6. การพักผ่อนไม่เพียงพอ
ช่วงกลางคืนที่นอนหลับพักผ่อนร่างกายจะหลั่ง Growth Hormone ออกมาเพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หากพักผ่อนไม่เพียงพอเซลล์ผิวหนังจะไม่ได้รับการฟื้นฟู ไม่สามารถผลิตเซลล์ผิวใหม่ได้ ทำให้ผิวหนังเหี่ยว มีริ้วรอย และแก่ก่อนวัยได้
7. แต่งหน้าทุกวันขาดการพักผิว
การแต่งหน้าหนักทุกวันและพักผิวน้อย เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวแก่เร็วและเสื่อมสภาพก่อนวัย เนื่องจากการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีมากเกินความจำเป็น ทำให้ผิวไม่มีเวลาฟื้นฟูตัวเองตามธรรมชาติ จึงแสดงอาการหมองคล้ำและเหี่ยวย่นได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับสภาพผิว รวมถึงหมั่นทำความสะอาดผิวหน้าและบำรุงให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวได้พักผ่อนและฟื้นตัวได้ทัน
8. ติดกินของหวาน
การทานของหวานและอาหารที่มีแป้งขัดขาวเป็นประจำ เช่น ขนมเค้ก ขนมปัง คุกกี้ อาจทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยและแก่เร็วกว่าที่ควร เพราะน้ำตาลที่ได้รับเข้าไปในปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย ทั้งจากการบริโภคน้ำตาลโดยตรงหรือจากการย่อยแป้ง จะเข้าสู่กระแสเลือดในรูปของกลูโคสและฟรุกโตส และเกิดปฏิกิริยาที่เรียกว่า Glycation กับโครงสร้างโปรตีน ไขมัน และดีเอ็นเอ กลายเป็นสาร AGE (Advanced Glycation End Products) ซึ่งจะไปทำลายโครงสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ แห้งกร้าน หย่อนคล้อย เกิดจุดด่างดำและริ้วรอยได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานของหวานและแป้งขัดขาวปริมาณมาก ๆ เพื่อชะลอการเกิดผิวแก่ก่อนวัย
9. ดื่มน้ำน้อย
การดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวันจะทำให้ร่างกายขับถ่ายของเสียได้ไม่ดีเท่าที่ควร ส่งผลกระทบต่อสุขภาพผิวโดยตรง เพราะเมื่อร่างกายไม่สามารถกำจัดสารพิษและของเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซลล์ผิวจะถูกทำลาย นำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ เช่น ผิวแก่ก่อนวัย มีริ้วรอย สีผิวหมองคล้ำไม่สดใส รวมถึงปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาอีกด้วย
10. การสัมผัสความร้อน
แม้ความร้อนจะไม่ได้ทำให้ผิวแก่โดยตรงเหมือนกับแสงแดด แต่การสัมผัสความร้อนบ่อยๆ เช่น การอยู่ใกล้เตาไฟหรือความร้อนจัด ๆ ก็สามารถส่งผลเสียต่อผิวหน้าได้เช่นกัน เพราะความร้อนจะไปกระตุ้นการทำงานของเม็ดสีในผิว ทำให้เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ง่าย ซึ่งถือเป็นสัญญาณหนึ่งของการมีผิวหน้าที่ดูแก่ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน
7 วิธีป้องกันหน้าเหี่ยว หน้าแก่ก่อนวัย
รู้สึกว่าผิวหน้าเหี่ยว แก่ก่อนวัย? อย่าเพิ่งกังวลมากจนเกินไป มาดูวิธีที่จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์กว่าวัย และชะลอการเกิดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพกัน
1. ปกป้องผิวจากแสงแดด
ด้วยการทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป รวมถึงการสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด หรือสวมหมวกเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง สามารถป้องกันการทำร้ายผิวได้
2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับวัย เหมาะกับสภาพผิว
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับวัยโดยเฉพาะวัย 30+ ที่เริ่มมีปัญหาผิวมากขึ้นเริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวเริ่มแห้งหยาบกร้านขึ้น และผิวเสียสมดุลง่ายขึ้น การเลือกผลิตภัณฑ์จึงต้องการ Antioxidant สูง และ Moisturizer ที่เข้มข้นขึ้นให้กับผิว เพื่อปกป้องผิวไม่ให้แห้งและมีริ้วรอยมากขึ้น อย่าง ผลิตภัณฑ์ นีเวีย ลูมินัส630 แอนตี้เอจ แอนด์ สปอต เซรั่ม (NIVEA luminous 630 anti-age & spot serum) ด้วยสารไทอามิดอล (Thiamidol) สารไบรท์เทนนิ่งที่ทรงประสิทธิภาพพร้อม 2 พลัง ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระชับ ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก และฝ้าแดดจุดด่างดำสะสม โดยไม่เกิดผลข้างเคียง จัดการได้ลึกถึงต้นตอฟื้นฟูผิวให้ดูสม่ำเสมอ เรียบเนียน อ่อนเยาว์ มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนเข้มข้น สารสกัดจากถั่วเหลือง และ วิตามินอี ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง