ฝ้าแดด คืออะไร สามารถรักษาได้หายได้ไหม

ฝ้าแดด คืออะไร สามารถรักษาได้หายได้ไหม

“ฝ้าแดด” ปัญหาหนักใจของสาวไทยหลาย ๆ คน ด้วยอากาศที่ร้อนจัด และมีแดดแทบตลอดทั้งปี จึงทำให้ต้องพบเจอกับแสงแดดตัวการหลักที่ทำให้เกิดฝ้าแดดในทุก ๆ วัน แล้วแบบนี้ควรรับมือกับฝ้าอย่างไรดี หากเป็นฝ้าแดดไปแล้วมีวิธีดูแลรักษาให้หายขาดได้อย่างไร มาค้นหาคำตอบและวิธีจัดการกับฝ้าแบบตรงจุด เพื่อคืนความกระจ่างใสให้ผิวหน้าของสาวๆ กัน

สารบัญบทความ

  • ฝ้าแดด คือ
  • ลักษณะของฝ้าแดด
  • ฝ้าแดดเกิดจากอะไร แล้วต่างกับฝ้าเลือดอย่างไร
  • วิธีดูแลรักษาฝ้าแดดให้ตรงจุด
  • คำถามที่พบบ่อย

ฝ้าแดด คือ

ฝ้าแดด คือ ฝ้าชนิดหนึ่งที่มีสาเหตุหลักมาจากแสงรังสียูวี ( UV – UltraViolet) รวมทั้งแสงจากโทรศัพท์มือถือ แสงจากคอมพิวเตอร์ และ แสงจากหลอดไฟ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นให้เซลล์ใต้ผิวหนังสร้างเม็ดสีทำให้สีผิวดูเข้มขึ้นจนกลายเป็นฝ้าแดดได้ฝ้า หากไม่ได้รับการดูแลหรือรักษา อาจส่งผลให้สีของฝ้าเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้รักษายาก ต้องใช้เวลาในการรักษาที่นานกว่าปกติ

ลักษณะของฝ้าแดด


ลักษณะของฝ้าแดด

ฝ้าแดดมีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาล แดง เทาอมม่วง ไปจนถึงสีดำ โดยสามารถมีสีเข้มขึ้นได้หากได้รับแสงยูวี หรือแสงแดดเป็นประจำ หากไม่ได้รับการป้องกันหรือรักษาอย่างถูกวิธี โดยฝ้าแดดแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ดังนี้

  • ฝ้าแดดตื้น มักมีสีน้ำตาลเข้ม ไปจนถึงสีดำ มีขอบชัดเจน เกิดจากผิวหนังมีการสร้างเม็ดสีเมลานินที่มากกว่าปกติ (Melanin pigment) ที่บริเวณระดับผิวหนังชั้นกำพร้า หรือผิวหนังชั้นนอก เกิดขึ้นง่าย ใช้เวลารักษาไม่นาน
  • ฝ้าแดดลึก มักมีสีม่วงอมน้ำเงิน เกิดจากผิวหนังมีการสร้างเม็ดสีเมลานินที่มากกว่าปกติ (Melanin pigment) ที่บริเวณระดับผิวหนังชั้นหนังแท้ รักษายาก ส่วนมากจะพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป

ฝ้าแดดเกิดจากอะไร แล้วต่างกับฝ้าเลือดอย่างไร

  • ฝ้าแดด มักมีสาเหตุหลักมาจากรังสียูวีจากแสงแดด รวมถึงแสงไฟต่าง ๆ เช่น แสงจากจอคอมพิวเตอร์ แสงจากจอสมาร์ทโฟน และ แสงจากหลอดไฟ ผิวหนังจึงถูกกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีเมลานินขึ้นมามากกว่าปกติ มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม
  • ฝ้าเลือด (Vascular) มักมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย การใช้ยาบางประเภทที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน การใช้ยาที่ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยบนผิวหน้าทำงานผิดปกติ มักมีอาการเส้นเลือดฝอยแตก หรือมีเลือดไปกระจุกอยู่บริเวณใต้ผิวหนังมากจนเกิดเป็นสีแดงชัดเจน มีลักษณะเป็นสีแดง สีแดงน้ำตาล คล้าย ๆ เส้นเลือด

วิธีดูแลรักษาฝ้าแดดให้ตรงจุด


วิธีป้องกันฝ้าแดดและฝ้าเลือด

1. หลีกเลี่ยงแสงแดด

หากจำเป็นต้องออกไปกับเผชิญแสงแดด นอกจากทาครีมกันแดดเป็นประจำแล้ว ควรหาอุปกรณ์ป้องกันแดดเพิ่มเติม เช่น แว่นกันแดด หมวก ร่มกันยูวี เสื้อผ้าแขนยาว เป็นต้น

2. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นการออกไปใช้ชีวิตประจำวัน หรือออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพราะครีมกันแดดสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวี (UVA, UVB) รวมถึงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ และจอโทรศัพท์มือถือ ที่เป็นตัวการทำให้เกิดฝ้าแดดบนใบหน้าได้

Tips : แม้ว่าจะไม่ได้ออกไปข้างนอกก็ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะแสงสีฟ้า (HEVIS Light) จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ และจอโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้หน้าดูหมองคล้ำ และทำให้มีโอกาสเกิดฝ้าแดดได้

3. ครีมทาฝ้าช่วยลดเลือนฝ้าแดด

เลือกครีมบำรุงที่ช่วยแก้ปัญหาฝ้าแดดตั้งแต่ต้นตอ เพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ที่มีหน้าที่สร้างเม็ดสีในผิวตัวการที่ทำให้เกิดฝ้าแดดบนใบหน้า อย่าง ทรีทเม้นท์เซรั่มที่ได้รับการันตีจากแพทย์ผิวหนังว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และผลข้างเคียงอย่าง นีเวีย ลูมินัส630 แอดวานซ์ ดาร์ค สปอต เซรั่ม สูตรใหม่! (NIVEA Luminous630 Advanced Dark Spot Serum) ทรีทเม้นท์เซรั่มเข้มข้น ที่ผสานไทอามิดอล (Thiamidol) สารไบรท์เทนนิ่งที่ทรงพลังที่สุดจากนีเวีย ช่วยลดเลือนฝ้าแดด กระแดด และจุดด่างดำที่ฝังลึกสะสมนานับ 10 ปี ช่วยลดเลือนฝ้าได้ถึง 82% สามารถจัดการได้ทั้งจุดดำที่มองเห็น และจุดดำที่ฝังลึกอยู่ใต้ชั้นผิวได้ถึงต้นตอ หากไม่รีบจัดการตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจกลายเป็นจุดดำฝังลึกบนชั้นผิวได้ โดยครีมทาฝ้านีเวียไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหมือนครีมลอกฝ้า หรือ ครีมทาฝ้าตัวอื่น ๆ อีกทั้งยังจัดการปัญหากระแดดได้ลึกถึงต้นตอ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส อิ่มฟู นุ่มเด้ง ชุ่มชื้นถึงขีดสุดด้วยไฮยาลูโรนิกเข้มข้นถึง 2 เท่า เห็นผลจริงใน 2 สัปดาห์



4. ทรีตเม้นท์รักษาฝ้าแดด

การทำทรีตเม้นท์ ถือเป็นการผลักวิตามินหรือตัวยาต่าง ๆ ลงไปใต้ชั้นผิวหนัง ด้วยการใช้คลื่นพลังงานเปิดรูขุมขนเพื่อเปิดทางให้วิตามินและตัวยา เข้าสู่ผิวได้ลึกล้ำยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ ช่วยให้หน้าดูใสขึ้น แต่ต้องหมั่นทำเป็นประจำควบคู่กับการทาครีมบำรุงที่ช่วยลดเลือนฝ้าควบคู่ไปด้วย

5. เลเซอร์รักษาฝ้าแดด

การทำเลเซอร์ (Laser) เป็นการเป็นการยิงเพื่อปรับสภาพและรักษาความผิดปกติของสีผิว โดยใช้พลังงานความร้อนเพื่อกำจัดเม็ดสีที่บริเวณผิวหนังโดยตรง และช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวให้ผลัดผิวไวยิ่งขึ้น แต่หลังจากยิงเลเซอร์อาจทำให้ผิวหน้าบาง ผิวไวต่อแสงได้ จึงควรพักหน้า และหลีกเลี่ยงแสงแดดเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ไม่สามารถรักษาให้หายได้ภายในครั้งเดียว

หากหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดฝ้าแดดบนใบหน้านั้นหลีกเลี่ยงได้ค่อนข้างยาก ไม่ว่าจะทั้งรังสียูวีจากแสงแดดที่เราต้องเผชิญทุกวัน รวมทั้งแสงไฟจากหน้าจอต่าง ๆ ดังนั้นเพื่อป้องกันและดูแลรักษาปัญหาฝ้าแดดให้ได้ผลและตรงจุด ควรหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประะจำทุกวัน แม้วันไหนจะไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านก็ตาม และที่สำคัญควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพอย่าง นีเวีย ลูมินัส630 แอดวานซ์ ดาร์ค สปอต เซรั่ม (NIVEA Luminous630 Advanced Dark Spot Serum) ที่มีส่วนผสมของสารไทอามิดอล (Thiamidol) ช่วยลดเลือน ฝ้าแดด กระแดด และจุดด่างดำที่ฝังลึกสะสมมานานได้ถึง 82% พร้อมทั้งป้องกันการกลับมาเกิดซ้ำ เพื่อผิวหน้าที่กระจ่างใสอย่างมั่นใจ

คำถามที่พบบ่อย

  1. Q: ฝ้าแดดแตกต่างจากฝ้าธรรมดาอย่างไร?
    A: ฝ้าแดดและฝ้าธรรมดาแตกต่างกันในด้านสาเหตุและลักษณะที่ปรากฏ ฝ้าแดดเกิดจากการสัมผัสแสงแดด แสงจากหลอดไฟ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผิวผลิตเม็ดสีเมลานินเพิ่มขึ้น มักปรากฏเป็นปื้นหรือจุดสีเข้มกว้างบริเวณโหนกแก้มและหน้าผาก ส่วนฝ้าธรรมดาอาจเกิดจากพันธุกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน แต่ก็อาจรุนแรงขึ้นเมื่อสัมผัสแสงแดด ทั้งสองประเภทต้องการการดูแลรักษาและป้องกันที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการกลับมาเข้มขึ้น
  2. Q: ฝ้าแดดสามารถหายไปเองได้หรือไม่?
    A: ฝ้าแดดสามารถจางลงได้เองในบางกรณี แต่มักไม่หายไปโดยสมบูรณ์หากไม่ได้รับการรักษา การจางลงของฝ้าแดดขึ้นอยู่กับความรุนแรงของฝ้า ระยะเวลาที่เป็น และการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ หากหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดได้อย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม กระบวนการนี้อาจใช้เวลานานหลายเดือนถึงปี และไม่รับประกันว่าจะหายสนิท การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนฝ้า ร่วมกับการป้องกันแสงแดดอย่างเคร่งครัด จะช่วยเร่งกระบวนการจางลงของฝ้าแดดได้ดีกว่าการปล่อยให้หายเอง
  3. Q: ใครบ้างที่มีความเสี่ยงในการเกิดฝ้าแดด?
    A: ปัญหาฝ้าแดดสามารถพบได้ในบุคคลทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะ ผู้ที่มีผิวขาวหรือผิวบอบบาง ผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยครั้ง ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม และคนที่มีประวัติครอบครัวเป็นฝ้า การดูแลรักษาผิวและป้องกันแสงแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงนี้
  4. Q: ฝ้าแดดเกิดขึ้นเร็วแค่ไหนหลังจากสัมผัสแสงแดด?
    A: ฝ้าแดดสามารถเริ่มปรากฏได้ภายในไม่กี่วันหลังจากสัมผัสกับแสงแดด โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวบอบบางหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดฝ้าอยู่แล้ว การสัมผัสกับรังสี UV จะกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ทำให้เกิดจุดด่างดำหรือฝ้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ แสงจากหลอดไฟและจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็สามารถกระตุ้นการเกิดฝ้าได้เช่นกัน ดังนั้นการป้องกันด้วยการใช้ครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงแสงแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงในการเกิดฝ้าแดด
  5. Q: ฝ้าแดดสามารถกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้หรือไม่?
    A: ฝ้าแดดไม่ได้กลายเป็นมะเร็งผิวหนังโดยตรง แต่การที่ผิวเกิดฝ้าแดดแสดงว่าได้รับความเสียหายจากแสง UV ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น ผู้ที่มีฝ้าแดดควรระมัดระวังและป้องกันผิวจากแสงแดดอย่างเคร่งครัดเพื่อลดความเสี่ยงนี้


ทิปส์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ