กระเกิดจากความผิดปกติของเม็ดสีเมลานินที่สร้างเซลเม็ดสีมากเกินไป บริเวณที่กระขึ้นมักอยู่ที่จมูก โหนกแก้ม หรือตามส่วนต่างๆ ของร่างกายเช่นต้นแขนต้นขา ซึ่งตัวการทำร้ายและทำลายผิวที่ก่อให้เกิดกระ มีดังนี้
1. แสงแดด
เราทราบดีว่าในแสงแดดนั้นมีรังสี UVA และ UVB ที่คอยทำลายผิวให้คล้ำเสีย ทั้งยังกระตุ้นให้เม็ดสีเมลานินนั้นผลิตขึ้นมากผิดปกติ ทำให้เกิดจุดด่างดำ หรือ จุดสีน้ำตาลเล็กๆ จนกระจายไปทั่วผิวหน้า
2. แสงจากมือถือและโทรทัศน์
อีกหนึ่งตัวการร้ายทำลายผิวหน้า เพราะแสงเหล่านี้ส่งผลกับการสร้างเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังเช่นกัน
3. อารมณ์และความเครียด
ก่อให้เกิดการผลิตฮอร์โมนที่ผิดปกติและแปรปรวน เมื่อฮอร์โมนไม่สมดุล จึงทำให้เกิดเมลานินสะสมจนเป็นกระได้
กระ มี 4 ชนิด คือ
1. กระตื้น
จุดสีน้ำตาลเล็กๆ มักพบบริเวณโหนกแก้มทั้ง 2 ข้าง หรือจมูก โดยสาเหตุที่เซลทำงานผิดปกตินั้นส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรม บางคนเป็นกระตั้งแต่อายุน้อย เพราะเซลเม็ดสีมีความไวต่อแสง หากไม่ป้องกันให้เต็มที่ กระจะมีสีเข้มข้น จำนวนเพิ่มขึ้น และขนาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย
2. กระลึก
จุดเล็กๆ หรือแผ่นสีน้ำตาลไปจนถึงสีเทาดำ มองเผินๆ คล้ายปานหรือ
ฝ้า มักพบบริเวณขมับ ดั้งจมูกและโหนกแก้ม โดยสาเหตุกระลึกเกิดจากความผิดปกติของเซลเม็ดสีในชั้นหนังแท้ ซึ่งพบตั้งแต่แรกเกิดและจะถูกกระตุ้นโดยรังสี UV จากแสงแดด นอกจากนี้เรื่องของฮอร์โมนก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยทั้งอายุที่เพิ่มขึ้นหรือในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ กระลึกนั้นอาจยิ่งมีสีเข้มชัดขึ้นได้
3. กระเนื้อ
ตุ่มเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม มักพบในบริเวณใบหน้า ลำคอ หน้าคอ หน้าอกและหลัง ตุ่มเล็กๆ นั้นมีโอกาสจะขยายใหญ่ขึ้นและมีสีเข้มขึ้นได้ โดยสาเหตุการเกิดกระเนื้อ คือผิวหนังชั้นกำพร้าเจริญมากขึ้นผิดปกติ โดยแสงแดดและอายุที่มากขึ้น คือตัวกระตุ้นให้กระเนื้อมีขนาดใหญ่และจำนวนมากขึ้นนั่นเอง
4. กระแดด
จุดหรือปื้นเรียบๆ สีน้ำตาลหรือสีดำ มีขอบชัดกว่ากระอื่นๆ มักพบในบริเวณที่โดนแดดบ่อยๆ เช่น บริเวณใบหน้า อาจจะเป็นโหนกแก้มที่รับแสงแดดกว่าจุดอื่น หรือ แขน ขา ที่ไม่ได้รับการทาครีมปกป้องแดด ส่วนใหญ่จะเป็นกับผู้ที่มีผิวขาวและอายุมาก