegetable Oil เป็นผลิตภัณฑ์แว็กซ์ชนิดนิ่มที่ได้จากธรรมชาติด้วยการเติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันธรรมชาติโดยมีการควบคุมปริมาณ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ทั้งนี้ มีการเติมไฮโดรเจนลงในน้ำมันมานานหลายทศวรรษเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและช่วยให้น้ำมันมีความคงตัวมากขึ้น Hydrogenated Vegetable oil จะมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนานกว่าและไม่เหม็นหืนง่ายเท่าน้ำมันที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการ ตัวอย่างน้ำมันเติมไฮโดรเจนที่พบได้ทั่วไปก็คือเนยเทียม และเมื่อนำมาผสมในเครื่องสำอาง น้ำมันชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นสารบำรุงผิวและช่วยเพิ่มความเหนียวข้นให้ผลิตภัณฑ์

HYDROLYZED MILK PROTEIN

Hydrolyzed Milk Protein เป็นสารที่พบได้ในสัตว์ซึ่งโดยปกติได้มาจากการทำปฎิกิริยาของเอนไซม์ ในสมัยโบราณ มีการใช้นมในการอาบน้ำและเป็นธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไปของเหล่าราชวงศ์ ส่วนผสมนี้ได้รับการนำมาใช้ในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมหลายชนิด

HYDROLYZED PEARL

Hydrolyzed Pearl Power เป็นผงที่ได้จากไข่มุกรูปแบบหนึ่งซึ่งละลายน้ำได้และผ่านการไฮโดรไลซ์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสามารถซึมซาบและกระจายตัวบนผิวได้ง่าย

HYDROLYZED SILK

Hydrolyzed Silk เป็นโปรตีนที่พบได้ตามธรรมชาติหรือได้มาจากการสังเคราะห์ มีองค์ประกอบทางเคมีที่คล้ายคลึงกับโปรตีนในผิวหนังและเส้นผม จึงใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว พร้อมบำรุงผิวให้เนียนนุ่มน่าสัมผัส และให้ความรู้สึกสดชื่นได้ยาวนาน

HYDROXYETHYL CETYLDIMONIUM PHOSPHATE

Hydroxyethyl Cetyldimonium Phosphate คือเกลือควอเทอร์นารีแอมโมเนียม (เกลือแอมโมเนียมชนิดจตุรภูมิ) ซึ่งช่วยให้ผมจัดทรงง่ายและป้องกันหรือยับยั้งการเกิดไฟฟ้าสถิต จึงมีการนำมาผสมในสูตรครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์ย้อมผมและผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม

Hydroxyethylcellulose

Hydroxyethylcellulose ได้รับการนำมาใช้เพราะมีคุณสมบัติในการเพิ่มความหนืดและเพิ่มความคงตัวในอิมัลชั่น ซึ่งประสิทธิภาพในการควบคุมความหนืดเพิ่มเติมจะส่งผลดีต่อความคงตัวในระยะยาวของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

HYDROXYPROPYL GUAR

Hydroxypropyl Guar เป็นโพลีเมอร์ดัดแปรที่ไม่มีประจุซึ่งได้จากกัวร์กัมตามธรรมชาติ โดยจะทำหน้าที่เพิ่มความหนืดให้กับสูตรที่โปร่งแสง โดยเฉพาะในสูตรที่มีแอลกอฮอล์หรืออิเล็กโทรไลต์สูง

HYDROXYPROPYL METHYLCELLULOSE

Hydroxypropyl Methylcellulose เป็นโพลีเมอร์ที่ละลายน้ำได้และไม่มีประจุซึ่งมีที่มาจากเซลลูโลสตามธรรมชาติที่ผ่านการดัดแปร โดยจะทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความหนืดในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ประกอบด้วยน้ำ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ปริมาณมาก เพราะสารชนิดนี้สามารถสร้างเนื้อเจลใสหรือเพิ่มความเหนียวข้นให้อิมัลชั่นของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

HYDROXYPROPYL OXIDIZED STARCH PG-TRIMONIUM CHLORIDE

Hydroxypropyl Oxidized Starch PG-Trimonium Chloride เป็นสารก่อฟิล์มที่ได้จากพืชผัก ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงสำหรับเส้นผมเกือบทุกประเภท จึงช่วยให้เส้นผมมีสัมผัสนุ่มสลวยได้ยาวนาน Hydroxypropyl Oxidized Starch PG-Trimonium Chloride ใช้เป็นสารบำรุงในเจลอาบน้ำและแชมพูหลากหลายชนิด

Hydroxypropyl Starch Phosphate


Hydroxypropyl Starch Phosphate เป็นโพลีเมอร์จากแป้งสตาร์ชข้าวโพดดัดแปร ซึ่งมักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดและความคงตัวให้อิมัลชั่น เช่น ในครีมหรือโลชั่น โดยเฉพาะหากมีส่วนผสมของแร่ธาตุ หรือเกลือ Hydroxypropyl Starch Phosphate จะช่วยให้ครีมและโลชั่นมีความคงตัวพร้อมมอบสัมผัสเบาสบายและให้ความรู้สึกเรียบเนียน

Imidazolidinyl Urea

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

Iodopropynyl Butylcarbamate

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

ISOBUTANE

Isobutane เป็นก๊าซสังเคราะห์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์หัวพ่น เช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือสเปรย์ใส่ผม โดยนำมาใช้เป็นสารขับดันที่มีหน้าที่จ่ายแรงดันเพื่อให้สเปรย์ฉีดออกมาอย่างเหมาะสม

ISOBUTYLAMIDO THIAZOLYL RESORCINOL/LUMINOUS630

Isobutylamido Thiazolyl Resorcinol ที่จดสิทธิบัตรโดย Beiersdorf ได้นำมาใส่ในผลิตภัณฑ์นีเวียชื่อ Luminous630 ส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ช่วยให้การดูแลชนิดนี้มีประสิทธิภาพด้านการจัดการและรับมือกับจุดด่างดำบนผิว (เช่น การลดจุดด่างดำอันเกิดจากวัย เป็นต้น)

Isoceteth-20

Isoceteth-20 เป็น Polyethylene glycol ether ที่ผลิตขึ้นโดยการสังเคราะห์ของ Isocetyl Alcohol และทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์หรือสารเพิ่มการละลาย จึงสามารถผสานส่วนผสมที่ชอบน้ำมันให้เข้ากับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลักได้

ISODECYL NEOPENTANOATE

Isodecyl Neopentanoate เป็นน้ำมันเอสเตอร์สังเคราะห์ ที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มดุจกำมะหยี่และเบาสบายผิว จึงสามารถใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผลิตภัณฑ์กันแดด และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเพื่อเพิ่มความสามารถในการเกลี่ยพร้อมลดความมันและสัมผัสเหนียวเหนอะหนะของสูตร

ISODODECANE

Isodocecane เป็นน้ำมันไร้สีที่ได้จากฟอสซิล ผลิตผ่านกระบวนการพิเศษโดยใช้ Isodocecane เป็นวัตถุดิบตั้งต้น จัดเป็นสารที่มีความบริสุทธิ์สูงและสามารถปกป้องผิวจากการขาดน้ำ พร้อมเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม จึงเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับทั้งผิวและเส้นผม

Isohexadecane

Isohexadecane เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่มีปิโตรเคมีเป็นส่วนผสมซึ่งเป็นไฮโดรคาร์บอนที่บริสุทธิ์มาก สารชนิดนี้จะมอบสัมผัสเบาสบายและให้ความรู้สึกเรียบเนียน พร้อมปกป้องผิวไม่ให้ขาดน้ำ

ISOPENTANE

Isopentane เป็นก๊าซสังเคราะห์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์หัวพ่น เช่น เจลโกนหนวด โดยใช้เป็นสารขับดันและปล่อยโฟมในผลิตภัณฑ์ เนื่องจากจะระเหยไปหลังใช้งาน

Isopropyl Myristate

Isopropyl Myristate เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น ส่วนหนึ่งของสารชนิดนี้ก็คือกรดไขมันจากธรรมชาติ อีกส่วนเล็กๆ ของโมเลกุลจะได้มาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี ซึ่งจะช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนและนุ่มละมุน

Isopropyl Palmitate


Isopropyl palmitate เป็นเอสเตอร์ของ Palmitic acid และ Isopropyl alcohol ซึ่งส่วนผสมหลักมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ (ปาล์มและ/หรือน้ำมันในเมล็ดปาล์ม) อีกส่วนเล็กๆ ของโมเลกุลมาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี สารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มชนิดนี้อ่อนโยนต่อผิว พร้อมทั้งมอบประสิทธิภาพด้านการฟื้นบำรุงและเสริมการทำงานของผิว ผิวคุณจึงนุ่มละมุนยิ่งขึ้น

Isopropyl Stearate

Isopropyl stearate เป็นเอสเตอร์ของ Isopropyl alcohol และ Stearic acid ซึ่งส่วนผสมหลักมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ (ปาล์มและ/หรือน้ำมันในเมล็ดปาล์ม) อีกส่วนเล็กๆ ของโมเลกุลมาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี โดยหลักแล้ว Stearate esters จะทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นบนผิวซึ่งช่วยให้ผิวนุ่มละมุนและดูเรียบเนียน

ISOQUERCITRIN

ส่วนผสมนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งจะปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระออกซิเจน (ROS) โดย Isoquercitirin สามารถเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ

ISOSTEARETH-20

Isosteareth-20 จะทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิว อิมัลซิไฟเออร์ และโคอิมัลซิไฟเออร์ที่ไม่มีประจุ โดยผลิตผ่านการสังเคราะห์และใช้ในการละลายน้ำหอม เอสเซนเชียลออยล์ และสารประกอบที่ไม่ละลายน้ำอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำ Isosteareth-20 ใช้เป็นส่วนผสมในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและจัดแต่งทรงผม รองพื้น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวรอบดวงตา และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

K-O

KAOLIN

Kaolin หรือที่รู้จักกันในชื่อดินขาวเป็นเม็ดสีที่ได้จากแร่ธาตุโดยใช้เป็นผงสีขาวเนื้อละเอียด ซึ่งสามารถใช้เป็นสารช่วยให้ทึบแสงในผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะโปร่งแสง และยังใช้เป็นสารควบคุมความมันที่ช่วยลดความมันบนผิว

Lactic Acid

Lactic acid เป็น Alpha-hydroxy acid ซึ่งอยู่ในกลุ่มของสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่พบได้ในผิวหนังชั้นนอกสุด และมีคุณสมบัติด้านความชุ่มชื้นรวมถึงมีฤทธิ์เร่งผลัดเซลล์ผิว Lactic มีคุณสมบัติด้านความชุ่มชื้น โดยจะช่วยลดการเกิดขุยบนผิวหนัง พร้อมทั้งปรับค่า pH บนผิวให้สมดุล นอกจากนี้ ยังช่วยรับมือกับอาการผิวแห้งกร้าน Lactic Acid ยังมีประสิทธิภาพด้านการสลายสิวอุดตันอีกด้วย ซึ่งจะยับยั้งการเกิดสิวอุดตันโดยช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว จึงป้องกันไม่ให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน ดังนั้นจึงช่วยจัดการกับปัญหาสิวได้ Alpha hydroxy acids (ตัวย่อ: AHAs) อยู่ในกลุ่มส่วนผสม เช่น Lactic acid และ Citric Acid AHAs พบได้ในผลไม้ เช่น องุ่นและเลมอน รวมถึงในอ้อยและนม จึงมักเรียกกันว่ากรดผลไม้ โดยจะนำมาใช้ในระดับความเข้มข้นต่ำเพื่อเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวตามปกติอย่างอ่อนโยน เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง เซลล์ผิวด้านบนสุดที่แห้งจะค่อยๆ ลอกออก จึงช่วยให้ผิวแลดูเนียนและดูดีกว่าที่เคย

LACTOSE

Lactose เป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ที่เป็นสารประกอบของกาแล็กโทสและกลูโคส ซึ่งพบได้ในนม

LAMINARIA OCHROLEUCA EXTRACT

Laminaria Ochroleuca Extract สกัดจาก Laminaria Ochroleuca หรือสาหร่ายทะเลสีน้ำตาลขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นสาหร่ายในกลุ่ม Laminariales โดยปกติแล้วจะรู้จักกันในชื่อสาหร่ายสีทอง ซึ่งมีคุณสมบัติกระตุ้นให้เกิดการสังเคราะห์คอลลาเจนในระดับเซลล์

Lanolin

Lanolin เป็นผลพลอยได้ที่มีประโยชน์จากอุตสาหกรรมขนสัตว์ โดยเป็นสารธรรมชาติที่ได้จากการหลั่งน้ำมันในผิวหนังแกะ วงการเภสัชกรรมและเครื่องสำอางได้นำ Lanolin มาใช้กันอย่างแพร่หลายมานานหลายปี ซึ่งจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่มละมุนและบรรเทาอาการผิวแห้งแตกและเป็นขุย

Lauramidopropyl Betaine

Lauramidopropyl betaine เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดสองประจุที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว โดยสารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

LAURETH-2

Laureth-2 เป็นวัตถุดิบไม่มีประจุที่ได้จากแอลกอฮอล์ไขมัน ใช้เพิ่มความหนืดให้กับสูตรผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก เช่น เจลอาบน้ำหรือแชมพู

LAURETH-4

ส่วนผสม Laureth เป็น Polyoxyether ของ Lauryl Alcohol โดยตัวเลขที่อยู่ในชื่อจะหมายถึงจำนวนหน่วยโดยเฉลี่ยของ Ethylene Oxide ในโมเลกุล Laureth-4 ทำหน้าที่เป็นสารช่วยทําอิมัลชั่นเพื่อช่วยให้น้ำมันมีความคงตัวในส่วนผสมที่มีน้ำ

LAURETH-7 CITRATE

Laureth-7 Citrate เกิดจากการทําปฏิกิริยาระหว่าง Polyoxyethers ของ Lauryl Alcohol กับกรดซิตริก Laureth-7 Citrate จะใช้เป็นสารลดแรงตึงผิวในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โดยรวมถึงแชมพู ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่นๆ

LAURETH-9

Laureth-9 ในที่นี้หมายถึง Polidocanol ซึ่งเป็นยาชาเฉพาะที่ที่ผลิตขึ้นโดยการทำเทียม และมีฤทธิ์ระงับความรู้สึกเฉพาะที่ โดยจะออกฤทธิ์ระงับอาการคันได้เป็นอย่างดี

LAURETH-10

ส่วนผสม Laureth เป็น Polyoxyether ของ Lauryl Alcohol โดยตัวเลขที่อยู่ในชื่อจะหมายถึงจำนวนหน่วยโดยเฉลี่ยของ Ethylene Oxide ในโมเลกุล Laureth-10 ทำหน้าที่เป็นสารช่วยทําอิมัลชั่นเพื่อช่วยให้น้ำมันมีความคงตัวในส่วนผสมที่มีน้ำ

LAURETH-23

Laureth-23 เป็นอิมัลซิไฟเออร์และสารลดแรงตึงผิวที่ได้จากการสังเคราะห์ ส่วนในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว Laureth-23 จะใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตา ใบหน้าและเส้นผม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและผลิตภัณฑ์กันแดด รวมถึงในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้นุ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น

LAURIC ACID

Lauric Acid เป็นหนึ่งในบรรดากรดไขมันที่พบได้ในน้ำมันมะพร้าวและไขมันธรรมชาติอื่นๆ ซึ่งนำมาใช้ในเครื่องสำอางได้สารพัดประโยชน์ นิยมใช้เป็นเบสของสารทำความสะอาดและใช้เป็นสารที่ช่วยปลอบประโลมผิวมากขึ้น โดยทำหน้าที่เป็นส่วนผสมฟื้นบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส เติมความชุ่มชื้นให้ผิวกลับดูมีชีวิตชีวา พร้อมดูแลผิวให้นุ่มละมุนและเรียบเนียนเสมอ

LAUROYL LYSINE

Lauroyl Lysine เป็นวัตถุดิบที่มีลักษณะเป็นผง ผลิตจากกรดอะมิโนและกรดไขมันที่พบได้ตามธรรมชาติ Lauroyl Lysine มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มดุจแพรไหมเพราะเป็นผงที่ละเอียดเป็นพิเศษ

Lauryl Glucoside

Lauryl Glucoside เกิดจากการทําปฏิกิริยาระหว่างแอลกอฮอล์ประเภทหนึ่งกับกลูโคส จนเกิดเป็นสารลดแรงตึงผิวที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ซึ่งใช้กันแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับเด็ก ผิวหน้าและผิวกาย ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

Lauryl Hydroxysultaine

Lauryl Hydroxysultaine เป็นสารลดแรงตึงผิวที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

Levulinic Acid

Levulinic acid รวมถึง Sodium levulinate (เกลือโซเดียมของ Levulinic acid) ที่มีลักษณะเหมือนกันจะใช้ผสมในทั้งผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวและในเครื่องสำอางที่ได้รับการรับรอง Levulinic acid สามารถผลิตได้จากน้ำตาลซูโครสตามธรรมชาติ โดยจะใช้เป็นสารบำรุงผิวในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อช่วยให้สุขภาพผิวดี

limonene

Limonene - Citrus Fresh Herbal

ส่วนผสมชนิดนี้พบได้ทั่วไปในเอสเซนเชียลออยล์ โดยมีสัดส่วนที่แตกต่างกันตั้งแต่ปริมาณมาก (ส้ม เลมอน มะนาว ฯลฯ) ไปจนถึงปริมาณน้อย (ผักชีลาว ไธม์ คาราเวย์ ฯลฯ) Limonene สามารถพบได้ในทุกที่ รวมถึงในเครื่องดื่มต่างๆ (น้ำส้ม โคคา-โคลา ฯลฯ) โดยเป็นพืชตระกูลส้มที่มีชีวิตชีวา ให้ความรู้สึกสดชื่น หวานฉ่ำ และสะอาด

Linalool - Floral Fresh Lavendar

วัตถุดิบชนิดนี้พบได้ในเอสเซนเชียลออยล์จำนวนมากจากธรรมชาติ โดยมีสัดส่วนที่แตกต่างกันตั้งแต่ปริมาณมาก (ลาเวนเดอร์ โหระพา มะกรูด ฯลฯ) ไปจนถึงปริมาณน้อย (กุหลาบ เจอเรเนียม ดอกส้ม ผักชนิดต่างๆ หรือเนยแข็ง มินท์ ฯลฯ) หากคุณไปเยือนเมืองโพรวองซ์ที่มีทุ่งลาเวนเดอร์ คุณจะได้สัมผัสกับ Linalool ส่วนผสมชนิดนี้ให้ความสดชื่นจากดอกไม้นานาชนิด จึงใช้กันแพร่หลายและเป็นกลิ่นดอกไม้หลักที่ได้รับความนิยมสูง

LYSINE HCI

Lysine เป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ทราบกันว่ามีคุณสมบัติป้องกันไฟฟ้าสถิต ซึ่งนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ และมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวและเส้นผมให้เรียบเนียน

Macadamia Integrifolia Seed Oil

แมคคาเดเมียเป็นวงศ์พืชในตระกูลต้นซิลเวอร์ (Proteaceae) โดยเป็นที่รู้จักเพราะผลของต้นไม้ ซึ่งก็คือถั่วแมคคาเดเมียนั่นเอง แมคคาเดเมียมีด้วยกันสองสายพันธุ์ ได้แก่ Macadamia Integrifolia กับ Macadamia Tetraphylla ซึ่งพบได้ในควีนส์แลนด์ นิวเซาท์เวลส์และออสเตรเลียตะวันออกที่ค่อนข้างร้อนเท่านั้น มนุษย์นำส่วนต่างๆ ของแมคคาเดเมียมาใช้ เช่น ผลหรือเมล็ด นอกจากนี้ แมคคาเดเมียยังมีไขมัน (ส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหลายตำแหน่งและกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว) และวิตามินบีสูง แวดวงเครื่องสำอางจึงนำแมคคาเดเมียมาใช้เป็นน้ำมันพื้นฐานที่มีไขมัน

MAGNESIUM ALUMINUM SILICATE

Magnesium Aluminum Silicate เป็นดินเหนียวตามธรรมชาติที่ช่วยให้อิมัลชั่นและสารแขวนลอยมีความคงตัว โดยแร่ธาตุที่ละลายน้ำไม่ได้เหล่านี้จะใช้ในเครื่องสำอางเพื่อให้ครีมและโลชั่นมอบความรู้สึกสบายผิว

MAGNESIUM CHLORID

Magnesium Chloride เป็นสารเพิ่มปริมาณที่ได้จากแร่ธาตุและใช้เพื่อช่วยให้สูตรของเครื่องสำอางมีความคงตัว

MAGNESIUM STEARATE

Magnesium Stearate เป็นเกลือแมกนีเซียมที่ได้จากกรดสเตียริก ซึ่งกรดสเตียริกนั้นสกัดจากน้ำมันพืช Magnesium Stearate จะช่วยให้ครีมมีความคงตัวและหนืดยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสำหรับอิมัลชั่นชนิดน้ำในน้ำมัน

MAGNESIUM SULFATE

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มสารให้ความคงตัว ซึ่งเป็นสารเพิ่มความหนืดและสารก่อเจล ใช้เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่ปรับสูตรใหม่มีความคงตัวและ/หรือมีเนื้อสัมผัสที่แข็งขึ้น นอกจากนี้ แมกนีเซียมยังเป็นจุลธาตุที่สำคัญต่อร่างกายมนุษย์อีกด้วย Magnesium Sulphate มีหน้าที่ช่วยให้สูตรของเครื่องสำอางมีความคงตัว

MAGNIFERA INDICA JUICE

Mangifera Indica Juice สกัดจากผล Mangifera Indica ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อมะม่วง มะม่วงเป็นแหล่งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเยี่ยม ซึ่งอุดมไปด้วยแคลเซียม โพแทสเซียม วิตามินเอ, อีและซี รวมถึงวิตามินบีอีกหลายชนิด น้ำมะม่วงมีสารต้านอนุมูลอิสระและมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ทั้งยังอุดมไปด้วยเอนไซม์ต่างๆ

Magnolia Officinalis Bark Extract

Magnolia Officinalis Bark Extract ที่มี Magnolol และ Honokiol จะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวเพื่อการสังเคราะห์อดิโปเนคติน รวมถึงการเพิ่มจำนวนและขนาดของความจุเซลล์ ซึ่งเป็นส่วนผสมทรงประสิทธิภาพสำหรับการปรับปรุงโครงสร้างผิวหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัย นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านจุลชีพ

Malpighia Glabra Fruit Juice

Malpighia Glabra Fruit เรียกอีกชื่อว่าบาร์เบโดสเชอร์รี่หรืออะเซโรล่า ซึ่งเป็นไม้พุ่มหรือต้นไม้ขนาดเล็กประจำท้องถิ่นของอเมริกากลาง อเมริกาใต้ทางเหนือ เม็กซิโกและแคริเบียน ผลมีลักษณะคล้ายเชอร์รี่ เมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดงเข้ม มนุษย์นำอะเซโรล่ามาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเนื่องจากผลอุดมด้วยวิตามินซี

Maltodextrin

Maltodextrin เป็นพอลิแซ็กคาไรด์ที่ใช้เป็นวัตถุเจือปนในอาหาร Maltodextrin ย่อยง่าย สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากเป็นกลูโคส และให้ความหวานปานกลาง สารชนิดนี้ผลิตจากแป้งสตาร์ชจากผักที่ผ่านการไฮโดรไลซ์บางส่วนและมักพบได้ในแป้งสีขาวที่ดูดความชื้นได้ดีซึ่งผลิตจากเครื่องทำให้แห้งแบบพ่นฝอย เมื่อผสมในเครื่องสำอาง จะมีหน้าที่หลักคือเพิ่มความหนืดและเพิ่มความคงตัวให้อิมัลชั่น

MANNITOL

Mannitol เป็นสารที่ได้จากพืช ขึ้นชื่อในด้านการให้ความชุ่มชื้น และสามารถเติมน้ำให้ผิว

MARIS LIMUS EXTRACT

Maris Limus Extract มีแร่ธาตุที่เป็นจุลธาตุ เช่น กำมะถันและสังกะสี

MARIS SAL

Maris Sal ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยคุณสมบัติการรักษาสมดุลของสารละลายและน้ำในร่างกาย ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิว

MEL

น้ำผึ้ง (Mel) เป็นส่วนผสมที่ได้จากสัตว์และมีเอนไซม์รวมถึงจุลธาตุต่างๆ ตามหลักแล้ว น้ำผึ้งมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและยังเป็นสารที่ดูดความชื้นได้ดี โดยจะมีคุณสมบัติดูดความชื้นเมื่อมีน้ำเป็นส่วนประกอบไม่มากนัก แต่จะดูดซับน้ำจากสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว น้ำผึ้งนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในเครื่องสำอางต่างๆ เพื่อให้ดูดซับน้ำ จึงช่วยให้สภาพผิวของเราดูดีขึ้น

MELISSA OFFICINALIS EXTRACT

Melissa Officinalis Extract เป็นส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ได้จากพืชโดยสกัดจากสะระแหน่ ซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองที่ปลูกกันในแถบยุโรปตอนใต้ รวมถึงในแอฟริกาเหนือและตะวันตก แต่ปัจจุบันนิยมเพาะปลูกในยุโรปเป็นหลัก ตามหลักแล้ว สารชนิดนี้มักใช้เป็นยาต้านไวรัส ยาต้านจุลชีพ และยาต้านเชื้อรา
mentha aquatica extract

Mentha Aquatica Extract

สารสกัดวอเตอร์ มินท์ได้รับการผลิตโดยใช้กระบวนการสกัดที่อ่อนโยนซึ่งเหมาะสมที่สุดเพื่อช่วยให้เก็บรักษาส่วนผสมตามธรรมชาติเอาไว้ได้ ผลิตภัณฑ์ที่มีวอเตอร์ มินท์เป็นส่วนประกอบจะมีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกสดชื่นและกระตุ้นให้เกิดความกระปรี้กระเปร่า

MENTHA PIPERITA LEAF EXTRACT

Mentha Piperita Leaf Extract เป็นสารสกัดจากใบ Peppermint, Mentha Piperita (L.) และ Labiatae ซึ่ง Peppermint เป็นพืชในตระกูลมินต์ที่พบได้ทั่วทุกมุมโลก ตามหลักแล้ว จะมีคุณสมบัติระงับอาการคันและต้านการอักเสบ จึงใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

MENTHOXYPROPANEDIOL

Menthoxypropanediol เป็นอนุพันธ์ของเมนทอล ขึ้นชื่อในเรื่องที่ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น MPD มีคุณสมบัติบรรเทาอาการคันเนื่องจากมีการกระตุ้นใยประสาทรับรู้ความเย็นและสัญญาณที่แทรกตัวระหว่างปลายประสาทกับเซลล์ผิวอีกด้วย

METHYL 2-OCTYNOATE

METHYL 2-OCTYNOATE – หญ้า ไวโอเลตและแตงกวา (ตัวบ่งชี้กลิ่นหอมตามมาตรฐานของ IFRA)
ส่วนผสมชนิดนี้ได้จากการสังเคราะห์ทางเคมี โดยให้กลิ่นหอมของหญ้าที่เพิ่งตัดใหม่ ความรู้สึกชุ่มฉ่ำและพืชผัก จึงช่วยเพิ่มความสดชื่นและความสะอาดเฉกเช่นธรรมชาติให้กับน้ำหอม

Methylchloroisothiazolinone

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

Methylisothiazolinone

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

METHYL PALMITATE

Methyl Palmitate เป็นเอสเตอร์ของ Methyl Alcohol และ Palmitic acid ซึ่งส่วนผสมหลักมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ (ปาล์มและ/หรือน้ำมันในเมล็ดปาล์ม) อีกส่วนเล็กๆ ของโมเลกุลมาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี สารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มชนิดนี้ใช้เพื่อดูแลผิว ผิวคุณจึงนุ่มละมุนยิ่งขึ้น

Methylparaben

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

METHYL PHENYLBUTANOL

Methyl Phenylbutanol เป็นส่วนผสมที่ผลิตโดยการสังเคราะห์ซึ่งช่วยลดหรือยับยั้งกลิ่นของส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอาง นอกจากนี้ ยังใช้เป็นน้ำหอมในผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเป็นหลัก

Methylpropanediol

Methylpropanediol เป็น Glycol ออร์แกนิกสังเคราะห์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลาย ในสูตรเครื่องสำอาง สารชนิดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพผิวในการซึมซับเครื่องสำอาง นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติด้านการเติมน้ำให้ผิวอย่างเห็นได้ชัด จึงช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและฉ่ำน้ำ

MICA

Mica จัดอยู่ในกลุ่มแร่ซิลิเกตที่สกัดจาก Muscovite Mica คำว่า Mica มาจากภาษาละติน “Micare” ที่แปลว่า “แวววาว” ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่มีการนำ Mica มาใช้เพื่อสร้างประกายแวววาว ขนาดอนุภาคของโครงสร้าง Mica และคริสตัลจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์สามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอและมีคุณสมบัติในการสะท้อน จึงมีการใช้ Mica อย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปาก เพื่อให้มีสีขาวที่เปล่งประกาย และยังนิยมใช้ในเครื่องสำอางสำหรับตกแต่ง ผลิตภัณฑ์แต่งหน้า และผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวอื่นๆ

MICROCRYSTALLINE CELLULOSE

Microcrystalline Cellulose เป็นโพลิเมอร์ตามธรรมชาติที่ได้จากเยื่อไม้ โดยปกติจะใช้เพื่อช่วยให้อิมัลชั่น เช่น ครีมหรือโลชั่น มีความคงตัว Microcrystalline Cellulose ไม่ละลายในน้ำ แต่ก็สามารถละลายได้โดยใช้อัตราเฉือนสูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิด Microcrystalline Cellulose ที่ละลายน้ำได้จะเพิ่มความหนืดให้กับสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก ขณะเดียวกัน Microcrystalline Cellulose ที่ไม่ละลายน้ำและมีอนุภาคใหญ่กว่าจะทำหน้าที่เป็นสารขัดถู

MIPA-Laureth Sulfate

MIPA Laureth Sulfosuccinate เป็นสารลดแรงตึงผิวไอออนลบซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

MYRCIARIA DUBIA FRUIT JUICE

Myrciaria Dubia Fruit Juice (หรือ Camu Camu) มีที่มาจากพืชโดยมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูงเนื่องจากระดับวิตามินซี สารประกอบฟีนอล และสารเคมีจากพืชอื่นๆ Camu Camu เป็นแหล่งแร่ธาตุต่างๆ เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม สังกะสี และแม็กนีเซียม ผลไม้ชนิดนี้ยังเป็นแหล่งของกรดไขมันอีกด้วย เช่น กรดโอเลอิกและกรดอะมิโน

Myristic Acid

Myristyl Alcohol มักพบได้ในน้ำมันหรือไขมันจากผัก ด้วยเหตุนี้ จึงเรียก Myristyl Alcohol ว่าแอลกอฮอล์ไขมัน สารสกัดชนิดนี้ใช้ในสูตรเครื่องสำอางจำนวนมากเนื่องจากจะช่วยเพิ่มความคงตัวของอิมัลชั่นและเนื้อสัมผัสของสูตรผลิตภัณฑ์ เช่น ในครีมหรือโลชั่น Myristyl Alcohol จะก่อตัวเป็นของแข็งสีขาวซึ่งทำหน้าที่เป็นสารประกอบที่ช่วยเพิ่มความเสถียรโดยสามารถจับตัวกับน้ำได้

Myristyl Alcohol

Myristyl Alcohol is often obtained from vegetable fats or oils. For this reason, Myristyl Alcohol is called fatty alcohol. Myristyl Alcohol is used in many cosmetic formulas as it increases the stability of emulsions and the texture of formulas like creams or lotions. Myristyl Alcohol forms a solid white mass which serves as a water-binding, consistency-giving component.

MYRISTYL LACTATE

Myristyl Lactate เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มในรูปของเอสเตอร์จากผักตามธรรมชาติของ Myristic Alcohol และ Lactic Acid ซึ่งจะช่วยลดความเหนียวเหนอะหนะในอิมัลชั่นและผลิตภัณฑ์แบบแท่ง

MYRISTYL MYRISTATE

Myristyl Myristate เป็นแว็กซ์สำหรับเครื่องสำอางที่ละลายในอุณหภูมิที่สูงกว่าอุณหภูมิร่างกาย สารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มจากผักชนิดนี้เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น โลชั่นดูแลผิวกาย ครีม และผลิตภัณฑ์แบบแท่ง โดยจะช่วยให้ผิวนุ่มละมุนยิ่งขึ้น

n-Butylparaben

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มพาราเบน ซึ่งเป็นสารกันเสียที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคงความสดใหม่อยู่เสมอเพื่อให้คุณใช้งานได้อย่างปลอดภัย เพราะหากไม่มีสารกันเสีย เช่น พาราเบน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิดจะเสียในไม่นานหลังเปิดฝา โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ พาราเบนมีคุณสมบัติในการรักษาโลชั่นดูแลผิวกาย ครีมดูแลผิวหน้า หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่คุณชื่นชอบให้คงความสดใหม่เช่นเดียวกับวันแรกที่คุณเปิดใช้

NELUMBO NUCIFERA FLOWER EXTRACT

ในวัฒนธรรมเอเชียจำนวนมาก ดอกบัวมีความหมายในเชิงศาสนาอย่างเห็นได้ชัดและถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ธรรมชาติที่สะอาด ความอุดมสมบูรณ์ และความรัก สารสกัดจากดอกบัวจะผลิตโดยกรรมวิธีการสกัดที่อ่อนโยน เหมาะสำหรับนำมาใช้ถนอมส่วนผสมจากธรรมชาติ นอกจากนี้ ดอกบัวยังมีปรากฏการณ์หยดน้ำตามธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่าปรากฏการณ์นํ้ากลิ้งบนใบบัว เพราะดอกบัวจะมีผิวที่ทําความสะอาดตัวเองได้ ทำให้น้ำไหลลงไปรวมตัวกันเป็นหยดน้ำ จึงช่วยทำความสะอาดพื้นผิวที่มีฝุ่นละอองติดอยู่ เราทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากดอกบัวจะช่วยให้ผิวกระชับได้เล็กน้อย พร้อมทั้งมอบความผ่อนคลาย

NELUMBO NUCIFERA LEAF EXTRACT

ในวัฒนธรรมเอเชียจำนวนมาก ดอกบัวมีความหมายในเชิงศาสนาอย่างเห็นได้ชัดและถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ธรรมชาติที่สะอาด ความอุดมสมบูรณ์ และความรัก สารสกัดจากดอกบัวจะผลิตโดยกรรมวิธีการสกัดที่อ่อนโยน เหมาะสำหรับนำมาใช้ถนอมส่วนผสมจากธรรมชาติ นอกจากนี้ ดอกบัวยังมีปรากฏการณ์หยดน้ำตามธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่าปรากฏการณ์นํ้ากลิ้งบนใบบัว เพราะดอกบัวจะมีผิวที่ทําความสะอาดตัวเองได้ ทำให้น้ำไหลลงไปรวมตัวกันเป็นหยดน้ำ จึงช่วยทำความสะอาดพื้นผิวที่มีฝุ่นละอองติดอยู่ เราทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากดอกบัวจะช่วยให้ผิวกระชับได้เล็กน้อย พร้อมทั้งมอบความผ่อนคลาย

Nelumbium Speciosum Flower Extract

ในวัฒนธรรมเอเชียจำนวนมาก ดอกบัวมีความหมายในเชิงศาสนาอย่างเห็นได้ชัดมายาวนานและถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ธรรมชาติที่สะอาด ความอุดมสมบูรณ์ และความรัก สารสกัดจากดอกบัวจะผลิตโดยกรรมวิธีการสกัดที่อ่อนโยน เหมาะสำหรับนำมาใช้ถนอมส่วนผสมจากธรรมชาติ นอกจากนี้ ดอกบัวยังมีปรากฏการณ์หยดน้ำตามธรรมชาติ หรือที่เรียกกันว่าปรากฏการณ์นํ้ากลิ้งบนใบบัว เพราะดอกบัวจะมีผิวที่ทําความสะอาดตัวเองได้ ทำให้น้ำไหลลงไปรวมตัวกันเป็นหยดน้ำ จึงช่วยทำความสะอาดพื้นผิวที่มีฝุ่นละอองติดอยู่ เราทราบกันดีว่าผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากดอกบัวจะช่วยให้ผิวกระชับได้เล็กน้อย พร้อมทั้งมอบความผ่อนคลาย

NEOHESPERIDIN DIHYDROCHALCONE

Neohesperidin Dihydrochalcone เป็นอนุพันธ์ของ Chalkone ซึ่งได้จาก Flavonoids Neohesperidin หรือ Naringin ในผลไม้ตระกูลส้ม

NIACINAMIDE

Niacinamid หรือ Nicotinamid จัดอยู่ในกลุ่มของกรดนิโคตินิก (Niacin) Niacinamid เป็นสารประกอบที่มีระบบทางชีวภาพหลากหลายซึ่งรวมถึงตระกูลวิตามินบีโดยเฉพาะวิตามินบี 3 รวม นอกจากนี้ ยังมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในโครงสร้างของ NADH และ NAD+ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดเตรียมไม่เกิดเกิดการลดความเทียบเท่าของปฏิกิริยาชีวสังเคราะห์ พร้อมทั้งป้องกันภาวะเป็นพิษอันเกิดจากอนุมูลอิสระออกซิเจน (ROS)

NYMPHAEA ODORATA ROOT EXTRACT

Nymphaea Odorata หรือที่เรียกกันว่าบัวสายขาวพันธุ์อเมริกันเป็นพืชน้ำที่อยู่ในวงศ์ Genus Nymphaea มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นและใช้ในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่างๆ

OCTENIDINE HCI

Octenidine Dihydrochloride (หรือที่เรียกกันว่า Octenidine) เป็นสารต้านจุลชีพประจุบวก ซึ่งออกฤทธิ์ต้านแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึงประสงค์

Octocrylene

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Octylacrylamide/Acrylates/Butylaminoethyl Methacrylate Copolymer

ส่วนผสมชนิดนี้ช่วยให้ผมอยู่ทรงโดยป้องกันไม่ให้ผมดูดซับความชุ่มชื้นและปกป้องผมจากการเกิดประจุไฟฟ้า โดยจะสร้างชั้นเคลือบบางๆ บนผิว เส้นผมหรือเล็บ ทั้งนี้ Copolymer เป็นโพลีเมอร์ที่ได้จากการผสมสารประกอบเคมีขนาดเล็กที่เรียกว่ามอนอเมอร์เข้ากับโมเลกุลขนาดใหญ่มากซึ่งมีคุณสมบัติต่างกันมาก

Octyldodecanol

ส่วนผสมชนิดนี้ได้มาจากวัตถุดิบจากพืชที่ผลิตทดแทนได้และยังผลิตได้จากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี ในแวดวงเครื่องสำอาง มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายโดยใช้เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มเนื่องจากมีความสามารถในการซึมผ่านที่ดีและคุณสมบัติด้านการละลายที่ดีสำหรับสารป้องกันแสง UV และเม็ดสี จึงเหมาะสำหรับครีม โลชั่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและเครื่องสำอาง พร้อมช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนและนุ่มละมุน

Oenothera Biennis Oil

Oenothera Biennis Oil เป็นหนึ่งในน้ำมันพืชธรรมชาติที่ถือเป็นแหล่งกรดไขมันโอเมก้า 6 ในอาหาร ซึ่งได้มาจากอีฟนิ่งพริมโรส ในเครื่องสำอาง สารชนิดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ปราการผิวโดยเสริมกรดไขมันและลิพิดที่จำเป็นให้กับผิว รวมถึงยังให้ความชุ่มชื้นพร้อมปลอบประโลมผิวแห้งและหนังศีรษะ

OLEA EUROPAEA FRUIT OIL

Olea Europaea Fruit Oil (หรือที่รู้จักกันในชื่อน้ำมันมะกอก) เป็นสารเหลวที่ปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มตามธรรมชาติที่ได้จากผลมะกอก (ผล Olea Europaea ซึ่งอยู่ในตระกูล Oleaceae) ต้นมะกอกมีถิ่นกำเนิดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตั้งแต่สหัสวรรษที่ 8 ก่อนคริสต์ศักราช โดยมีการใช้น้ำมันมะกอกในการประกอบอาหารและในเครื่องสำอางมายาวนาน (ใช้สำหรับทำความสะอาดและนวด รวมถึงใช้เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ สารต้านเชื้อแบคทีเรีย และใช้เพื่อบรรเทาความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อตั้งแต่สมัยฟาโรห์) น้ำมันมะกอกมีลักษณะเป็นสารไตรกลีเซอไรด์ที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเลอิกสูง ซึ่งประกอบด้วยกรดโอเลอิก กรดไลโนเลอิก และกรดปาลมิติกเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีโพลิฟีนอลของสารต้านอนุมูลอิสระ โทโคฟีรอล (วิตามินอีชนิดหนึ่ง) รวมถึงแคโรทีนอยด์ รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในแหล่ง Squalene จากพืชซึ่งเป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่คล้ายกับสารประกอบในผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมที่มี Olea Europaea Fruit Oil จึงช่วยมอบความเนียนนุ่ม

Oleic Acid

Oleic acid เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเป็นสารประกอบหลักในฟอสโฟลิพิดของเยื่อผิวมนุษย์ กรดไขมันจากพืชที่ผลิตทดแทนได้ชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มในผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว ปกติแล้ว Oleic acid จะใช้ในสบู่ ครีมและโลชั่น

OLETH-20

Oleth-20 เป็นส่วนผสมที่ผลิตโดยการสังเคราะห์กรดโอเลอิก ซึ่งใช้ทำความสะอาดผิวและเส้นผมโดยช่วยให้น้ำผสมกับน้ำมันและสิ่งสกปรกเพื่อให้สามารถชำระล้างออกไปได้ นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมการทำอิมัลชั่นและช่วยให้ส่วนผสมต่างๆ ละลายในของเหลวที่ตามปกติจะละลายไม่ได้

ORBIGNYA OLEIFERA SEED OIL

Orbignya Oleifera Seed Oil (หรือที่รู้จักกันในชื่อน้ำมันบาบาสสุ) เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มตามธรรมชาติที่สกัดจากเมล็ดปาล์มบาบาสสุ (พืชวงศ์ Attalea Speciosa) มีการนำมาใช้แทนน้ำมันมะพร้าวในอาหารและเครื่องสำอางเนื่องจากมีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน อุดมด้วยกรดลอริกและมีจุดหลอมเหลวใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกายมนุษย์ จึงนำมาใช้เป็นไขแข็งสำหรับดูแลผิวที่จะละลายเมื่อทา ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมที่มี Orbignya Oleifera Seed Oil จึงช่วยมอบความเนียนนุ่ม

ORYZANOL

Oryzanol เป็นสารสกัดจากอาหารธรรมชาติที่พบได้ในน้ำมันรำข้าว มีส่วนผสมของสเตอรอลและกรดเฟอรูลิกที่อาจช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในผิว จึงนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์กันแดดเพราะประสิทธิภาพด้านการต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องไขมันในชั้นผิวจากการออกซิเดชันพร้อมช่วยป้องกันจุดด่างดำบนผิว

Oryza Sativa Extract

ข้าวหอมนิลมีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและยังเป็นที่รู้จักในอีกชื่อว่าข้าวต้องห้าม เนื่องจากในอดีต ข้าวที่หายากชนิดนี้จะสงวนไว้สำหรับฮ่องเต้และราชวงศ์เท่านั้น สารสกัดข้าวหอมนิลได้รับการผลิตโดยใช้กระบวนการสกัดที่อ่อนโยนซึ่งเหมาะสมที่สุดเพื่อช่วยให้เก็บรักษาส่วนผสมตามธรรมชาติเอาไว้ได้ จึงมีจุลธาตุและแร่ธาตุจำนวนมากโดยเฉพาะธาตุเหล็กและโปรตีน

ORYZA SATIVA POWDER

สารสกัดชนิดนี้ได้จากต้นข้าวและพบได้ที่เปลือกด้านนอกสุดของเมล็ดข้าว โดยอุดมด้วยวิตามินอี, กรดไขมัน Omega-3 และสารอาหารรอง เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก และสังกะสี

OSTREA SHELL EXTRACT

Ostrea Shell Extract เป็นสารสกัดจากเปลือกหอยนางรม ซึ่งนำมาใช้ในสูตรเครื่องสำอางต่างๆ

Ozokerite

ส่วนผสม* มิเนอรัล ออยล์ชนิดนี้เป็นไขมันจากฟอสซิล โดยส่วนผสมที่มีความบริสุทธิ์สูงจะอยู่ในรูปแบบต่างๆ (น้ำมัน เจล ฯลฯ) และไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส มิเนอรัล ออยล์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ Paraffinum Liquidum ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์แบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่ มิเนอรัล ออยล์สังเคราะห์ซึ่งไม่มีสารอื่นเจือปนตั้งแต่กระบวนการผลิต และมิเนอรัล ออยล์จากปิโตรเคมี ซึ่งเป็นมิเนอรัล ออยล์ที่ผ่านการกลั่นโดยได้มาจากการทำให้ฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติ มีความบริสุทธิ์ ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเราเป็นผลิตภัณฑ์เกรดเภสัชกรรม ดังนั้นจึงมีความบริสุทธิ์สูง คุณสมบัติหลักของส่วนผสมกลุ่มนี้ก็คือการปกป้องผิวไม่ให้ขาดน้ำ นอกจากนี้ ส่วนผสมเหล่านี้ยังช่วยพัฒนาคุณภาพของเนื้อสัมผัสและยังมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและลบเครื่องสำอาง * หากต้องการค้นพบส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ของเรา โปรดตรวจสอบรายชื่อส่วนผสมบนบรรจุภัณฑ์ โดยคุณสามารถค้นหาส่วนผสมที่มีมิเนอรัล ออยล์ได้อย่างง่ายดายจากชื่อต่างๆ เช่น "paraffinum liquidum", "cera microcristallina", "ozokerite", "paraffin" และ "แว็กซ์สังเคราะห์"

P-T

p-Anisic Acid

p-Anisic acid เป็นของแข็งสีขาวที่โปร่งแสงเหมือนผลึก พบได้ตามธรรมชาติในต้นยี่หร่า ซึ่งเป็นพืชแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่อยู่ในตระกูลพาร์สลีย์ เพาะปลูกเพื่อนำเมล็ดที่มีกลิ่นหอมมาใช้ในการประกอบอาหารและใช้เป็นยาสมุนไพร นอกจากนี้ ส่วนผสมชนิดนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีคุณสมบัติด้านการฆ่าเชื้อ

Palmitamidopropyltrimonium Chloride

Palmitamidopropyltrimonium Chloride คือเกลือควอเทอร์นารีแอมโมเนียม (เกลือแอมโมเนียมชนิดจตุรภูมิ) ซึ่งช่วยให้ผมจัดทรงง่ายและป้องกันหรือยับยั้งการเกิดไฟฟ้าสถิต จึงมีการนำมาผสมในสูตรครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์ย้อมผมและผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม

PALMITIC ACID

PALMITIC ACID เป็นกรดไขมันที่ได้จากผักและยังพบได้ในผิวมนุษย์ ส่วนในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว กรดชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิว อิมัลซิไฟเออร์ สารทึบแสง และสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม โดยจะช่วยให้ผิวนุ่มละมุนและเรียบเนียนยิ่งขึ้นพร้อมช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว

PANAX GINSENG ROOT EXTRACT

ส่วนผสมนี้มีคุณสมบัติด้านการเยียวยาโดยรวมเมื่อรับประทานเข้าสู่ร่างกาย โดยช่วยเสริมความจำและความแข็งแรงของร่างกายด้วยการป้องกันความเจ็บป่วยนอกจากนี้ ยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งวิตามินบีชั้นดีและมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก

Paraffin

ส่วนผสม* มิเนอรัล ออยล์ชนิดนี้เป็นไขมันจากฟอสซิล โดยส่วนผสมที่มีความบริสุทธิ์สูงจะอยู่ในรูปแบบต่างๆ (น้ำมัน เจล ฯลฯ) และไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส มิเนอรัล ออยล์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ Paraffinum Liquidum ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์แบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่ มิเนอรัล ออยล์สังเคราะห์ซึ่งไม่มีสารอื่นเจือปนตั้งแต่กระบวนการผลิต และมิเนอรัล ออยล์จากปิโตรเคมี ซึ่งเป็นมิเนอรัล ออยล์ที่ผ่านการกลั่นโดยได้มาจากการทำให้ฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติ มีความบริสุทธิ์ ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเราเป็นผลิตภัณฑ์เกรดเภสัชกรรม ดังนั้นจึงมีความบริสุทธิ์สูง คุณสมบัติหลักของส่วนผสมกลุ่มนี้ก็คือการปกป้องผิวไม่ให้ขาดน้ำ นอกจากนี้ ส่วนผสมเหล่านี้ยังช่วยพัฒนาคุณภาพของเนื้อสัมผัสและยังมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและลบเครื่องสำอาง
 
* หากต้องการค้นพบส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ของเรา โปรดตรวจสอบรายชื่อส่วนผสมบนบรรจุภัณฑ์ โดยคุณสามารถค้นหาส่วนผสมที่มีมิเนอรัล ออยล์ได้อย่างง่ายดายจากชื่อต่างๆ เช่น "paraffinum liquidum", "cera microcristallina", "ozokerite", "paraffin" และ "แว็กซ์สังเคราะห์"

Paraffinum Liquidum

ส่วนผสม* มิเนอรัล ออยล์ชนิดนี้เป็นไขมันจากฟอสซิล โดยส่วนผสมที่มีความบริสุทธิ์สูงจะอยู่ในรูปแบบต่างๆ (น้ำมัน เจล ฯลฯ) และไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส มิเนอรัล ออยล์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ Paraffinum Liquidum ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์แบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่ มิเนอรัล ออยล์สังเคราะห์ซึ่งไม่มีสารอื่นเจือปนตั้งแต่กระบวนการผลิต และมิเนอรัล ออยล์จากปิโตรเคมี ซึ่งเป็นมิเนอรัล ออยล์ที่ผ่านการกลั่นโดยได้มาจากการทำให้ฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติ มีความบริสุทธิ์ ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเราเป็นผลิตภัณฑ์เกรดเภสัชกรรม ดังนั้นจึงมีความบริสุทธิ์สูง คุณสมบัติหลักของส่วนผสมกลุ่มนี้ก็คือการปกป้องผิวไม่ให้ขาดน้ำ นอกจากนี้ ส่วนผสมเหล่านี้ยังช่วยพัฒนาคุณภาพของเนื้อสัมผัสและยังมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและลบเครื่องสำอาง
 
* หากต้องการค้นพบส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ของเรา โปรดตรวจสอบรายชื่อส่วนผสมบนบรรจุภัณฑ์ โดยคุณสามารถค้นหาส่วนผสมที่มีมิเนอรัล ออยล์ได้อย่างง่ายดายจากชื่อต่างๆ เช่น "paraffinum liquidum", "cera microcristallina", "ozokerite", "paraffin" และ "แว็กซ์สังเคราะห์"

PAULLINIA CUPANA SEED EXTRACT

สมุนไพรชนิดนี้มีคาเฟอีนมากกว่ากาแฟถึงสองเท่าครึ่ง จึงช่วยเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าและมีคุณสมบัติลดความมัน

PCA

PCA ย่อมาจาก Pyrrolidone Carboxylic Acid ทั้ง PCA และ PCA ของเกลือโซเดียมจะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในผิวหนังชั้นบนสุดโดยกักเก็บความชุ่มชื้นจากอากาศโดยรอบ

PEG-8

Polyethylene Glycol หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า PEG เป็นโพลีเมอร์ที่ละลายน้ำได้และปลอดสารพิษ มีการนำมาใช้ในยาโดยเป็นตัวนำส่วนผสมออกฤทธิ์ในแวดวงเภสัชกรรม อุตสาหกรรม การวิจัยชีววิทยาของเซลล์ และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง PEG จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความยาวของสายและมวลโมเลกุลที่เป็นผลลัพธ์ Polyethylene Glycol มีค่าความเป็นพิษต่ำมาก จึงใช้ในเครื่องสำอาง อาหาร และยามานานหลายทศวรรษ และยังได้รับอนุญาตในเภสัชตำรับที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย

PEG-12 Dimethicone

ซิลิโคน* เป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปแบบของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดมากกว่าหรือน้อยกว่า โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย คุณสมบัติหลักของซิลิโคน ออยล์เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนุ่มลื่น นั่นก็คือจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมหรือผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้ามีเนื้อเรียบเนียนดุจแพรไหม เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่หรูหรา รวมถึงให้ความแวววาวและนุ่มละมุนเมื่อผสมในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ* หากต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีซิลิโคนหรือไม่ โปรดดูรายการส่วนผสมในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งอาจอยู่ในชื่อต่างๆ เช่น "dimethicone", "cyclomethicone", "dimethiconol" และ "amodimethicone"

PEG-14 M

Polyethylenglycol เป็นโพลิเมอร์ที่ได้จาก Ethylene Oxide โดยตัวเลขที่อยู่ท้ายชื่อจะหมายถึงจำนวนหน่วยโดยเฉลี่ยในโมเลกุล PEG-14M ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์และช่วยให้ส่วนผสมที่มีน้ำกับน้ำมันมีความคงตัว

PEG-40 SORBITAN PERISOSTEARATE

PEG-40 Sorbitanperisostearate เป็นเอสเตอร์กรดไขมันของน้ำตาลแอลกอฮอล์ธรรมชาติหรือ Sorbitol ที่ผลิตโดยการสังเคราะห์ ส่วนใหญ่นิยมใช้ในโลชั่นดูแลผิว ครีม และผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มีน้ำ/น้ำมันเป็นส่วนผสมเพราะมีคุณสมบัติช่วยทําอิมัลชั่นและทำละลายได้เป็นอย่างดี

PEG-90M

PEG-90M เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่มีโมเลกุลสูง โดยจะก่อโฟมเพื่อทำความสะอาดและให้ความเรียบลื่นในผลิตภัณฑ์โกนหนวด

PEG-100 STEARATE

PEG-100 Stearate เป็นอีทอกซิเลตอิมัลซิไฟเออร์ที่ได้จากการสังเคราะห์เป็นหลัก อิมัลซิไฟเออร์ชนิดนี้จะช่วยให้อิมัลชั่นชนิดน้ำมันในน้ำ เช่น ครีมหรือโลชั่น มีความคงตัวโดยเฉพาะเมื่อมีการใช้อิเล็กโทรไลต์ปริมาณมากขึ้น

PEG-120 METHYL GLUCOSE DIOLEATE

PEG-120 Methyl Glucose Dioleate เป็นสารเพิ่มความหนืดประสิทธิภาพสูงสำหรับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรไมเซลลาร์ และยังช่วยเพิ่มความอ่อนโยนให้สูตรที่มีสารลดแรงตึงผิวเป็นส่วนผสมหลัก PEG-120 Methyl Glucose Dioleate ส่วนหนึ่งผลิตขึ้นจากการสังเคราะห์ และอีกส่วนหนึ่งได้จากธรรมชาติ

PEG-150

PEG-150 เป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่ละลายน้ำได้ โดยผลิตจาก Polyethylene Glycol เมื่อละลาย จะช่วยเพิ่มความหนืดให้สูตรที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก และให้ความลื่น

PEG-150 DISTEARATE

PEG-150 Distearate เป็นส่วนผสมสารพัดประโยชน์ที่ได้จากธรรมชาติและการสังเคราะห์ซึ่งอ่อนโยนต่อผิวเป็นพิเศษ โดยทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้ครีมมีความคงตัวและสร้างความเหนียวข้น รวมถึงเพิ่มความหนืดให้แชมพู เจลอาบน้ำ หรือเจลโกนหนวดอีกด้วย

PEG-2 Hydrogenated Castor Oil

PEG-2 HYDROGENATED CASTOR OIL เกิดจากการผสม Polyethylene Glycol (PEG) สังเคราะห์กับน้ำมันละหุ่งธรรมชาติ ซึ่งเป็นน้ำมันพืชที่ได้จากการบีบอัดเมล็ดต้นน้ำมันละหุ่ง (Ricinus communis) โดยจะมีกลิ่นไขมันจางๆ สารชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ สารลดแรงตึงผิวและเป็นส่วนผสมในน้ำหอม เราสามารถใส่ PEG-40 Hydrogenated Castor Oil ลงในสูตรเครื่องสำอางเพื่อช่วยให้ส่วนผสมที่เป็นหยดคงการกระจายตัวไว้ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเสถียรของผลิตภัณฑ์ จึงทำให้สารสำคัญที่มีประโยชน์ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ

PEG-200 Hydrogenated Glyceryl Palmate

PEG-200 Hydrogenated Glyceryl Palmate บางส่วนได้มาจากธรรมชาติ (ปาล์มน้ำมัน) และบางส่วนได้มาจากการสังเคราะห์ PEG-200 Hydrogenated Glyceryl Palmate เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่มีฤทธิ์อ่อนมาก มักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับเจลอาบน้ำและแชมพู

PEG-3 Distearate

PEG-3 Distearate จะช่วยสร้างอิมัลชั่นโดยลดความตึงผิวของสารที่จะทําอิมัลชั่น รวมถึงช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ ละลายในตัวทำละลายที่ตามปกติจะละลายไม่ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ในเจลอาบน้ำและแชมพูเพื่อทำให้สูตรมีความข้นและมีเนื้อคล้ายไข่มุก

PEG-40 Castor Oil

PEG-40 CASTOR OIL เกิดจากการผสม Polyethylene Glycol (PEG) สังเคราะห์กับน้ำมันละหุ่งธรรมชาติ ซึ่งเป็นน้ำมันพืชที่ได้จากการบีบอัดเมล็ดต้นน้ำมันละหุ่ง (Ricinus communis) โดยจะมีกลิ่นไขมันจางๆ สารชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ สารลดแรงตึงผิวและเป็นส่วนผสมในน้ำหอม เราสามารถใส่ PEG-40 Hydrogenated Castor Oil ลงในสูตรเครื่องสำอางเพื่อช่วยให้ส่วนผสมที่เป็นหยดคงการกระจายตัวไว้ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเสถียรของผลิตภัณฑ์ จึงทำให้สารสำคัญที่มีประโยชน์ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสามารถกระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ

PEG-40 HYDROGENATED CASTOR OIL

PEG-40 Hydrogenated Castor Oil เป็นอนุพันธ์ Polyethylene Glycol ที่ได้จาก Hydrogenated Castor Oil ซึ่งจะช่วยทำอิมัลชั่นโดยลดแรงตึงผิวของสารที่จะทําอิมัลชั่น และยังช่วยให้ส่วนผสมต่างๆ ละลายในตัวทำละลายที่ตามปกติจะละลายไม่ได้ PEG Castor Oils และ PEG Hydrogenated Castor Oils ผลิตจาก Castor oil และ Castor oil ที่เติมไฮโดรเจนลงไปตามลำดับ ส่วน Castor oil ได้มาจากการสกัดเย็นเมล็ดต้นน้ำมันละหุ่งแล้วใช้ความร้อนทำให้น้ำมันใส

PEG-40 STEARATE

PEG-40 Stearate เป็นกรดไขมันอีทอกซิเลตที่ได้จากกรดสเตียริก ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิว อิมัลซิไฟเออร์ และสารเพิ่มความหนืด จึงเหมาะสำหรับมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์สูตรดูแลผิวกาย

PEG-45/Dodecyl Glycol Copolymer

PEG-45/Dodecyl Glycol Copolymer เป็นโพลีเมอร์ที่ผลิตจากการสั่งเคราะห์ Polyoxymethylene และ Polydodecyl Glycol ซึ่งมีบทบาทในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดูแลผิวโดยเป็นสารให้ความคงตัวในอิมัลชั่น สารบำรุงผิว และสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม ทั้งยังช่วยปกป้องผิวไม่ให้ขาดน้ำ

PEG-7 Glyceryl Cocoate

PEG-7 Glyceryl Cocoate ทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นบนผิวซึ่งช่วยให้ผิวนุ่มละมุนและดูเรียบเนียน นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างอิมัลชั่นโดยลดความตึงผิวของสารที่จะทําอิมัลชั่น

PEG-7 Hydrogenated Castor Oil

PEG-7 Hydrogenated Castor Oil เป็นอนุพันธ์ Polyethylene Glycol ของ Hydrogenated Castor Oil ที่ผลิตโดยการสังเคราะห์ ซึ่งในสูตรเครื่องสำอาง จะทำหน้าที่เป็นส่วนผสมในน้ำหอม สารบำรุงผิว และสารทําอิมัลชั่นที่เป็นสารลดแรงตึงผิว ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเราเป็นผลิตภัณฑ์เกรดเภสัชกรรม ดังนั้นจึงมีความบริสุทธิ์สูง

PEG-7M

Polyethylenglycol เป็นโพลิเมอร์ที่ได้จาก Ethylene Oxide โดยตัวเลขที่อยู่ท้ายชื่อจะหมายถึงจำนวนหน่วยโดยเฉลี่ยในโมเลกุล PEG-7M ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์และช่วยให้ส่วนผสมที่มีน้ำกับน้ำมันมีความคงตัว

PEG-90 GLYCERYL ISOSTEARATE

PEG-90 Glyceryl Isostearate เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ได้จากธรรมชาติและการสังเคราะห์ซึ่งอ่อนโยนต่อผิวเป็นพิเศษ PEG-90 Glyceryl Isostearate จะใช้เพื่อเพิ่มความหนืดในแชมพู เจลอาบน้ำ หรือเจลโกนหนวดเป็นหลัก

PEG/PPG-17/18 Dimethicone

PEG/PPG-18/18 Dimethicone จัดอยู่ในกลุ่มซิลิโคน ซึ่งทนต่อการสลายตัวทางเคมี กายภาพ ชีวภาพ และจุลชีววิทยาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการจัดเตรียม การจัดเก็บและการใช้งานของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว

PEG/PPG-18/18 Dimethicone

PEG/PPG-17/18 Dimethicone จัดอยู่ในกลุ่มโพลีเมอร์ที่เป็นซิลิโคนซึ่งผลิตโดยการสังเคราะห์ ซิลิโคนทนต่อการสลายตัวทางเคมี กายภาพ ชีวภาพ และจุลชีววิทยา จึงมีการนำมาใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวจำนวนมาก
PEG/PPG-17/18 Dimethicone เป็นอิมัลซิไฟเออร์และช่วยเสริมการก่อตัวของส่วนผสมซึ่งเป็นของเหลวที่ไม่รวมเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น น้ำกับน้ำมัน ให้มีความคงตัวโดยแปลงแรงตึงผิวระหว่างส่วนผสมทั้งคู่

PENTAERYTHRITYL TETRA-DI-T-BUTYL HYDROXYHYDROCINNAMATE

ส่วนผสมชนิดนี้พบได้ในเครื่องสำอางต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ซึ่งจะใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในสูตรของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อป้องกันการสลายตัวและการเสื่อมสภาพของส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรผลิตภัณฑ์

PENTAERYTHRITYL TETRAISOSTEARATE

Pentaerythrityl Tetraisostearate เป็นเอสเตอร์ของ Pentaerythritol และ Isostearic acid โดยส่วนประกอบหลักมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ อีกส่วนเล็กๆ ของโมเลกุลมาจากวัตถุดิบตั้งต้นในอุตสาหกรรมปีโตรเคมี Pentaerythrityl Tetraisostearate เป็นสารเหลวที่ปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มพร้อมมอบความแวววาวให้ผิว

Pentylene Glycol

Pentylene Glycol เป็นสารสังเคราะห์ที่ช่วยกักเก็บน้ำซึ่งใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม โดยมีการใช้เป็นตัวทำละลายและสารกันเสียรองลงมา สารชนิดนี้ละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน รวมถึงมีคุณสมบัติจับความชื้นและต้านจุลชีพ Pentylene Glycol เป็นสารสังเคราะห์ที่ช่วยกักเก็บน้ำซึ่งใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม โดยมีการใช้เป็นตัวทำละลายและสารกันเสียรองลงมา สารชนิดนี้ละลายได้ทั้งในน้ำและน้ำมัน รวมถึงมีคุณสมบัติจับความชื้นและต้านจุลชีพ
persea gratissima oil

Persea Gratissima Oil

น้ำมันอะโวคาโดเป็นน้ำมันจากผลอะโวคาโดซึ่งเป็นผลไม้ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Persea americana น้ำมันสกัดที่รับประทานได้ชนิดนี้ใช้เป็นทั้งส่วนผสมและน้ำมันประกอบอาหาร รวมถึงยังเป็นที่ชื่นชอบในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางเนื่องจากคุณสมบัติด้านการฟื้นบำรุงและการให้ความชุ่มชื้น มนุษย์ใช้น้ำมันอะโวคาโดมาตั้งแต่สมัยแอซแทคและยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจนถึงทุกวันนี้ โดยจะซึมซาบราวกับละลายเข้าสู่ผิว ผิวคุณจึงนุ่มละมุนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ อะโวคาโดยังได้รับการยกย่องในด้านโภชนาการ รวมถึงได้รับการชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเนื่องจากอุดมด้วยวิตามิน คุณค่าทางโภชนาการ โปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระและไขมันดี

Phenoxyethanol

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป)
สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์
เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ
การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

Phenylbenzimidazole Sulfonic Acid

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

PHOSPHORIC ACID

Phosphoric Acid อยู่ในรูปของเหลวใสไร้สีหรือสีขาวซึ่งใช้กันแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ส่วนผสมนี้จะทำหน้าที่เป็นสารปรับค่า pH เพื่อช่วยให้สูตรมีความคงตัว

PIMPINELLA ANSIUM FRUIT EXTRACT

Pimpinella Anisum Fruit Extract เป็นสารสกัดจากผลของต้นเทียนสัตตบุษย์ ซึ่งเป็นพืชในตระกูล Apiacea ประกอบด้วยเพปไทด์สมุนไพร Apiaceae ซึ่งเป็นสารสกัดที่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับปฏิกิริยาระหว่างไฟโบรบลาสต์และคอลลาเจนในเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของผิว

POLOXAMER 101

Poloxamer เป็นโพลิเมอร์ที่เกิดจากบล็อกของ Polyoxyethylene ตามด้วยบล็อกของ Polyoxypropylene และบล็อกของ Polyoxyethylene ตามลำดับ จำนวนหน่วยโดยเฉลี่ยของ Polyoxyethylene และ Polyoxypropylene จะต่างกันไปตามตัวเลขที่เกี่ยวกับโพลิเมอร์ ตัวอย่างเช่น Poloxamer 101 ซึ่งเป็นโพลิเมอร์ที่เล็กที่สุด ประกอบด้วยบล็อกที่มี Polyoxyethylene เฉลี่ย 2 หน่วย บล็อกที่มี Polyoxypropylen เฉลี่ย 16 หน่วย ตามด้วยบล็อกที่มี Polyoxyethylene เฉลี่ย 2 หน่วย Poloxamer จะอยู่ในรูปของเหลวและครีมไร้สีไปจนถึงผลึกใส ส่วนในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว Poloxamers จะใช้ผสมในสูตรผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ แชมพู ครีมนวดผม น้ำยาบ้วนปาก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวรอบดวงตา/เครื่องสำอาง รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมอื่นๆ

POLOXAMER 124

Poloxamer เป็นโพลิเมอร์ที่เกิดจากบล็อกของ Polyoxyethylene ตามด้วยบล็อกของ Polyoxypropylene และบล็อกของ Polyoxyethylene ตามลำดับ จำนวนหน่วยโดยเฉลี่ยของ Polyoxyethylene และ Polyoxypropylene จะต่างกันไปตามตัวเลขที่เกี่ยวกับโพลิเมอร์ ตัวอย่างเช่น Poloxamer 101 ซึ่งเป็นโพลิเมอร์ที่เล็กที่สุด ประกอบด้วยบล็อกที่มี Polyoxyethylene เฉลี่ย 2 หน่วย บล็อกที่มี Polyoxypropylen เฉลี่ย 16 หน่วย ตามด้วยบล็อกที่มี Polyoxyethylene เฉลี่ย 2 หน่วย Poloxamer จะอยู่ในรูปของเหลวและครีมไร้สีไปจนถึงผลึกใส ส่วนในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว Poloxamers จะใช้ผสมในสูตรผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ แชมพู ครีมนวดผม น้ำยาบ้วนปาก ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวรอบดวงตา/เครื่องสำอาง รวมถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมอื่นๆ

POLOXAMER 231

Poloxamer 231 ช่วยลดแรงตึงผิว จึงช่วยให้เกลี่ยเนื้อผลิตภัณฑ์ได้สม่ำเสมอระหว่างทา

POLYBUTENE

Polybutene เป็นโพลีเมอร์ที่จะเพิ่มความหนืดของส่วนที่เป็นไขมัน (น้ำมัน) ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว โดยจะแห้งและสร้างชั้นเคลือบบางๆ บนผิว เส้นผมหรือเล็บ และมีการใช้เพื่อให้ส่วนผสมของแป้งอัดแข็งจับตัวกัน

POLYISOBUTENE

Polyisobutene เป็นโพลีเมอร์ที่จะเพิ่มความหนืดของส่วนที่เป็นไขมัน (น้ำมัน) ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว โดยจะแห้งและสร้างชั้นเคลือบบางๆ บนผิว เส้นผมหรือเล็บ และมีการใช้เพื่อให้ส่วนผสมของแป้งอัดแข็งจับตัวกัน

Polyglyceryl-2 Caprate

Polyglyceryl-2 Caprate เป็นส่วนผสมอเนกประสงค์ปลอดสาร PEG ที่ได้จากผักซึ่งช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมเข้ากันได้ดี รวมถึงช่วยให้ผิวนุ่มละมุนและช่วยต้านจุลชีพ จึงเป็นส่วนผสมออกฤทธิ์สำหรับผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากธรรมชาติ

Polyglyceryl-3 Diisostearate

Polyglyceryl-3 Diisostearate เป็นไดเอสเตอร์ที่สร้างขึ้นจาก Polyglycerol ที่มี Glycerol สามอะตอมและ Isostearic Acid สองอะตอม ทั้ง Polyglycerol และ Isostearic Acid ได้มาจากพืช 100% ส่วนผสมชนิดนี้เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มและอิมัลซิไฟเออร์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับสูตรที่มีน้ำในน้ำมัน ซึ่งบอบบางและอ่อนโยนต่อผิวมาก จึงเป็นส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นเพื่อผิวบอบบางแพ้ง่าย นอกจากนี้ Polyglyceryl-3 Diisostearate ยังเหมาะสำหรับสูตรผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับทั้งผิวและเส้นผม

POLYGLYCERYL-2 DIPOLYHYDROXYSTEARATE

Polyglyceryl-2 Dipolyhydroxystearate เป็นไดเอสเตอร์ที่ผลิตโดยการสังเคราะห์ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารบำรุงผิวในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

Polyglyceryl-3 Distearate

Polyglyceryl-3 Distearate ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิดน้ำมันในน้ำที่ไม่มีประจุ โดยใช้ในผลิตภัณฑ์กันแดด ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ผลิตภัณฑ์ที่มีสีสัน ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวกาย และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่อยู่ในรูปแบบของอิมัลชั่นซึ่งมีน้ำมันธรรมชาติและสารป้องกันแสงแดดเข้มข้นสูง

POLYGLYCERYL-3 METHYLGLUCOSE DISTEARATE

Polyglyceryl-3 Methylglucose Distearate เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ได้จากพืช และบางครั้งก็ทำหน้าที่เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Glyceryl Ester นอกจากคุณสมบัติช่วยทําอิมัลชั่นและสารบำรุงแล้ว สารชนิดนี้ยังใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์กันแดดเนื่องจากมีประสิทธิภาพกันน้ำเมื่อใช้เป็นสารลดแรงตึงผิวในผลิตภัณฑ์ที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบหลัก

Polyglyceryl-4 Diisostearate/Polyhydroxystearate/Sebacate

Polyglyceryl-4 Diisostearate/Polyhydroxystearate/Sebacate เป็นไดเอสเตอร์ที่ผลิตขึ้นโดยสังเคราะห์ส่วนผสมของ Isostearic Acid, Polyhydroxystearic และ Sebacic Acids ที่มี Polyglycerin-4 แวดวงเครื่องสำอางจะใช้เป็นสารทําอิมัลชั่น สารให้ความคงตัวในอิมัลชั่น สารลดแรงตึงผิวสำหรับสูตรของครีมและโลชั่น ผลิตภัณฑ์กันแดดและผลิตภัณฑ์สีสันที่มีน้ำ/น้ำมันเป็นส่วนผสม สารชนิดนี้จะให้สัมผัสเบาสบายผิวโดยไม่เหนียวเหนอะหนะ

POLYGLYCERYL-4 ISOSTEARATE

Polyglyceryl-4 Isostearate เป็นเอสเตอร์สังเคราะห์ที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบหลักของ Isostearic acid และ Polyglycerin-4 ซึ่งสามารถใช้เป็นสารบำรุงผิว รวมถึงสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มหรือสารลดแรงตึงผิว

POLYGLYCERYL-10 STEARATE

Polyglyceryl-10 Stearate เป็นส่วนผสมปลอดสาร PEG ที่ได้จากผักซึ่งช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมเข้ากันได้ดี รวมถึงช่วยทำอิมัลชั่นที่มีความคงตัวและเหมาะสำหรับเครื่องสำอาง สารชนิดนี้ผลิตโดยการผูกโมเลกุลกลีเซอรีนที่ชอบน้ำ 10 หน่วยเข้ากับกรดสเตียริกซึ่งเป็นกรดไขมันที่ชอบน้ำมัน จึงเกิดเป็นโมเลกุลที่ชอบน้ำบางส่วนและชอบน้ำมันบางส่วน นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและเพิ่มความนุ่มให้ผิวและเส้นผมอีกด้วย

POLYMETHYLSILSESQUIOXANE

Polymethylsilsesquioxane เป็นผงแป้งทรงกลมที่มีซิลิคอนเป็นส่วนประกอบหลักซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความรู้สึกเมื่อทาให้ครีมและโลชั่น โดยมอบสัมผัสเนียนนุ่มดุจกำมะหยี่แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ

POLYPROPYLSILSESQUIOXANE

Silsesquioxane เป็นสารประกอบ Organosilicon ที่มีคุณสมบัติก่อฟิล์มบางๆ ซิลิโคนเป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดพอประมาณ โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย

Polyquaternium-4

Polyquaternium-4 เป็นโพลีเมอร์จากเซลลูโลส เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม จะช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิต พร้อมช่วยให้เส้นผมดูมีชีวิตชีวาและสลวย โดยเคลือบเส้นผม เพิ่มความนุ่มลื่นหรือเงาวาว หรือฟื้นบำรุงผมเสียจากการทำเคมีหรือสาเหตุอื่น

Polyquaternium-7


Polyquaternium -7 เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ซึ่งมักใช้ในเจลอาบน้ำเพื่อเพิ่มความรื่นรมย์ขณะใช้ ส่วนในแชมพู จะช่วยให้เส้นผมดูมีชีวิตชีวาหลังสระ รวมถึงช่วยให้ผมหวีง่ายขึ้น

Polyquaternium-10

Polyquaternium-10 เป็นโพลีเมอร์จากเซลลูโลส เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม จะช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิต พร้อมช่วยให้เส้นผมดูมีชีวิตชีวาและสลวย โดยเคลือบเส้นผม เพิ่มความนุ่มลื่นหรือเงาวาว หรือฟื้นบำรุงผมเสียจากการทำเคมีหรือสาเหตุอื่น

POLYQUATERNIUM-16

Polyquaternium‐16 (PQ ‐16, copolymer ของ 1‐vinyl‐2‐pyrrolidone และ 1‐vinyl‐3‐methylimidazolium chloride) เป็นสารออกฤทธิ์ระงับกลิ่นกายที่ปรับปรุงใหม่และอ่อนโยนต่อผิว โดยช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ใต้รักแร้ได้เป็นอย่างดี เพราะช่วยลดจำนวนแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นกายและยังใช้เป็นสารก่อฟิล์มสำหรับเส้นผมและเล็บโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังใช้เป็นสารช่วยแก้ไขป้องกันไฟฟ้าสถิตในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอีกด้วย

POLYQUATERNIUM-37

Polyquaternium-37 เป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ประจุบวกที่ทำหน้าที่เป็นครีมนวดผม พร้อมทั้งเพิ่มความหนืดให้กับสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก

Polyquaternium-47

Polyquaternium -47 เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเพื่อจัดทรงและช่วยให้ผมอยู่ทรง

Polyquaternium-68

Polyquaternium -68 เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเพื่อจัดทรงและช่วยให้ผมอยู่ทรง

Polysilicone-15

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

POLYSORBATE 20

Polysorbate 20 เป็นอิมัลซิไฟเออร์สังเคราะห์ที่ช่วยให้อิมัลชั่นชนิดน้ำมันในน้ำ เช่น ครีมหรือโลชั่น มีความคงตัว นอกจากนี้ อิมัลซิไฟเออร์ชนิดอ่อนโยนที่ไม่มีประจุชนิดนี้ยังใช้เป็นส่วนผสมในอาหารต่างๆ ได้อีกด้วย

POLYSORBATE 65

Polysorbate 65 เป็นสารลดแรงตึงผิวไม่มีประจุที่ละลายในน้ำ ผลิตโดยการสังเคราะห์ Polyol Sorbitol ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่างๆ Polysorbate 65 จะช่วยให้ส่วนผสมอื่นๆ ละลายในตัวทำละลายที่ตามปกติจะละลายไม่ได้ และยังช่วยทำอิมัลชั่น

POLYVINYL ALCOHOL

Polyvinyl Alcohol เป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่ละลายน้ำได้ ซึ่งมีคุณสมบัติก่อฟิล์ม ปกติจะใช้เป็นส่วนผสมในมาสก์ชนิดลอกออก นอกจากนี้ Polyvinyl Alcohol ยังมีคุณสมบัติละลายน้ำ จึงช่วยเพิ่มความหนืดได้

POTASSIUM ARACHIDATE

Potassium Arachidate เป็นเกลือโพแทสเซียมของกรดอะราคิดิก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ตามธรรมชาติในไขมันและน้ำมันจากสัตว์และพืชหลายชนิด ใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์และสารลดแรงตึงผิวในสบู่เหลว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า แว็กซ์สำหรับหนวด ครีมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมถาวรจำนวนมาก

POTASSIUM CETYL PHOSPHATE

Potassium Cetyl Phosphate ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์หรือสารลดแรงตึงผิวมาตรฐานสำหรับอิมัลชั่นชนิดน้ำมันในน้ำที่คงตัวยาก Potassium Cetyl Phosphate ไม่เพียงแต่จะช่วยให้อิมัลชั่นมีความคงตัว แต่ยังช่วยให้สูตรมีความเหนียวข้น โดยจะช่วยเพิ่มการป้องกัน SPF จึงเหมาะกับสูตรผลิตภัณฑ์กันแดดแบบกันน้ำที่ต้องการความเสถียร

POTASSIUM HYDROXIDE

ส่วนผสม Sodium Hydroxide เป็นสารควบคุมค่า pH ที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นเบสแก่ เนื่องจากเป็นสารประกอบพื้นฐานที่สามารถปรับสภาพกรดให้เป็นกลางได้ Sodium Hydroxide จึงใช้ในการปรับและคงระดับความเป็นกรด (ค่า pH) ให้เสถียรตามที่ต้องการ ดังนั้น สารควบคุมค่าความเป็นกรดจึงช่วยให้สารกันเสียที่ทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดเท่านั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

POTASSIUM LAURATE

Potassium Laurate เป็นเกลือโพแทสเซียมของกรดลอริก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ตามธรรมชาติในไขมันและน้ำมันจากสัตว์และพืชหลายชนิด โดยพบได้สูงในลูกจันทน์ ปาล์มน้ำมัน น้ำมันมะพร้าว และเนยใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์และสารลดแรงตึงผิวในสบู่เหลว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า แว็กซ์สำหรับหนวด ครีมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมถาวรจำนวนมาก

POTASSIUM MYRISTATE

Potassium Myristate เป็นเกลือโพแทสเซียมของกรดไมริสติก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ตามธรรมชาติในไขมันและน้ำมันจากสัตว์และพืชหลายชนิด ใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์และสารลดแรงตึงผิวในสบู่เหลว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า แว็กซ์สำหรับหนวด ครีมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมถาวรจำนวนมาก

POTASSIUM OLEATE

Potassium Oleate เป็นเกลือโพแทสเซียมของกรดโอเลอิก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ตามธรรมชาติในไขมันและน้ำมันจากสัตว์และพืชหลายชนิด ใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์และสารลดแรงตึงผิวในสบู่เหลว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า แว็กซ์สำหรับหนวด ครีมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมถาวรจำนวนมาก

POTASSIUM PALMITATE

Potassium Palmitate เป็นเกลือโพแทสเซียมของกรดปาลมิติก ซึ่งเป็นกรดไขมัน ได้จากกระบวนการเปลี่ยนน้ำมันพืชให้เป็นสบู่ จึงมีการนำมาใช้ทำสบู่และผงซักฟอก

POTASSIUM PHOSPHATE

Potassium Phosphate เป็นเกลืออนินทรีย์ที่ใช้กันแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพื่อปรับค่า pH ของสูตร

POTASSIUM SORBATE

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxyethanol และ Parabens

POTASSIUM STEARATE

Potassium Stearate เป็นเกลือโพแทสเซียมของกรดสเตียริก ซึ่งเป็นกรดไขมัน ปกติแล้ว จะมีการนำเกลือสเตียเรตมาใช้เนื่องจากคุณสมบัติด้านการหล่อลื่น รวมถึงยังช่วยป้องกันไม่ให้สารประกอบน้ำมันและของเหลวในอิมัลชั่นแยกออกจากกัน นอกจากนี้ เกลือสเตียเรตจะเพิ่มความหนืดของส่วนที่เป็นไขมัน (น้ำมัน) ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว พร้อมทั้งลดความใสหรือความโปร่งแสงของผลิตภัณฑ์สำเร็จ

PPG-1-PEG-9-LAURYL GLYCOL ETHER

PPG-1-PEG-9-Lauryl Glycol Ether เป็นสารช่วยทําอิมัลชั่นและสารลดแรงตึงผิวที่ผลิตโดยการสังเคราะห์

PPG-1 TRIDECETH-6

PPG-1 Trideceth-6 เป็นอิมัลซิไฟเออร์สังเคราะห์ที่มักใช้เป็นสารเติมแต่งในส่วนผสมของเครื่องสำอางเพื่อละลายส่วนผสม

PPG-14 Butyl Ether

PPG-14 Butyl Ether เป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่ช่วยดูแลผิวให้ดูดี พร้อมให้ความรู้สึกเรียบเนียน "PPG-" หมายถึงอนุพันธ์ของ (Polypropylenglycol-) วัตถุดิบจาก PPG มีประวัติอันยาวนานในแวดวงเครื่องสำอางและเภสัชกรรม เนื่องจากมีความปลอดภัยต่อผิวแต่ไม่สามารถย่อยสลายในทางชีวภาพ

PPG-15 STEARYL ETHER

PPG-15 Stearyl Ether เป็นน้ำมันสำหรับเครื่องสำอางที่มีค่าสารโพลาร์สูงซึ่งช่วยให้ผิวรู้สึกเรียบเนียน โดยส่วนประกอบหลักได้จากการสังเคราะห์ ส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของโมเลกุลมีที่มาจากพืชที่ปลูกทดแทนได้ใหม่ "PPG-" หมายถึงอนุพันธ์ของ Polypropylenglycol วัตถุดิบจาก PPG มีประวัติอันยาวนานในแวดวงเครื่องสำอางและเภสัชกรรม เนื่องจากมีความปลอดภัยต่อผิวแต่ไม่สามารถย่อยสลายในทางชีวภาพ

PROPANE

Propane เป็นก๊าซสังเคราะห์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์หัวพ่น เช่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือสเปรย์ใส่ผม โดยนำมาใช้เป็นสารขับดันที่มีหน้าที่จ่ายแรงดันเพื่อให้สเปรย์ฉีดออกมาอย่างเหมาะสม

PROPYLENE CARBONATE

Propylene Carbonate เป็นตัวทำละลายชนิดเหลวที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ เนื่องจากเป็นสารที่มีคุณสมบัติเฉพาะ Propylene Carbonate จะเพิ่มความสามารถในการดูดซึมของวัตถุดิบที่มีแร่ดินเหนียวเป็นส่วนผสมหลักเพื่อเพิ่มความหนืดให้กับสูตรที่ไม่มีน้ำเป็นส่วนผสมโดยเฉพาะ

PROPYL GALLATE

Propyl Gallate เป็นเอสเตอร์ที่ก่อตัวจากการควบแน่นของกรดแกลลิกและโพรพราโน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ใช้ในอาหารและเครื่องสำอางเพื่อหลีกเลี่ยงการออกซิเดชันของน้ำมันและไขมัน

Propylene Glycol

ปกติแล้ว Propylene Glycol จะได้มาจากมิเนอรัล ออยล์ แต่ก็สามารถผลิตจากวัตถุดิบจากพืชได้เช่นกัน ในเครื่องสำอาง จะใช้เป็นสารที่ช่วยกักเก็บน้ำและสารเพิ่มความนุ่มในแชมพู ครีมดูแลผิวและโลชั่นดูแลผิวกาย

PROPYLENE GLYCOL DICAPRYLATE/DICAPRATE

Propylene Glycol Dicaprylate/Dicaprate เป็นสารที่ได้จากธรรมชาติหรือได้จากการสังเคราะห์บางส่วน และใช้เป็นน้ำมันบำรุงผิวเพื่อช่วยให้ผิวนุ่มละมุนและเรียบเนียนโดยผสมในน้ำมันและครีม

PROPYLHEPTYL CAPRYLATE

Propylheptyl Caprylate เป็นสารสังเคราะห์ที่ปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่ม จึงช่วยให้ผิวเนียนนุ่มดุจกำมะหยี่ สามารถเกลี่ยได้เร็วพร้อมทำละลายได้ดีเป็นพิเศษในสารป้องกันแสงแดดที่ไม่มีสี และมีคุณสมบัติช่วยกระจายตัวสำหรับแป้งและเม็ดสี จึงเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์สูตรดูแลผิวหน้าและผิวกาย รวมถึงผลิตภัณฑ์กันแดด

Propylparaben

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป)
สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์
เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ
การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens
prunus amygdalus

Prunus Amygdalus Dulcis Oil / Almond Oil

Almond oil ได้จากการนำเมล็ดอัลมอนด์สุกในผลหวานหอมที่ปอกเปลือกแล้วของต้นอัลมอนด์มาสกัดเย็นแล้วนำไปกลั่น น้ำมันสีทองกลิ่นอัลมอนด์หวานละมุนชนิดนี้ใช้ในทางการแพทย์และในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาหลายศตวรรษ อัลมอนด์เป็นของขบเคี้ยวที่ทั้งอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง นอกจากนี้ น้ำมันที่สกัดได้จากอัลมอนด์ยังเหมาะสำหรับผิวทุกประเภท โดยเฉพาะผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย Almond oil มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง (90 เปอร์เซ็นต์) และยังมีกรดไลโนเลอิก 20-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งกรดไลโนเลอิกเป็นสารชนิดหนึ่งที่ผลิตขึ้นได้เองในผิวมนุษย์

PRUNUS ARMENIACA KERNEL OIL

Prunus Armeniaca Kernel Oil (หรือที่รู้จักกันในชื่อน้ำมันเเอปปริคอทหรือน้ำมันจากเมล็ดเเอปปริคอท) เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มชนิดเหลวตามธรรมชาติที่สกัดจากเมล็ดของ Prunus Armeniaca (เเอปปริคอท) เมล็ดเเอปปริคอทมีปริมาณน้ำมันถึง 40-50% และอุดมด้วยกรดโอเลอิกและกรดไลโนเลอิกที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมที่มี Prunus Armeniaca Kernel Oil จึงช่วยมอบความเนียนนุ่ม

PRUNUS CERASUS JUICE

เชอร์รี่ (Prunus Cerasus) เพาะปลูกในยุโรปเป็นหลัก ผลเชอร์รี่สุกจะได้รับการเก็บเกี่ยว ล้างทำความสะอาด และนำไปปั่นจนละเอียด จากนั้นจะนำมาคั้นและกรอง แล้วกลั่นในอุณหภูมิต่ำอย่างระมัดระวังเพื่อทำให้เข้มข้นขึ้น

PRUNUS PERSICA JUICE

Prunus Persica Juice ได้มาจากเนื้อลูกพีชและอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และกรดโฟลิก ในบางวัฒนธรรม ลูกพีชได้รับการขนานนามว่าเป็น 'ผลไม้แห่งความอ่อนเยาว์อันเป็นนิรันดร์' เพราะความสามารถในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้นโดยขึ้นอยู่กับการใช้ในสูตร

Psidium Guajava Fruit Extract

สารสกัดฝรั่งจะได้รับการผลิตโดยใช้กระบวนการสกัดที่อ่อนโยนซึ่งเหมาะสมที่สุดเพื่อช่วยให้เก็บรักษาส่วนผสมตามธรรมชาติเอาไว้ได้ ฝรั่งเป็นผลไม้พิเศษที่เพาะปลูกในประเทศเขตกึ่งร้อนและเขตร้อน โดยจัดอยู่ในกลุ่มต้นไม้โบราณและทราบกันดีว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูงอย่างยิ่งเพราะฝรั่งอุดมด้วยวิตามินซี ธาตุเหล็กและแคลเซียม วิตามินซียังนิยมเรียกกันว่า Ascorbic Acid ซึ่งนำมาใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและสารปรับความเป็นกรด-ด่างในสูตรเครื่องสำอางจำนวนมาก

PUNICA GRANATUM FRUIT JUICE

Punica Granatum Fruit Juice เป็นน้ำผลไม้ที่ได้จากผลทับทิมซึ่งมีฟลาโวนอยด์และแร่ธาตุต่างๆ

PVM/MA COPOLYMER

PVM/MA Copolymer เป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่ใช้ก่อฟิล์มจากหน่วยโครงสร้างของ Methyl Vinyl Ether และ Maleic Anhydride โดยจะช่วยดูดซับน้ำเพื่อเพิ่มความหนืดในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนผสม

QUARTZ

Quartz เป็นแร่ที่พบได้ทั่วไปตามธรรมชาติ ใช้เป็นส่วนผสมในยาสีฟันเพื่อขจัดคราบหินปูน และใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อขจัดสิ่งสกปรกบนผิวหนัง

QUATERNIUM-87

Quaternium-87 ใช้ในครีมนวดผมและทรีตเม้นต์ พร้อมช่วยให้เส้นผมดูมีชีวิตชีวาและสลวย โดยเคลือบเส้นผม เพิ่มความนุ่มลื่นหรือเงาวาว หรือฟื้นบำรุงผมเสียจากการทำเคมีหรือสาเหตุอื่น

RETINYL PALMITATE

ส่วนผสมชนิดนี้เป็นอนุพันธ์วิตามินเอ ซึ่งช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่และขึ้นชื่อในเรื่องการเสริมความแข็งแรงของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

Ricinus Communis Seed Oil

Ricinus Communis Seed Oil เป็นน้ำมันซึ่งไม่เป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง (non-drying oil) ได้จากเมล็ด Ricinus communis โดยมีสัดส่วนของกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหลายตำแหน่งในปริมาณมาก จึงทำให้มีความเหลวที่สม่ำเสมอ น้ำมันชนิดนี้ใช้เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่มีประสิทธิภาพ ช่วยดูแลผิวให้ดูดี รวมถึงยังเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์และสารหล่อลื่นที่ไม่อุดตันรูขุมขนในครีม โลชั่นและผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดสี

ROSA DAMASCENA FLOWER OIL

น้ำมันชนิดนี้ผลิตจากต้นกุหลาบโดยกลั่นเป็นเอสเซนเชียลออยล์กุหลาบ และใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางเพราะกลิ่นให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

ROSA DAMASCENA FLOWER WATER

น้ำดอกไม้ชนิดนี้สกัดจากดอกกุหลาบมอญ และใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางเพราะกลิ่นให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

ROSA GALLICA FLOWER EXTRACT

Rosa Gallica Flower Extract เป็นกลิ่นหอมที่สกัดจาก Rosa Gallica ซึ่งเป็นดอกกุหลาบฝรั่งเศส นิยมนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

RUBUS FRUTICOSUS JUICE

Rubus Fruticose Juice ได้มาจากผลแบล็คเบอร์รี่ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่นำมาใช้ในแวดวงการแพทย์ แวดวงเครื่องสำอาง และใช้เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ โดยมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ

RUBUS IDAEUS JUICE

Rubus Idaeus Juice ได้มาจากผลแบล็คเบอร์รี่ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่นำมาใช้ในแวดวงการแพทย์ แวดวงเครื่องสำอาง และใช้เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ โดยมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ

SALICYLIC ACID

Salicylic Acid ใช้เป็นสารกันเสีย แต่หากใช้ในระดับความเข้มข้นสูงขึ้น จะมีคุณสมบัติเคราติโนลิติก กล่าวคือกรดชนิดนี้จะเร่งการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นบนสุดหรือ Stratum Corneum ที่ตายแล้วออกไป

SERINE

Serine เป็นกรดอะมิโนและเป็นหน่วยโครงสร้างของโปรตีนต่างๆ มีการใช้กรดอะมิโนกันอย่างแพร่หลายในเครื่องสำอาง กรดอะมิโนบางชนิดเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในผิวหนังและทำงานร่วมกับ Aquaporin (ระบบส่งผ่านน้ำในร่างกาย) เพื่อมอบความชุ่มชื้นให้ผิว

SESAMUM INDICUM SEED OIL

Sesamum Indicum Seed Oil หรือน้ำมันงาเป็นน้ำมันพืชจากเมล็ดงาที่รับประทานได้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในน้ำมันพืชที่เก่าแก่ที่สุด ของเหลวสีเหลืองอ่อนชนิดนี้อุดมด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว (กรดไลโนเลอิก (41%) และ กรดโอเลอิก (39%)) เหมาะสำหรับใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม และยังใช้เป็นน้ำมันนวดมายาวนาน

Silica

Silica หรือที่เรียกว่า Silicon Dioxide เป็นผงแป้งเนื้อละเอียดจากแร่ธาตุ ซึ่งในสูตรเครื่องสำอางจะใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดในน้ำมันหรืออิมัลชั่น นอกจากนี้ Silica จะให้ผลลัพธ์ด้านการควบคุมความมันบนผิวเมื่อผสมในอิมัลชั่นเนื่องจากมีคุณสมบัติดูดซับน้ำมัน และยังสามารถใช้เป็นสารขัดผิวได้โดยขึ้นอยู่กับชนิด

Silica Dimethyl Silylate

Silica Dimethyl Silylateis เป็น Fumed Silica ดัดแปรที่ไม่ละลายในน้ำ โดยเป็นวัตถุดิบสังเคราะห์ที่ไม่รวมตัวกับน้ำและสามารถลดความเหนียวในอิมัลชั่นเข้มข้นได้ จึงช่วยให้ผิวรู้สึกเหนอะหนะน้อยลง ทั้งนี้ สูตรผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันผสมจะสามารถทำให้หนืดขึ้นได้ด้วย Silica Dimethyl Silylate

SILICONE QUATERNIUM-18

ซิลิโคนเป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดพอประมาณ โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย
คุณสมบัติของซิลิโคน ออยล์เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนุ่มลื่น นั่นก็คือจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมหรือผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้ามีเนื้อนุ่มลื่นดุจแพรไหม เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่หรูหรา รวมถึงให้ความแวววาวและนุ่มละมุนเมื่อผสมในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ

SILVER CITRATE

Silver Citrate เป็นส่วนผสมสารกันเสียจากธรรมชาติที่ละลายน้ำได้สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง มีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อแบคทีเรียที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมในสูตรเครื่องสำอาง เกลือของซิลเวอร์ เช่น เกลือ Silver Citrate มีคุณสมบัติต้านจุลชีพ และยังมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงไวรัสต่างๆ

SILYBUM MARIANUM FRUIT EXTRACT

Silybum Marianum Fruit Extract เป็นสารสกัดจากผลของต้นมิลค์ ทิสเซิล (Silybum Marianum) ซึ่งมี Silymarin ที่เป็นสารออกฤทธิ์จากสมุนไพร สารสกัดชนิดนี้จะทำหน้าที่ยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชันพร้อมช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน ส่วนในระดับเซลล์ Silymarin มีคุณสมบัติปกป้อง ดูแลความคงที่ และช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของหลอดเลือดฝอยในผิวหนังมนุษย์

SILYBUM MARIANUM SEED OIL

Silybum Marianum Seed Oil หรือน้ำมันมิลค์ ทิสเซิลเป็นน้ำมันพืชที่ได้จากมิลค์ ทิสเซิลซึ่งเป็นพืชที่มีอายุเพียงปีเดียวและมีดอกสีม่วง น้ำมันสีเหลืองชนิดนี้สกัดจากเมล็ดมิลค์ ทิสเซิลซึ่งเป็นพืชที่มีคุณสมบัติในการเยียวยา อุดมด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (กรดไลโนเลอิกและกรดโอเลอิก) รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ (วิตามินอี) โดยเป็นน้ำมันที่มาพร้อมคุณค่าการบำรุงสำหรับเครื่องสำอาง เกลี่ยง่ายและกระจายตัวบนผิวได้อย่างเร็ว

Simethicone

ซิลิโคน* เป็นส่วนผสมสังเคราะห์ที่อยู่ในรูปแบบของน้ำมันและเจลซึ่งมีเนื้อสัมผัสที่หนืดมากกว่าหรือน้อยกว่า โดยเป็นส่วนผสมที่สังเคราะห์จากซิลิคอนซึ่งเป็นสารประกอบแร่ธาตุที่พบได้ในธรรมชาติเป็นจำนวนมากเช่นเดียวกับซิลิกาซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของทราย คุณสมบัติหลักของซิลิโคน ออยล์เมื่อผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือความนุ่มลื่น นั่นก็คือจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ เช่น ครีมหรือผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้ามีเนื้อเรียบเนียนดุจแพรไหม เกลี่ยง่าย ให้สัมผัสที่หรูหรา รวมถึงให้ความแวววาวและนุ่มละมุนเมื่อผสมในแชมพูและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอื่นๆ* หากต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีซิลิโคนหรือไม่ โปรดดูรายการส่วนผสมในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งอาจอยู่ในชื่อต่างๆ เช่น "dimethicone", "cyclomethicone", "dimethiconol" และ "amodimethicone"

Simmondsia Chinensis Seed Oil / Jojoba Seed Oil

Simmondsia Chinensis Seed Oil เป็นแว็กซ์เหลวจากธรรมชาติโดยผลิตจากเมล็ดโจโจ้บา ซึ่งเป็นผลไม้ลักษณะคล้ายมะกอกที่เรียกกันอีกชื่อว่าลูกกาแฟ (coffeeberry) เอสเตอร์ของแว็กซ์ที่ต่อกันเป็นโซ่ตรงจะมีพันธะคู่ซึ่งทำให้มีลักษณะเป็นของเหลว น้ัำมันชนิดนี้จะไม่เหม็นหืนและผ่านการทดสอบแล้วว่าช่วยบำรุงผิว จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้ในสูตรเครื่องสำอางต่างๆ เช่น ครีมบำรุงผิวหน้า โลชั่นดูแลผิวกาย น้ำมันบำรุงผิว และครีมนวดผม โดย Simmondsia Chinensis Seed Oil จะเกลี่ยง่าย ซึมซาบละลายเข้าสู่ผิว และช่วยให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส

SINE ADIPE LAC

วลี “sine adipe lac” เป็นภาษาละตินที่แปลว่า “นมขาดมันเนย” และยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ นมผงขาดมันเนย ซึ่งเป็นนมรูปแบบหนึ่งที่ได้จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นิยมใช้กันแพร่หลายในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สบู่ และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย

SODIUM ACETATE

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มสารให้ความคงตัว ซึ่งเป็นสารเพิ่มความหนืดและสารก่อเจล ใช้เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่ปรับสูตรใหม่มีความคงตัวและ/หรือมีเนื้อสัมผัสที่แข็งขึ้น

Sodium Benzoate

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นโดยมีบทบาทสำคัญคือปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

SODIUM ACRYLATE/Acryloyldimethyltaurate/Dimethylacrylamide Crosspolymer

Sodium Acrylate/Acryloyldimethyltaurate/Dimethylacrylamide Crosspolymer เป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่เพิ่มความหนืดและช่วยให้อิมัลชั่นชนิดน้ำมันในน้ำ เช่น ครีมและโลชั่น มีความคงตัว จึงมีการนำมาใช้เป็นส่วนผสมในอิมัลชั่นที่ไม่มีอิมัลซิไฟเออร์ หรือใช้เพื่อช่วยให้อิมัลชั่นที่มีปริมาณเกลือสูงมีความคงตัว

SODIUM ACRYLATES/C10-30 ALKYL ACRYLATE CROSSPOLYMER

ส่วนผสมชนิดนี้เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ซึ่งมักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก เช่น เจลอาบน้ำ หรือเพื่อให้อิมัลชั่นมีความคงตัว เช่น ในครีมหรือโลชั่น โดยเฉพาะหากมีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดด แร่ธาตุ หรือเกลือ สารชนิดนี้จะทำให้เกิดเนื้อเจลใสเมื่อผสมกับน้ำโดยจะทำให้ความเหลวเปลี่ยนไป นอกจากนี้ Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer ยังสามารถใช้เพื่อลดอิมัลซิไฟเออร์หรือผสมในอิมัลชั่นเนื้อบางเบาที่ไม่มีอิมัลซิไฟเออร์ได้อีกด้วย

SODIUM ACRYLATES COPOLYMER

Sodium Acrylates Copolymer เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่มักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ซึ่งมีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก เช่น เจลอาบน้ำ โดยเฉพาะหากต้องการให้เม็ดบีดหรืออนุภาคของแข็งอื่นๆ กระจายตัวและช่วยรักษาความคงตัว สารชนิดนี้จะช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมีเนื้อเจลใส แม้จะผสมในสูตรที่มีสารลดแรงตึงผิวจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม Sodium Acrylates Copolymers ที่มีคุณลักษณะพิเศษจะทำหน้าที่เป็นสารก่อฟิล์มได้เช่นกัน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญต่อผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เช่น สเปรย์ใส่ผม เพื่อให้มั่นใจว่าผมจะอยู่ทรงได้นานโดยไม่ทิ้งคราบตกค้าง

SODIUM ASCORBYL PHOSPHATE

Sodium Ascorbyl Phosphate เป็นอนุพันธ์วิตามินซี ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันผลเสียอันเกิดจากอนุมูลอิสระออกซิเจน (ROS) ที่สร้างความเสียหายในระดับเซลล์และเป็นเหตุให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

SODIUM CARBOMER

Carbomer เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์จาก Acrylic acid ซึ่งมักใช้เพื่อเพิ่มความหนืดให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก เช่น เจล หรือเพื่อให้อิมัลชั่นมีความคงตัว เช่น ในครีมหรือโลชั่น โพลีเมอร์ชนิดนี้จะทำให้เนื้อสัมผัสมีพฤติกรรมการไหลแตกต่างไป

Sodium Cetearyl Sulfate

Sodium Cetearyl Sulfate เป็นสารลดแรงตึงผิวที่อยู่ในกลุ่ม Alkyl sulfates ใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว Sodium Cetearyl Sulfate เป็นเกลือโซเดียมที่ได้จากการผสม Cetyl sulfate เข้ากับ Stearyl sulfate มีลักษณะเป็นผงสีขาวจนถึงสีเหลืองอ่อน ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว Sodium Cetearyl Sulfateis จะใช้ผสมในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โดยรวมถึงแชมพู ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่นๆ

SODIUM CITRATE

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มสารให้ความคงตัว ซึ่งเป็นสารเพิ่มความหนืดและสารก่อเจล ใช้เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่ปรับสูตรใหม่มีความคงตัวและ/หรือมีเนื้อสัมผัสที่แข็งขึ้น
นอกจากนี้ Sodium Citrate ยังเป็นสารคีเลตที่ได้จากผัก ซึ่งเป็นตัวดักจับไอออนของโลหะที่อาจส่งผลเสียต่อความคงตัวและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พร้อมทั้งควบคุมและคงความเสถียรของ pH ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

Sodium Cocoate

Sodium Cocoate เป็นเกลือของกรดไขมันจากมะพร้าว ซึ่งใช้ในการผลิตสบู่เป็นหลัก

Sodium Hyaluronate

Sodium Hyaluronate เป็นเกลือโซเดียมของ Polysacharide Hyaluronic Acid (Hyaluron) ในร่างกาย โดยจะแตกตัวเป็น Hyaluronic Acid ซึ่งมีหน้าที่เฉพาะตัวทางชีววิทยาในผิว โดยขึ้นอยู่กับขนาดโมเลกุล Hyaluronic Acid ของโมเลกุลที่มีน้ำหนักเบาจะกระตุ้นให้การสังเคราะห์ Hyaluronic Acid ในผิวทำงานในชั้นผิวหนังที่ลึกขึ้น จึงช่วยให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้นรวมถึงชะลอการเกิดเส้นและริ้วรอยใหม่ Hyaluronic Acid ของโมเลกุลที่มีน้ำหนักมากจะสามารถกักเก็บน้ำได้สูงสุด 1,000 เท่าของน้ำหนักโมเลกุล จึงทำหน้าที่เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์

SODIUM HYDROXIDE

Sodium Hydroxide นิยมใช้กันแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อควบคุมและคงความเสถียรของ pH ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

Sodium Lactate

Sodium Lactate เป็น Alpha-hydroxy acid ซึ่งอยู่ในกลุ่มของสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่พบได้ในผิวหนังชั้นนอกสุด และมีคุณสมบัติด้านความชุ่มชื้นรวมถึงมีฤทธิ์เร่งผลัดเซลล์ผิว Sodium Lactate มีคุณสมบัติด้านความชุ่มชื้น โดยจะช่วยลดการเกิดขุยบนผิวหนัง พร้อมทั้งปรับค่า pH บนผิวให้สมดุล นอกจากนี้ ยังช่วยรับมือกับอาการผิวแห้งกร้าน Sodium Lactate ยังมีประสิทธิภาพด้านการสลายสิวอุดตันอีกด้วย ซึ่งจะยับยั้งการเกิดสิวอุดตันโดยช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว จึงป้องกันไม่ให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน
sodium laureth sulfate

Sodium Laureth Sulfate

Sodium Laureth Sulfateis เป็น Ethoxylated alcohol ที่ทำหน้าที่เป็นสารลดแรงตึงผิวไอออนลบ ซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเป็นหลัก เช่น สบู่มีฟองสำหรับอ่างอาบน้ำ เจลอาบน้ำและแชมพู เนื่องจากมีคุณสมบัติด้านการทำความสะอาด การก่อโฟมและการเพิ่มความหนืดที่มีประสิทธิภาพ

SODIUM LAURYL SULFATE

Sodium Lauryl Sulfate เป็นสารลดแรงตึงผิวประจุลบจากเกลือซัลเฟตที่พบได้ในธรรมชาติและแร่ธาตุ มีคุณสมบัติก่อโฟมและทำความสะอาดได้ดีเป็นพิเศษ โดยปกติแล้ว จะใช้ร่วมกับสารลดแรงตึงผิวชนิดอื่นๆ ในแชมพูหรือเจลอาบน้ำ หรือใช้เป็นสารเติมแต่งในส่วนผสมที่ละลายน้ำไม่ได้

Sodium Levulinate

Levulinic acid รวมถึง Sodium levulinate (เกลือโซเดียมของ Levulinic acid) ที่มีลักษณะเหมือนกันจะใช้ผสมในทั้งผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวและในเครื่องสำอางที่ได้รับการรับรอง Levulinic acid สามารถผลิตได้จากน้ำตาลซูโครสตามธรรมชาติ โดยจะใช้เป็นสารบำรุงผิวในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อช่วยให้สุขภาพผิวดี

SODIUM METABISULFITE

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ
การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxyethanol และ Parabens

Sodium Methyl Cocoyl Taurate

Sodium Methyl Cocoyl Taurate เป็นสารลดแรงตึงผิวที่ใช้ในการผลิตสบู่เป็นหลัก

Sodium Methylparaben

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป)
สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์
เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ
การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์
ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

Sodium Myreth Sulfate

Sodium Myreth Sulfate เป็นสารลดแรงตึงผิวไอออนลบซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

Sodium Palm Kernelate

Sodium Palm Kernelate สกัดได้จากน้ำมันในเมล็ดปาล์มและมักใช้ในการผลิตสบู่ โดยมีคุณสมบัติก่อโฟมได้ดีและช่วยทําอิมัลชั่น

SODIUM PCA

Sodium PCA เป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในเนื้อเยื่อรวมถึงผิวหนังของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และยังสามารถผลิตได้จากกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่พบได้ในผัก ผลไม้ หญ้า และกากน้ำตาล ส่วนในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว Sodium PCA (pyrrolidonecarboxylic acid) มักใช้ในสูตรครีมนวดผมและมอยส์เจอร์ไรเซอร์

SODIUM POLYNAPTHALENESULFONATE

Sodium Polynapthalenesulfonate ช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการละลายน้ำให้กับส่วนผสมอื่นๆ แต่ไม่นิยมใช้ในสูตรเครื่องสำอาง

Sodium Salicylate

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นโดยมีบทบาทสำคัญช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxethanol และ Parabens

Sodium Starch Octenylsuccinate

Sodium Starch Octenylsuccinate เป็นแป้งสตาร์ชดัดแปรที่ละลายในน้ำมันได้ดีซึ่งมีคุณสมบัติดูดซับความมันหรือน้ำมันได้มาก ปกติแล้ว แป้งสตาร์ชข้าวโพดที่นำมาใช้นั้นได้มาจากธรรมชาติ นอกจากนี้ Sodium Starch Octenylsuccinate ยังสามารถละลายได้ในน้ำเย็นและทำให้อิมัลชั่นมีความคงตัว

Sodium Stearate

ปกติแล้ว จะมีการนำเกลือสเตียเรตมาใช้เนื่องจากคุณสมบัติด้านการหล่อลื่น รวมถึงยังช่วยป้องกันไม่ให้สารประกอบน้ำมันและของเหลวในอิมัลชั่นแยกออกจากกัน นอกจากนี้ Stearate salts จะเพิ่มความหนืดของส่วนที่เป็นไขมัน (น้ำมัน) ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว พร้อมทั้งลดความใสหรือความโปร่งแสงของผลิตภัณฑ์สำเร็จ

Sodium Stearoyl Glutamate

ส่วนผสมชนิดนี้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ทดสอบแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้ โดยผลิตจากกรดอะมิโนและมีคุณสมบัติด้านการทำความสะอาดและดูแลผิว รวมถึงช่วยให้สุขภาพผิวดี Sodium Stearoyl Glutamate มีความเป็นกรด-ด่างเท่ากันกับผิว จึงมีความอ่อนโยนสูง ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ

SODIUM SULFATE

Sodium Sulfate เป็นสารประกอบอนินทรีย์ที่ละลายในน้ำได้ดี ใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดในการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลและทำความสะอาดผิวต่างๆ

SODIUM SULFITE

Sodium Sulfite เป็นส่วนผสมอนินทรีย์สีขาวที่มีลักษณะคล้ายผลึกและอยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ
การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxyethanol และ Parabens

Sodium Tallowate

Sodium Tallowate เป็นเกลือของไขมันที่ได้จากเนื้อเยื่อแกะหรือปศุสัตว์ โดยจะทำหน้าที่เป็นสบู่

SODIUM THIOSULFATE

ส่วนผสมชนิดนี้เป็นเกลืออนินทรีย์ที่ใช้ในสบู่ก้อนและแชมพูเป็นหลัก เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีความคงตัว

Sodium Xylene Sulfonate

Sodium Xylene Sulfonate เป็นสารลดแรงตึงผิวไอออนลบซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน

SORBIC ACID

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารกันเสียซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อควบคุม (ภาคผนวก V ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอางของสหภาพยุโรป) สารกันเสียเช่นสารที่ได้รับการตรวจสอบในที่นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้เครื่องสำอางไม่เสื่อมสภาพและไม่ปนเปื้อนจุลินทรีย์ระหว่างการจัดเก็บและการใช้งานที่ต่อเนื่อง ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เนื่องจากความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์คือสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เราจึงวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสูตรป้องกันการปนเปื้อนจุลินทรีย์ เพราะผิวของเรามักมีแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราอยู่เสมอ รวมถึงในอากาศรอบตัวเราและแม้แต่ในน้ำที่เราดื่ม สิ่งเหล่านี้จึงอาจปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ระหว่างการใช้งานตามปกติ
การปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้บริเวณรอบดวงตาและบนผิวอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่หากปริมาณการปนเปื้อนสูง แต่สารกันเสียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยยับยั้งการขยายตัวของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ สารกันเสียส่วนใหญ่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราได้แก่ Phenoxyethanol และ Parabens

SORBITAN ISOSTEARATE

Sorbitan Isostearate เป็นอิมัลซิไฟเออร์แบบไม่มีประจุที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้อิมัลชั่นชนิดน้ำมันในน้ำ เช่น ครีมหรือโลชั่น มีความคงตัว

SORBITAN OLEATE

Sorbitan Oleate เป็นอิมัลซิไฟเออร์แบบไม่มีประจุที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้อิมัลชั่นชนิดน้ำมันในน้ำ เช่น ครีมหรือโลชั่น มีความคงตัว

SORBITAN STEARATE

Sorbitan Stearate เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ได้จากผัก เกิดจากการทำปฏิกิริยาระหว่างซอร์บิทอลกับกรดไขมันสเตียริก ซึ่งเป็นส่วนผสมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติทั้งสองชนิด โดยทำหน้าที่เป็นอิมัลชั่นชนิดน้ำในน้ำมัน และใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ เพื่อช่วยให้อิมัลชั่นชนิดน้ำมันในน้ำมีความคงตัว

Sorbitol

Sorbitol เป็นน้ำตาลแอลกอฮอล์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวโดยป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยเพิ่มความหนืดให้ผลิตภัณฑ์และช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีเนื้อสัมผัสที่ดีอีกด้วย

Squalane

Squalane เป็นน้ำมันที่ไร้กลิ่น ไร้สีและมีโครงสร้างแบบกิ่ง ซึ่งสามารถใช้เป็นสารประกอบในการดูแลผิวในอิมัลชั่น ผลิตภัณฑ์แบบแท่งและผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะคล้ายแป้งเปียก โดยส่วนประกอบหลักของโมเลกุลได้มาจากน้ำมันมะกอก มนุษย์นำ Squalane มาใช้เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มในยุค 50 อย่างไรก็ตาม Squalane สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติในผิวของเรา โดยเป็นสารประกอบสำคัญของน้ำมันในผิวประมาณ 15% ซึ่งน้ำมันจะช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้านและสร้างไฮโดรไลปิด ฟิล์มบนผิว ดังนั้น Squalane จะช่วยปกป้องผิวไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น ผิวจึงชุ่มชื้นกว่าที่เคยและนุ่มละมุนยิ่งขึ้น เนื่องจากผิวมี Squalane เป็นส่วนประกอบตามธรรมชาติ Squalane จึงปลอดภัยต่อผิวอย่างยิ่ง

Stearamidopropyl Dimethylamine

Stearamidopropyl Dimethylamine ใช้ในครีมนวดผมและทรีตเม้นต์ พร้อมช่วยให้เส้นผมดูมีชีวิตชีวาและสลวย โดยเคลือบเส้นผม เพิ่มความนุ่มลื่นหรือเงาวาว หรือฟื้นบำรุงผมเสียจากการทำเคมีหรือสาเหตุอื่น

Steareth-2

Steareth-2 เป็น Polyethylene glycol ether ของ Stearic acid ที่ผลิตโดยการสังเคราะห์ ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีลักษณะคล้ายแว็กซ์ ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว Steareth-2 จะใช้ผสมในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด รวมถึงผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เมื่อเติม Steareth-2 ลงในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว สารชนิดนี้จะช่วยลดแรงปฏิกิริยาระหว่างโมเลกุลของของเหลวอื่นๆ เพื่อให้อิมัลชั่นก่อตัวขึ้น แต่หากไม่มีการเติมส่วนผสมเช่น Steareth-2 ลงในผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวบางอย่าง ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็จะไม่ผสานเข้ากัน

Steareth-20

Steareth-20 เป็น Polyethylene Glycol Ether ของ Stearic Acid ซึ่งเป็นสารประกอบลักษณะคล้ายแว็กซ์ที่ใช้ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ทำผิวแทน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวรอบดวงตาและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม เมื่อเติม Steareth-20 ลงในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว สารชนิดนี้จะช่วยลดแรงปฏิกิริยาระหว่างโมเลกุลของของเหลวต่างๆ เพื่อให้อิมัลชั่นก่อตัวขึ้น แต่หากไม่มีการเติมส่วนผสมเช่น Steareth ลงในผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวบางอย่าง ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็จะไม่ผสานเข้ากัน

Steareth-21

Steareth-21 เป็นสารประกอบสังเคราะห์ที่มีลักษณะคล้ายแว็กซ์และเป็น Polyethylene glycol ether ของ Stearic acid ในเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว Steareth-21 จะใช้ผสมในสูตรเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัวจำนวนมาก โดยรวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้า โลชั่น ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตาและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม

Stearic Acid

Stearic Acid เป็นกรดไขมันโมเลกุลยาวที่ไม่มีสีและมีลักษณะคล้ายแว็กซ์ กรดไขมันอิ่มตัวที่มีประโยชน์ชนิดนี้สามารถสกัดได้จากพืช จึงเหมาะที่จะใช้ในผลิตภัณฑ์สูตรธรรมชาติ เมื่อผสมในอิมัลชั่น Stearic Acid จะทำหน้าที่เป็นสารให้ความคงตัว สารเพิ่มความหนืดและสารเพิ่มความนุ่มที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้น นอกจากนี้ Stearic Acid จะสร้างฟองหนานุ่มที่ให้สัมผัสราวกำมะหยี่ คุณสมบัติเช่นนี้จึงเหมาะที่จะใช้ผสมในโฟมโกนหนวด อนุพันธ์ของ Stearic Acid ยังทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความหนืดที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์แข็งขึ้นจนกลายเป็นของแข็งในสูตรสบู่ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและแชมพู นอกจากนี้ยังช่วยลดความรู้สึกเปราะและเละในสบู่ที่เปียกน้ำ Stearic Acid ยังช่วยให้ผมนุ่ม พริ้วสลวยและเงางามเพราะจะบำรุงและปกป้องเส้นผมเมื่อผสมในผลิตภัณฑ์แชมพู

Stearyl Alcohol

Stearyl Alcohol มักได้จากน้ำมันหรือไขมันจากผัก ด้วยเหตุนี้ จึงเรียก Stearyl Alcohol ว่าแอลกอฮอล์ไขมัน อย่างไรก็ตาม Stearyl Alcohol ยังอาจได้มาจากการไฮโดรไลซ์แว็กซ์ สารสกัดชนิดนี้ใช้ในสูตรเครื่องสำอางจำนวนมากเนื่องจากจะช่วยเพิ่มความคงตัวของอิมัลชั่นและเนื้อสัมผัสของสูตรผลิตภัณฑ์ เช่น ในครีมหรือโลชั่น Stearyl Alcohol จะก่อตัวเป็นของแข็งสีขาวซึ่งทำหน้าที่เป็นสารประกอบที่ช่วยเพิ่มความเสถียรโดยสามารถจับตัวกับน้ำได้

STEARYL BEHENATE

Stearyl Behenate เป็นเอสเตอร์ผักแบบแข็งที่ได้จาก Stearic Alcohol และ Behenic Acid ซึ่งมีจุดหลอมเหลวตั้งแต่ 58º ถึง 62ºC จึงเหมาะที่จะใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผม เพื่อเพิ่มความเหนียวข้นในครีมและโลชั่น โดยจะช่วยให้ผิวนุ่มละมุนยิ่งขึ้น

STYRENE/ACRYLATES COPOLYMER

Styrene/Acrylates Copolymer ใช้เป็นสารช่วยให้ทึบแสงในเจลอาบน้ำและแชมพู

SUCROSE

Sorbic Acid จัดอยู่ในกลุ่มน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว เช่น ซูโครส ซึ่งเป็นน้ำตาลทั่วไปที่ประกอบด้วยกลูโคสและฟรุคโตส ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเพราะมีคุณสมบัติเติมความชุ่มชื้นให้ผิว

Sucrose Polystearate

Sucrose Polystearate ประกอบด้วยน้ำตาลซูโครสหรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำตาลทราย ผสมกับ Stearic Acid ซึ่งเป็นกรดไขมันที่ได้จากน้ำมันและไขมันพืช Sucrose Polystearate ใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์และสารบำรุงผิวในเครื่องสำอาง โดยจะทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิดน้ำมันในน้ำ รวมถึงมีประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น ความอ่อนโยน เนื้อสัมผัสที่นุ่มดุจกำมะหยี่ และการเพิ่มความชุ่มชื้น

Synthetic Beeswax

Synthetic Beeswax เกิดจากการนำเอสเตอร์สังเคราะห์จำนวนมากมาผสมเข้ากับน้ำมันพาราฟินและแว็กซ์ โดยคิดค้นขึ้นเพื่อจำลองคุณสมบัติทางเครื่องสำอางและทางกายภาพของไขผึ้งธรรมชาติ จึงเป็นส่วนผสมแบบ "วีแกน (Vegan)" ที่สามารถใช้แทนไขผึ้งธรรมชาติได้ โดยสามารถใช้เป็นสารบำรุงผิวในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ เช่น ครีม โลชั่น ผลิตภัณฑ์กันแดด เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม

Synthetic Wax

ส่วนผสม* มิเนอรัล ออยล์ชนิดนี้เป็นไขมันจากฟอสซิล โดยส่วนผสมที่มีความบริสุทธิ์สูงจะอยู่ในรูปแบบต่างๆ (น้ำมัน เจล ฯลฯ) และไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีรส มิเนอรัล ออยล์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ Paraffinum Liquidum ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์แบ่งออกเป็นสองประเภท ได้แก่ มิเนอรัล ออยล์สังเคราะห์ซึ่งไม่มีสารอื่นเจือปนตั้งแต่กระบวนการผลิต และมิเนอรัล ออยล์จากปิโตรเคมี ซึ่งเป็นมิเนอรัล ออยล์ที่ผ่านการกลั่นโดยได้มาจากการทำให้ฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมันดิบ หรือก๊าซธรรมชาติ มีความบริสุทธิ์ ทั้งนี้ มิเนอรัล ออยล์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของเราเป็นผลิตภัณฑ์เกรดเภสัชกรรม ดังนั้นจึงมีความบริสุทธิ์สูง คุณสมบัติหลักของส่วนผสมกลุ่มนี้ก็คือการปกป้องผิวไม่ให้ขาดน้ำ นอกจากนี้ ส่วนผสมเหล่านี้ยังช่วยพัฒนาคุณภาพของเนื้อสัมผัสและยังมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและลบเครื่องสำอาง
 
* หากต้องการค้นพบส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ของเรา โปรดตรวจสอบรายชื่อส่วนผสมบนบรรจุภัณฑ์ โดยคุณสามารถค้นหาส่วนผสมที่มีมิเนอรัล ออยล์ได้อย่างง่ายดายจากชื่อต่างๆ เช่น "paraffinum liquidum", "cera microcristallina", "ozokerite", "paraffin" และ "แว็กซ์สังเคราะห์"

Talc

Talc เป็นวัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติ แป้งสีขาวเนื้อละเอียดชนิดนี้จะช่วยให้ผิวรู้สึกแห้งและนุ่มเหมือนกำมะหยี่ โดย Talc จะดูดซับน้ำมันและไม่รวมตัวกับน้ำ คุณสมบัติข้อนี้ทำให้ปกติแล้ว เรารู้จัก Talc ในฐานะที่เป็นส่วนผสมหลักของแป้งเด็ก

Tapioca Starch

Tapioca Starch เป็นเม็ดแป้งสตาร์ชธรรมชาติ สกัดได้จากรากพืชที่เรียกว่ามันสำปะหลัง แป้งสตาร์ชขนาดไมโครเมตรจะช่วยดูดซับไขมัน (น้ำมัน) ได้มาก ดังนั้น เมื่อผสม Tapioca Starch ลงในอิมัลชั่น เช่น ในครีมหรือโลชั่น ก็จะช่วยให้ผิวเรียบเนียน รู้สึกเบาสบายและมันน้อยลง Tapioca Starch จึงเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสูตรควบคุมความมันเป็นพิเศษ

TAURINE

Taurine หรือ 2-amoniethanesulfonic acid เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่เกิดขึ้นเองและมีอยู่ทั่วร่างกาย ซึ่งมีบทบาททางชีวภาพหลายประกาย แต่จะมีหน้าที่ควบคุมการเติมน้ำด้วยวิธีออสโมซิสสำหรับน้ำหล่อเลี้ยงผิวโดยเฉพาะ

TEA-PALMITATE

TEA-Palmitate เป็นเกลือของ Triethanolamine และ Palmitic Acid ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ตามธรรมชาติในไขมันและน้ำมันจากสัตว์และพืชหลายชนิด ใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์และสารลดแรงตึงผิวในสบู่เหลว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า แว็กซ์สำหรับหนวด ครีมอาบน้ำ และผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมถาวรจำนวนมาก

Tetrasodium EDTA

EDTA และเกลือของ EDTA (เช่น Trisodium EDTA) ผลิตโดยการสังเคราะห์ วัตถุประสงค์หลักของการเติมส่วนผสมชนิดนี้ลงในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือคุณสมบัติด้านการจับไอออนของโลหะได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเสื่อมสภาพ

TETRASODIUM ETIDRONATE

Tetrasodium Etidronate ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์และช่วยให้ส่วนผสมที่มีน้ำกับน้ำมันมีความคงตัว

TETRASODIUM IMINODISUCCINATE

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มสารให้ความคงตัว ซึ่งเป็นสารเพิ่มความหนืดและสารก่อเจล ใช้เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่ปรับสูตรใหม่มีความคงตัวและ/หรือมีเนื้อสัมผัสที่แข็งขึ้น Tetrasodium Iminodisuccinate เป็นสารคีเลตที่ได้จากการสังเคราะห์ มีความสามารถในการดักจับไอออนของโลหะที่อาจส่งผลเสียต่อความคงตัวและคุณภาพของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

Theobroma Cacao Seed Butter

Theobroma Cacao Seed Butter (หรือที่เรียกว่าโกโก้บัตเตอร์) เป็นไขมันสีครีมที่สกัดจากเมล็ดโกโก้ (เมล็ดในผลโกโก้) ที่ปลูกในแอฟริกาตะวันตก มาเลเซีย บราซิล อเมริกากลาง อินเดียและศรีลังกาเป็นส่วนใหญ่ โกโก้บัตเตอร์ใช้กันอย่างแพร่หลายในการเพิ่มและแต่งรส กลิ่นรวมถึงความนุ่มลื่นของช็อกโกแลต และยังเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงเครื่องสำอางอีกด้วย ซึ่งโกโก้บัตเตอร์เป็นหนึ่งในไขมันธรรมชาติที่มีความคงตัวมากที่สุด โดยจะละลายที่อุณหภูมิร่างกายและใช้เพื่อดูแลผิวให้ชุ่มชื้น ดูเรียบเนียนและนุ่มละมุน

THREONINE

Threonine เป็นกรดอะมิโนจากแหล่งที่มาต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรดอะมิโนที่จำเป็นและต้องได้รับจากการรับประทานอาหาร นอกจากนี้ ยังเป็นกรดอะมิโนที่มีขั้วและสามารถทำปฏิกิริยาฟอสฟอรีเลชั่นกับหมู่ไฮดรอกซิลได้ จึงมีบทบาทสำคัญในกระบวนการทางเอนไซม์ของร่างกาย Threonine ใช้เป็นสารลดแรงตึงผิวที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ในเครื่องสำอาง หรือใช้ในสารเชิงซ้อนที่เป็นสารออกฤทธิ์ต่างๆ

Tilia Tomentosa Extract

Tilia Tomentosa Extract หรือที่เรียกว่า Linden blossom extract ได้รับการผลิตโดยใช้กระบวนการสกัดที่อ่อนโยนหลายขั้นตอน เพื่อช่วยให้เก็บรักษาส่วนผสมตามธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด ผลิตภัณฑ์ที่มี Linden blossom extract จะช่วยบรรเทาอาการในผิวบอบบางแพ้ง่ายและผิวแห้งได้เล็กน้อย

TIN OXIDE

Tin Oxide เป็นสารย้อมสีที่ได้จากแร่ธาตุ ซึ่งจะลดความโปร่งแสงและการผ่านของแสงโดยทำให้ผลิตภัณฑ์เกิดการทึบแสง

Titanium Dioxide (nano)

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

Tocopherol Acetate

Tocopheryl acetate หรือที่เรียกว่าวิตามินอี อะซีเทตเป็นวิตามินอีสังเคราะห์ ซึ่งวิตามินชนิดนี้มีประสิทธิภาพด้านการต้านอนุมูลอิสระและให้ความนุ่มลื่นในเครื่องสำอาง บรรเทาผิวเสียจาก UV รวมถึงป้องกันจุดด่างดำและริ้วรอยก่อนวัย วิตามินอีพบได้ตามธรรมชาติในอาหารบางชนิดและอยู่ในรูปแบบของอาหารเสริม “วิตามินอี” เป็นชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มสารประกอบที่ละลายได้ในไขมัน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระได้เป็นพิเศษในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยปกป้องผิว วิตามินอีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจะมีโครงสร้างทางเคมีแปดรูปแบบ (แอลฟา-โทโคฟีรอล, เบตา-โทโคฟีรอล, แกมมา-โทโคฟีรอล, เดลตา-โทโคฟีรอล และแอลฟา-โทโคไทรเอนอล, เบตา-โทโคไทรเอนอล, แกมมา-โทโคไทรเอนอล, เดลตา-โทโคไทรเอนอล) ซึ่งมีระดับปฏิกิริยาทางชีวภาพที่แตกต่างกัน โดยแอลฟา-โทโคฟีรอล หรือ (α-) จะเป็นรูปแบบเดียวที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ Tocopherol Acetate เป็นอนุพันธ์สังเคราะห์ของวิตามินอีธรรมชาติ

TRIACONTANYL PVP

Triacontanyl PVP เป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่ก่อฟิล์มเป็นชั้นบางๆ ได้ ป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์และผิวสูญเสียความชุ่มชื้น รวมถึงเป็นเกราะป้องกันและบำรุงผิวอีกด้วย

TRIBEHENIN

Glyceryl Behenate, Glyceryl Dibehenate และ Tribehenin เป็นผลจากปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชันของ Behenic Acid และ Glycerol โดยส่วนผสมหลักๆ จะประกอบด้วย Diester Glyceryl Dibehenate
ไขมันที่ได้จากธรรมชาติชนิดนี้เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลริมฝีปากและผิว (ครีมและโลชั่น) เป็นต้น ซึ่งใช้เป็นสารเพิ่มความหนืดและสารให้ความคงตัวในอิมัลชั่นเป็นหลัก เพื่อให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสและเป็นสารเพิ่มความเงางามในผลิตภัณฑ์แบบแท่ง

TRICALCIUM PHOSPHATE

Tricalcium Phosphate มีลักษณะเป็นผงสีขาวเหมือนผลึก ใช้เป็นส่วนผสมป้องกันการจับตัวเป็นก้อนซึ่งคล้ายกับแป้งสตาร์ชสำปะหลัง

TRICETEARETH-4 PHOSPHATE

Triceteareth-4 Phosphate เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ผลิตโดยการสังเคราะห์ ใช้ในอิมัลชั่นชนิดน้ำมันในน้ำสูตรครีมและสูตรเหลว ทั้งยังเหมาะที่จะใช้ในครีมทามือ โดยจะทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่มีคุณสมบัติช่วยทําอิมัลชั่นได้ดีเป็นพิเศษ

Trideceth-12

Trideceth ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์และช่วยให้ส่วนผสมที่มีน้ำกับน้ำมันมีความคงตัว

Trideceth-15

Trideceth ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์และช่วยให้ส่วนผสมที่มีน้ำกับน้ำมันมีความคงตัว

Trideceth-3

Trideceth ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์และช่วยให้ส่วนผสมที่มีน้ำกับน้ำมันมีความคงตัว

Trideceth-6

Trideceth acts as an emulsifier and stabilizes mixtures of oils and water

TRIDECETH-9

ส่วนผสม Trideceth-9 ใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ในเครื่องสำอาง เพื่อช่วยให้ของเหลวที่ผสมเข้ากันไม่ได้รวมตัวเข้าด้วยกันโดยเปลี่ยนแรงตึงผิว Trideceth-9 จะลดแรงตึงผิวในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและช่วยให้เกลี่ยผลิตภัณฑ์ได้สม่ำเสมอระหว่างทา

TRIDECYL STEARATE

ปกติแล้ว มีการนำ Tridecyl Stearate มาผสมกันจนได้ส่วนผสมพิเศษของเอสเตอร์ที่ไม่ได้มาจากสัตว์โดยสกัดได้จากผัก (เมล็ด/เนื้อในเมล็ด/ผลของมะพร้าวและ/หรือปาล์ม) และแหล่งสังเคราะห์ ซึ่งจะให้สัมผัสที่เข้มข้น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมทั้งเนียนนุ่มดุจแพรไหมและติดทนนาน

TRIDECYL TRIMELLITATE

ปกติแล้ว มีการนำ Tridecyl TRIMELLITATE มาผสมกันจนได้ส่วนผสมพิเศษของเอสเตอร์ที่ไม่ได้มาจากสัตว์โดยสกัดได้จากผัก (เมล็ด/เนื้อในเมล็ด/ผลของมะพร้าวและ/หรือปาล์ม) และแหล่งสังเคราะห์ ซึ่งจะให้สัมผัสที่เข้มข้น แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมทั้งเนียนนุ่มดุจแพรไหมและติดทนนาน

TRIETHANOLAMINE

ส่วนผสมชนิดนี้จัดอยู่ในกลุ่มสารให้ความคงตัว ซึ่งเป็นสารเพิ่มความหนืดและสารก่อเจล ใช้เพื่อช่วยให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่ปรับสูตรใหม่มีความคงตัวและ/หรือมีเนื้อสัมผัสที่แข็งขึ้น

TRIETHYL CITRATE

ส่วนผสมชนิดนี้ได้จากกรดซิตริก มีลักษณะเป็นของเหลวที่เป็นน้ำมันซึ่งสามารถเพิ่มค่า pH ของผิวได้ Triethyl Citrate สกัดจากกรดซิตริกและเป็นของเหลวใสไร้กลิ่นที่ละลายในไขมันได้ดี โดยผลิตจากแหล่งที่มาตามธรรมชาติ ใช้ในสูตรผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเนื่องจากสามารถลดค่า pH ของผิวพร้อมยับยั้งแบคทีเรียขณะมีเหงื่อ

TRIISOSTEARIN

Triisostearin เป็นทริเอสเตอร์ของเหลวที่ได้จากธรรมชาติของ Glycerine และ Isostearic Acid ซึ่งจะช่วยบำรุงผิวในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ผิวคุณจึงนุ่มละมุนยิ่งขึ้น

TRIMETHYLSILOXYSILICATE

Trimethylsiloxysilicate เป็น Siloxane Polymer ที่มีโครงสร้างในโซ่แกนหลักประกอบด้วยอะตอมของซิลิคอนและออกซิเจนแบบสลับ โดยเป็นสารที่ไม่ละลายน้ำและจะก่อชั้นฟิล์มบางๆ บนผิวและเส้นผมเพื่อให้มีสัมผัสที่เนียนนุ่ม

Trisodium EDTA

EDTA และเกลือของ EDTA (เช่น Trisodium EDTA) ผลิตโดยการสังเคราะห์ วัตถุประสงค์หลักของการเติมส่วนผสมชนิดนี้ลงในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางก็คือคุณสมบัติด้านการจับไอออนของโลหะได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเสื่อมสภาพ

TRISTERARIN

Tristearin เป็นทริเอสเตอร์ของผลึกในระดับไมโครที่ได้จากธรรมชาติของ Glycerine และ Stearic Acid ใช้เป็นสารเร่งในเครื่องสำอางเพื่อพัฒนากระบวนการแข็งตัวของสูตรผลิตภัณฑ์แบบแท่ง และใช้เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่ช่วยก่อเนื้อสัมผัสในครีมและโลชั่น

TRITICUM VULGARE STARCH

Triticum Vulgare Starch เป็นแป้งสตาร์ชเนื้อละเอียดที่ได้จากข้าวสาลี ซึ่งช่วยให้รู้สึกว่าผิวเนียนนุ่มดุจกำมะหยี่และสามารถดูดซับน้ำมันบนผิวได้

U-Z

Ubiquinone

Ubiquinone หรือที่เรียกว่า Coenzyme Q10 เป็นโมเลกุลที่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายของเราผลิตขึ้นเอง ซึ่งช่วยเปลี่ยนสารอาหารและออกซิเจนให้เป็นพลังงานที่เซลล์ในร่างกายสามารถใช้ได้ รวมถึงทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หากไม่มี Q10 ร่างกายของเราจะไม่สามารถทำงานได้มากนักเพราะเซลล์ทุกเซลล์จำเป็นต้องอาศัย Q10 ชื่อ Q10 มาจากโครงสร้างโมเลกุลพิเศษ กล่าวคือ Q10 เป็นสารชีวโมเลกุลรูปวงแหวนที่สัมพันธ์กับวิตามินเคและอีในเชิงโครงสร้าง ซึ่งวงแหวนควิโนนที่มีความเฉพาะตัวเป็นกลุ่มโมเลกุลที่มีลักษณะพิเศษ โดย Q10 (Ubiquinone) เป็นโมเลกุลที่มีความโดดเด่นอย่างยิ่งในทางชีวภาพ ทุกวันนี้ เราสามารถผลิต Q10 ที่มีลักษณะใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง (Q10 ที่คล้ายคลึงกับในผิว) กับที่ร่างกายผลิตได้เองผ่านกระบวนการหมักยีสต์โดยอาศัยเทคโนโลยีชีวภาพ และนำมาผสมในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้านีเวีย คิวเท็นของเรา

Undecylenamidopropyl Betaine

ส่วนผสมชนิดนี้เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดสองประจุที่มีฤทธิ์อ่อนๆ ซึ่งใช้ในแชมพูและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ทั้งนี้ สารลดแรงตึงผิวจะทำหน้าที่ได้หลายด้าน เช่น การทำความสะอาดสารต่างๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรก การทำให้สารต่างๆ กระจายตัวเพื่อไม่ให้อนุภาคของแข็งแยกชั้นในผลิตภัณฑ์ที่เป็นของเหลว การเพิ่มการสร้างโฟม รวมถึงการใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำและน้ำมันผสมกัน นอกจากนี้ Undecyleneamidopropyl Betaine ยังมีคุณสมบัติต้านจุลชีพและช่วยขจัดรังแค

UREA

Urea สามารถใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ให้ความชุ่มชื้น จึงสามารถปรับสมดุลของสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติในผิวได้ โดยมีหน้าที่ดักจับน้ำที่อยู่ในผิวหนังชั้น Stratum Corneum (ผิวหนังชั้นบนสุด) ด้วยคุณสมบัติดูดความชื้น นอกจากนี้ ยังขึ้นชื่อในด้านการทำลายความคงตัวของพันธะระหว่างเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงกระตุ้นให้เกิดขุยเพื่อให้ผิวเรียบเนียนยิ่งขึ้น

VACCINIUM MYRTILLUS FRUIT EXTRACT

Vaccinium Myrtillus Fruit Extract สกัดจากเนื้อผลบลูเบอร์รี่ มีคุณสมบัติช่วยปรับปรุงโครงสร้างคอลลาเจนของผิว

VACCINIUM MYRTILLUS FRUIT JUICE

Vaccinium Myrtillus Fruit Juice ได้มาจากบิลเบอร์รี่ตามธรรมชาติ

Vegetable Oil

Vegetable oil ได้รับการเรียกว่า Olus oil ในยุโรป โดยเป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มจากธรรมชาติ 100% ซึ่งมีความใสและคงตัวสูงมาก น้ำมันชนิดนี้เป็นทางเลือกจากพืชที่ใช้แทนมิเนอรัล ออยล์ Vegetable oil มีไตรกลีเซอไรด์คุณภาพสูงตามธรรมชาติซึ่งได้มาจากน้ำมันคาโนล่า (ผักกาดก้านขาว) ปกติแล้ว น้ำมันชนิดนี้จะใช้เป็นสารปรับสภาพผิวให้เนียนนุ่มที่มอบความรู้สึกข้นและติดทนนานบนผิว

Vitis Vinifera Seed Oil

Vitis Vinifera Seed Oil เป็นหนึ่งในน้ำมันพืชธรรมชาติที่ถือเป็นแหล่งกรดไขมันโอเมก้า 6 และวิตามินอีในอาหาร โดยได้มาจากเมล็ดองุ่นที่เป็นผลพลอยได้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (น้ำผลไม้และไวน์) น้ำมันชนิดนี้จะมอบความชุ่มชื้นและความนุ่มละมุนให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการฟื้นบำรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงานของปราการผิวโดยเสริมกรดไขมันและลิพิดที่จำเป็นให้กับผิว

VP/Eicosene Copolymer

VP/Eicosene Copolymer ช่วยให้ผมอยู่ทรงโดยป้องกันไม่ให้ผมดูดซับความชุ่มชื้นด้วยการสร้างชั้นเคลือบบางๆ บนผิว เส้นผมหรือเล็บ นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อช่วยให้ส่วนผสมในยาเม็ดตอกอัดหรือเค้กจับตัวกัน รวมถึงช่วยกระจายหรือช่วยให้ของแข็งไม่ละลายน้ำคงตัวได้ในของเหลวอีกด้วย ทั้งนี้ Copolymer เป็นโพลีเมอร์ที่ได้จากการผสมสารประกอบเคมีขนาดเล็กที่เรียกว่ามอนอเมอร์เข้ากับโมเลกุลขนาดใหญ่มากซึ่งมีคุณสมบัติต่างกัน

VP/Hexadecene Copolymer

VP/Hexadecene Copolymer ช่วยให้ผมอยู่ทรงโดยป้องกันไม่ให้ผมดูดซับความชุ่มชื้นด้วยการสร้างชั้นเคลือบบางๆ บนผิว เส้นผมหรือเล็บ นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อช่วยให้ส่วนผสมในยาเม็ดตอกอัดหรือเค้กจับตัวกัน รวมถึงช่วยกระจายหรือช่วยให้ของแข็งไม่ละลายน้ำคงตัวได้ในของเหลวอีกด้วย ทั้งนี้ Copolymer เป็นโพลีเมอร์ที่ได้จากการผสมสารประกอบเคมีขนาดเล็กที่เรียกว่ามอนอเมอร์เข้ากับโมเลกุลขนาดใหญ่มากซึ่งมีคุณสมบัติต่างกัน

VP/VA Copolymer

VP/VA Copolymer ช่วยให้ผมอยู่ทรงโดยป้องกันไม่ให้ผมดูดซับความชุ่มชื้น VP/VA Copolymer จะแห้งและสร้างชั้นเคลือบบางๆ บนผิว เส้นผมหรือเล็บ นอกจากนี้ ยังใช้เพื่อช่วยให้ส่วนผสมในยาเม็ดตอกอัดหรือเค้กจับตัวกัน รวมถึงช่วยกระจายหรือช่วยให้ของแข็งไม่ละลายน้ำคงตัวได้ในของเหลวอีกด้วย ทั้งนี้ Copolymer เป็นโพลีเมอร์ที่ได้จากการผสมสารประกอบเคมีขนาดเล็กที่เรียกว่ามอนอเมอร์เข้ากับโมเลกุลขนาดใหญ่มากซึ่งมีคุณสมบัติต่างกันมาก

Xanthan Gum

Xanthan gum เป็นไบโอโพลีเมอร์หรือที่เรียกว่าพอลิแซ็กคาไรด์ Xanthan gum เป็นวัตถุดิบที่ได้จากธรรมชาติ ผลิตจากการหมักแบคทีเรีย Xanthomonas campestris กับกลูโคส (ข้าวโพด) และโปรตีน (ถั่วเหลือง) Xanthan gum จะพองตัวในสารละลายในน้ำและช่วยเพิ่มความหนืด โดยจะสร้างเจลที่มัวหรือโปร่งแสง และเมื่อใช้ผสมในอิมัลชั่น เช่น ในครีมหรือโลชั่น Xanthan gum จะช่วยเพิ่มความคงตัว

ZEA MAYS OIL

Zea Mays Oil สกัดจากต้นข้าวโพด นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว เช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์สำหรับแต่งหน้า และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด น้ำมันชนิดนี้มีคุณสมบัติในการขัดผิว ดูดซึม ช่วยให้ทึบแสง และบำรุงผิว

ZEA MAYS STARCH

Zea Mays Starch เป็นแป้งสตาร์ชธรรมชาติที่ไม่มีประจุซึ่งสกัดจากข้าวโพด แป้งสตาร์ชขนาดไมโครเมตรจะช่วยดูดซับไขมัน (น้ำมัน) ได้มาก ดังนั้น เมื่อผสม Zea Mays Starch ลงในอิมัลชั่น เช่น ในครีมหรือโลชั่น ก็จะช่วยให้ผิวเรียบเนียน รู้สึกเบาสบายและมันน้อยลง Zea Mays จึงเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสูตรควบคุมความมันเป็นพิเศษ

Zinc Oxide (nano)

ส่วนผสมนี้อยู่ในกลุ่มสารป้องกันแสง UV (UV หมายถึงรังสีอัลตราไวโอเลต) ซึ่งสหภาพยุโรปอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและอยู่ในรายชื่อสารป้องกันแสง UV ควบคุม (ภาคผนวก VI ในกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง) สารป้องกันแสง UV เป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยปกป้องผิวจากภัยร้ายของแสงแดด รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากมะเร็งผิวหนังและอาการผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัยหรือจุดด่างดำ ปกติแล้ว สารป้องกันแสง UV มีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกซึ่งจะดูดซับรังสี UVA และ UVB รวมถึงเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน ส่วนสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุจะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นปราการปกป้องผิว พร้อมทั้งสะท้อนรังสี UVB ส่วนใหญ่และลดรังสี UVA เนื่องจากสารป้องกันแสง UV แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวในการปกป้องผิวจากรังสี UV จึงเป็นสาเหตุที่ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวประจำวันและผลิตภัณฑ์กันแดดซึ่งมี SPF มักจะประกอบด้วยสารป้องกันแสงแดดต่างชนิดกันเพื่อให้มั่นใจว่าจะช่วยปกป้องผิวได้ครอบคลุมกว่า

ทิปส์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ