10 เคล็ดลับหน้าเด็ก โกงอายุผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย

เมื่ออายุมากขึ้นผิวพรรณรวมถึงผิวหน้าเริ่มมีริ้วรอย ผิวแห้ง ดูไม่กระจ่างใส เเละกระชับเหมือนผิวตอนที่ยังอายุน้อย ปัจจัยที่ทำให้หน้าแก่ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่อายุเพียงอย่างเดียว แต่เกิดได้หลายสาเหตุทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิต, แสงแดด, ความเครียด รวมถึงการพักผ่อนด้วย ทั้งหมดเป็นสาเหตุทำให้หน้าแก่กว่าอายุได้

สารบัญบทความ

• Checklist baby face ผิวหน้าคุณยังเด็กอยู่หรือเปล่า ?
• 10 เคล็ดลับหน้าเด็ก อวดผิวเด้ง ดูอ่อนเยาว์
• คำถามที่พบบ่อย

Checklist baby face ผิวหน้าคุณยังเด็กอยู่หรือเปล่า ?

• ผิวหน้าสดใส ผิวมีความชุ่มชื้น ลักษณะของผิวที่มีสุขภาพดี มีความชุ่มชื้นจากภายใน ไม่แห้งกร้าน ไม่ลอกเป็นขุย ผิวมีน้ำหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ ทำให้ดูสดใสมีชีวิตชีวา เปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติ
• ผิวกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย ผิวมีสีสม่ำเสมอ ไม่หมองคล้ำ ปราศจากฝ้า กระ และจุดด่างดำ ที่สำคัญคือไม่มีร่องรอยริ้วรอยให้เห็น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีเสน่ห์
• ไม่มีริ้วรอยร่องแก้ม หน้าผาก และตีนกา ผิวบริเวณร่องแก้ม หน้าผาก และรอบดวงตายังคงเรียบเนียน ไม่มีรอยย่นหรือริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงออกทางสีหน้า การขมวดคิ้ว หรือการยิ้ม
• ผิวไม่หย่นคล้อย ยังดูเต่งตึง ผิวหน้ายังมีความยืดหยุ่นดี กระชับ ไม่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยบริเวณแก้มหรือใต้คาง เนื่องจากคอลลาเจนและอีลาสตินยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ผิวหน้าอิ่มฟู หน้าไม่ตอบ ใบหน้ามีปริมาตร ดูอวบอิ่ม มีความฉ่ำน้ำ ไม่แห้งแบน หรือตอบลงจนเห็นโครงสร้างกระดูก สะท้อนถึงการมีชั้นไขมันและคอลลาเจนที่สมบูรณ์ใต้ผิวหนัง

10 เคล็ดลับหน้าเด็ก อวดผิวเด้ง ดูอ่อนเยาว์

1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxident) สามารถช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวได้ เช่น ผักใบเขียว, ปลาทะเล และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เป็นต้น นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อย่างอาหารที่หวานเกินไปจะทำลายคอลลาเจนบนผิวหน้า ทำให้ร่างกายสร้างสารอนุมูลอิสระออกมา จึงควรลดปริมาณการรับประทานของหวานลง

2. ดื่มน้ำสะอาด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ซึ่งการดื่มน้ำและการออกกำลังกายช่วยให้ผิวพรรณดูผ่องใสขึ้น โดยควรดื่มน้ำเปล่าวันละ 2-3 ลิตรต่อวัน จะช่วยให้เซลล์อิ่มน้ำ เซลล์ผิวหนัง และเซลล์ร่างกายไม่เหี่ยว ส่วนการออกกำลังกายช่วยให้เลือดสูบฉีด ช่วยให้ผิวมีเลือดฝาด

3. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้หน้าเด็ก ดูอ่อนเยาว์

ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะสมกับสภาพผิวและช่วงวัย เพื่อจะช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นลดเรือนริ้วรอยได้อย่างตรงจุด ต้องเริ่มจากการการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อไม่เกิดอาการแพ้และระคายเคือง รวมถึงต้องไม่ลืมปกป้องผิว ด้วยการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารป้องกันทั้งรังสี UVA UVB มี SPF มากกว่า 30 และ มีค่า PA +++ ขึ้นไป สำหรับการบำรุงผิวการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ครีม หรือเซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้นเพียงพอ มีส่วนผสมของวิตามินเอ, ไฮยาลูรอน, โคเอนไซม์คิวเท็น หรือสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น

ขอแนะนำ นีเวีย ลูมินัส630 แอนตี้ เอจ แอนด์ สปอร์ต เซรั่ม (NIVEA luminous 630 anti-age & spot serum) ด้วยสารไทอามิดอล (Thiamidol)  สารไบรท์เทนนิ่งที่ทรงประสิทธิภาพพร้อม 2 พลัง ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระชับ ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก และฝ้าแดดจุดด่างดำสะสม โดยไม่เกิดผลข้างเคียง จัดการได้ลึกถึงต้นตอฟื้นฟูผิวให้ดูสม่ำเสมอ เรียบเนียน อ่อนเยาว์ มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนเข้มข้น สารสกัดจากถั่วเหลือง และ วิตามินอี ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง

4. รับประทานวิตามินเสริมเพื่อดูแลผิวพรรณ

เลือกรับประทานวิตามินที่มีสารต้านออกซิเดชัน (antioxidant) หรือสารกำจัดอนุมูลอิสระ เนื่องจากสามารถช่วยชะลอความแก่ที่มาจากปัญหาริ้วรอย ผิวเหี่ยวย่น และปัญผิวแก่ก่อนวัยได้ เช่น Vitamin C, Vitamin E, Lycopene และ Collagen เป็นต้น

5. ทาครีมกันแดด

การทาครีมกันแดดเป็นประจำช่วยป้องกันรังสี UVA UVB ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า และยังทำลายคอลลาเจนบนชั้นผิวทำให้ผิวเหี่ยว มีริ้วรอย และดูแก่กว่าวัยได้ ฉะนั้นจึงควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF ที่เหมาะสม โดยควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF มากกว่า 30 และ มีค่า PA +++ ขึ้นไป

6. สครับผิวหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิว

การสครับผิวหน้าผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก ถือเป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลัดเซลล์ผิวใหม่ที่มีสุขภาพดี ดูสดใสขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่า นอกจากช่วยให้ผิวได้หายใจ และไม่อุดตันแล้ว ยังทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ขึ้นด้วย โดยต้องเลือกสครับที่เนื้อเล็กละเอียด และขัดอย่างนุ่มนวลและเบามือที่สุด

7. เช็ดเครื่องสำอางให้สะอาด

ควรล้างและทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด เพราะการดูเเลผิวควรเริ่มต้นตั้งเเต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า การล้างหน้าไม่สะอาด ก็ทำให้เข้าไปอุดตันรูขุมขน ทำให้ผิวระคายเคือง ทำให้เกิดริ้วรอยและทำให้หน้าแก่ก่อนวัยอันควรได้

8. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และนอนถูกท่า

ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และควรนอนหลับในท่านอนหงาย ไม่นอนตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่ง และไม่ควรนอนคว่ำ ทำให้ใบหน้ากดกับหมอน หรือโดนดึงด้วยแรงโน้มถ่วง และทำให้เกิดริ้วรอย เกิดรอยพับบนใบหน้าได้

9. ผ่อนคลาย และลดความเครียด

การพยายามยิ้มและหัวเราะ เป็นการบริหารมัดกล้ามเนื้อบนใบหน้า นอกจากการหัวเราจะทำให้หายเครียดแล้ว ยังช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้นอีกด้วย แต่ต้องระมัดระวังหากแสดงสีหน้าไปมาทำให้เกิดริ้วรอยตามมาได้เช่นกัน

10. หัตถการช่วยหน้าเด็ก

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์และหัตถการทางความงาม ที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยที่ทำให้หน้าเด็กได้หลายวิธี เช่น โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์, ร้อยไหม และ Ulthera หรือ Thermage

• โบท็อกซ์: สามารถฉีดได้ก่อนอายุ 30 เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าตึง ไม่ขยับบ่อยให้เกิดริ้วรอย โบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าสู่ผิวจะส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวลงชั่วคราว ช่วยให้ริ้วรอยย่นต่าง ๆ ลดเลือนลง ดูหน้าเด็กขึ้น
• ร้อยไหม: การร้อยไหมเป็นวิธีการใช้เส้นไหมดึงผิวหน้าที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้น ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ช่วยให้หน้าเรียวขึ้น สามารถเห็นผลทันที ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงยกกระชับขึ้น
• ฟิลเลอร์: เป็นสารเติมเต็มผิว ประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึก ช่วยเสริมสร้างชั้นผิวหนังให้อิ่มฟู ทำให้ริ้วรอยจางลง สามารถชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
• Ulthera & Thermage: เป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย และลดเลือนริ้วรอย แต่ต่างกันที่หลักการทำงาน ซึ่ง Thermage จะทำงานได้ดีหากใช้กับปัญหาผิวที่อยู่บริเวณผิวชั้นนอก หรือบริเวณพื้นผิวมากกว่า

สำหรับใครที่อยากมีหน้าเด็ก ไม่แก่ก่อนวัย สามารถเลือกใช้วิธีต่าง ๆ ไปดูแลผิวหน้าเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยได้ ที่สำคัญควรดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิว ที่จะช่วยให้หน้าเด็กและชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้

คำถามที่พบบ่อย

1. Q: ดูยังไงว่าหน้าเด็ก
   A: ผิวหน้าที่ดูเด็กจะมีความเรียบเนียนและกระจ่างใสเป็นธรรมชาติ ไม่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ อีกทั้งยังมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน รูขุมขนเล็กละเอียด ปราศจากปัญหาสิว ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำต่างๆ นอกจากนี้จะไม่มีร่องรอยของแผลเป็นจากสิวหรือหลุมสิว และที่สำคัญคือไม่มีริ้วรอยร่องลึกหรือความหย่อนคล้อย โดยสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของผิวที่ดูเด็กคือจะมีความแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ มีเลือดฝาด ทำให้ใบหน้าดูสุขภาพดีและมีชีวิตชีวา
2. Q: ทำยังไงให้หน้าดูเด็กลง
   A: การทำให้หน้าเด็กลงเริ่มได้จากการดูแลตัวเองง่ายๆ ทั้งการทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างผักใบเขียว ปลาทะเล และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทาครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไปทุกวัน และที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมทำร้ายผิวอย่างการนอนดึก สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงต้องล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งก่อนนอน
3. Q: การออกกำลังกายช่วยให้หน้าเด็กจริงหรือไม่
   A: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยให้หน้าเด็กได้จริง เพราะเมื่อเราออกกำลังกาย ร่างกายจะมีการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งและสดใสขึ้น นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยควบคุมน้ำหนักและลดไขมันส่วนเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวที่ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใสได้อีกด้วย
4. Q: กินอะไรช่วยให้หน้าดูเด็ก
   A: การมีใบหน้าที่ดูเด็กเริ่มได้จากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เต้าหู้ที่อุดมด้วยสารเลซิตินที่ช่วยบำรุงผิว ถั่วชนิดต่างๆ ที่มีวิตามินบีสูง น้ำมะพร้าวที่มีฮอร์โมนช่วยสร้างคอลลาเจน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และทับทิมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ปลาแซลมอนที่อุดมด้วยโอเมก้า 3 และที่ขาดไม่ได้คืออะโวคาโดที่มีกรดไขมันดีและวิตามินที่จำเป็นต่อผิว การรับประทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น และดูอ่อนเยาว์
5. Q: นอนยังไงให้หน้าเด็ก
   A: การนอนหงายเป็นท่าที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการชะลอความเสื่อมของผิวและรักษาความอ่อนเยาว์ของใบหน้า เนื่องจากการนอนหงายจะไม่ทำให้ใบหน้าสัมผัสกับพื้นผิวที่นอนโดยตรง จึงช่วยลดแรงกดทับที่อาจทำให้เกิดริ้วรอยได้ นอกจากนี้ ท่านอนหงายยังช่วยให้ระบบหายใจทำงานได้อย่างเต็มที่ และช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้นของผิวได้ดีขึ้นด้วย