เคล็ดลับการดูแลผิวผสม

วิธีควบคุมความสมดุลของผิว ผิวผสมถือเป็นกรณีพิเศษ: ผิวผสมประกอบด้วยผิวสองแบบ บางส่วนของใบหน้าค่อนข้างแห้ง ในขณะที่ส่วนอื่นมักจะมีความมันวาว มีจุดด่างดำ และหมองคล้ำมากกว่า เราจะแสดงให้คุณเห็นว่าการดูแลผิวแบบไหนเหมาะสำหรับผิวผสม

ผิวผสมมีลักษณะอย่างไรบ้าง?

ผิวผสมผสานมีคุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่ง คือ ผิวบริเวณ T-zone ซึ่งได้แก่ หน้าผาก ผิวหนังและจมูก จะมีความมันมากกว่าบริเวณอื่นๆ ส่วนบริเวณแก้มกลับเป็นผิวธรรมดาถึงแห้ง ดังนั้น ในการดูแลปรนนิบัติผิว คุณจำเป็นต้องคำนึงถึงคุณสมบัติที่แตกต่างของผิวแต่ละส่วน

ผิวผสมมีลักษณะอย่างไรบ้าง?

ผิวของคุณเป็นผิวผสมแบบถาวรหรือไม่?

ส่วนใหญ่ผิวผสมเกิดขึ้นเมื่อคุณอายุยังน้อย ผิวแต่ละส่วนจะค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันตลอดชั่วอายุของคุณ หรือไม่ก็จะเป็นอีกกรณี คือ ผิวโดยทั่วไปของคุณจะแห้งมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น

ฟื้นฟูความสมดุลของผิว

ถ้าคุณมีผิวผสมผสาน ผิวบริเวณ T-zone ซึ่งอยู่ระหว่างหน้าผาก จมูก และคาง จะมันเยิ้มอย่างรวดเร็วเมื่อทาครีมบำรุงผิวหน้า ส่วนบริเวณแก้มจะแห้งเนื่องจากขาดการดูแล ทำให้รู้สึกแห้งตึง โดยหลักการแล้ว ขอแนะนำให้ใช้ครีมเพิ่มความชุ่มชื้นที่ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมมากเกินไป ซึ่งจะช่วยให้ผิวทั้งสองส่วนได้ในสิ่งที่ต้องการ

การฟื้นฟูความสมดุลของผิว#1 : ทำความสะอาดผิวหน้า

การทำความสะอาดผิวเป็นประจำทุกวันของคุณถือเป็นงานที่ท้าทายมาก : ผิวบริเวณ T-zone จำเป็นต้องล้างทำความสะอาดอย่างนุ่มนวลเพื่อขจัดน้ำมันส่วนเกิน หลีกเลี่ยงการเกิดสิวหัวดำและจุดด่างดำ ในขณะที่บริเวณผิวแห้งจะต้องไม่สูญเสียความชุ่มชื่นใดๆ เราขอแนะนำ NIVEA Bright Oil Control Makeup Clear Micellar Water คลีนซิ่งสูตรน้ำสำหรับสาวผิวมัน – ผิวผสมโดยเฉพาะจากนีเวีย ด้วยเทคโนโลยี Micellar Water ช่วยทำความสะอาดผิวหน้า ล้างเครื่องสำอางจัดเต็มได้อย่างสะอาดหมดจน และอ่อนโยนต่อผิวเพราะ 0% แอลกอฮอล์ ทั้งยังมี Carnitine ช่วยขจัดความมันส่วนเกิน และออกซิเจนบูสท์ ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว หลังจากเช็ดทำความสะอาดหน้าเสร็จแล้ว มาถึงขั้นตอนการล้างหน้า แนะนำ โฟมล้างหน้า NIVEA Bright Oil Clear Super Mousse Foam เนื้อแน่น นุ่ม ละเอียดด้วยมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ 3 เท่าช่วยเติมความชุ่มชื้น พร้อมปกป้องไม่ให้ผิวแห้งตึงหลังล้างหน้า อ่อนโยนต่อผิว เพราะ 0% Soap ผสานด้วย Carnitine เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมความมันระหว่างวัน จากนีเวีย
และที่สำคัญไม่ควรทำความสะอาดผิวหน้าของคุณมากกว่าวันละสองครั้ง -โดยทำความสะอาดหน้าหนึ่งครั้งในตอนเช้าและอีกครั้งในเวลากลางคืนก็เพียงพอแล้ว มิฉะนั้นผิวส่วนที่บอบบางจะแห้งกร้านยิ่งกว่าเดิม

เคล็ดลับ: ใช้คลีนซิ่งในการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า ล้างเครื่องสำอางและขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ พร้อมล้างหน้าด้วยมูสโฟมสูตรอ่อนโยน ที่ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงและป้องกันการระคายเคือง หลังจากนั้นปรับสภาพผิวบริเวณ T-zone ที่มีความมันมากกว่าปกติด้วยโทนเนอร์เช็ดหน้า เพื่อช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว

ฟื้นฟูบำรุงและปกป้องผิว #2: การบำรุงและปกป้องผิวหน้า

ปัญหาที่คุณต้องแก้เมื่อดูแลผิวผสม ก็คือ ต้องดูให้แน่ใจว่าบริเวณที่มีผิวมันจะไม่ถูกทำให้มันเยิ้มเกินไปและบริเวณที่มีผิวแห้งต้องได้รับความชุ่มชื้นที่เพียงพอ

เคล็ดลับ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหน้า เนื้อบางเบาที่มีปริมาณน้ำมันต่ำและทาให้สม่ำเสมอทั่วบริเวณหน้าผาก จมูก และคาง ครีมบำรุงผิวที่ใช้ต้องให้ความชุ่มชื้น แต่มีเนื้อบางเบา และแน่นอนต้องปกป้องผิวจากแสงแดด ในเวลาเดียวกัน คุณสามารถใช้ครีมเดียวกันได้กับผิวทั้งสองโซน แต่ต้องแน่ใจว่าคุณเลือกครีมที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณจริงๆ เช่น NIVEA Bright Day Cream SPF 15 ครีมบำรุงผิวหน้าสูตรกลางวันผสมสารป้องกันแสงแดด SPF 15 สำหรับผิวธรรมดา-ผสม ที่ผสาน Pearly White พิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ผิวกระจ่างใส 10 เท่า เหนือกว่าวิตามินซี และ กันแดดสำหรับผิวหน้า NIVEA Sun Protect & Bright Oil Control Serum SPF 50 กันแดดเซรั่ม เนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ได้ทุกวัน ช่วยลดความมันในรูขุมขน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้ถึง 86% และฟื้นบำรุงผิวหน้าให้กระจ่างใส และคงความชุ่มชื้นกับผิว เหมาะสำหรับสาวแต่งหน้าด้วยสูตร Non-Comedogenic ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน ในส่วนของบริเวณรอบดวงตา คุณควรเลือกครีมบำรุงผิวที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษสำหรับผิวบริเวณที่บอบบางนี้

การเปลี่ยนแปลงผิวผสมเมื่อเปลี่ยนฤดูกาล

การดูแลผิวผสมในช่วงฤดูหนาว

หากเจออากาศเย็นในช่วงฤดูหนาว หรือนั่งอยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน จะส่งผลให้ผิวแห้ง ผิวของคุณจำเป็นต้องได้รับการปกป้องเป็นพิเศษและได้รับความชุ่มชื้นในช่วงเวลานี้ แนะนำให้ทาครีมบำรุงที่ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว

การดูแลผิวผสมในช่วงฤดูร้อน

ในช่วงฤดูร้อน บริเวณผิวที่มันวาวของผิวผสมจะเห็นเด่นชัดขึ้น เมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์ดูแลผิว คุณควรระลึกไว้เสมอว่าผิวจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และอย่าลืมทาครีมกันแดดในช่วงฤดูร้อนด้วยนะ!

การแต่งหน้าสำหรับผิวผสม

เมคอัพของคุณจะคงทนตลอดวันโดยไม่เติมแล้วเติมอีกระหว่างวันได้หรือไม่? นั่นเป็นคุณสมบัติหนึ่งของผิวผสม ผิวบริเวณ T-zone ระหว่างหน้าผาก จมูก และคาง จะเริ่มมันวาวอย่างรวดเร็ว มาดูกันว่าเมคอัพแบบไหนเหมาะกับผิวผสมและวิธีการทำให้สีผิวของคุณดูกระจ่างใสตลอดทั้งวัน

เลือกรองพื้นที่ใช่

แนะนำให้ใช้ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับกลางวัน (Day Cream) และครีมกันแดดเนื้อบางเบา ทาเป็นรองพื้นก่อนแต่งหน้า ซึ่งอาจมีเฉดสีที่ไม่ทำให้หน้าลอย ตอนเลือกรองพื้น ต้องแน่ใจว่าเป็นสูตรปราศจากน้ำมัน (Oil-Free) มิฉะนั้น ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด สีในรองพื้นอาจผสมกับความมันบนผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าของคุณดูกระดำกระด่าง ไม่สม่ำเสมอ

แต่งหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวของคุณ

เมคอัพที่ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม (oil-free) ที่พัฒนามาเพื่อผิวหมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ หรือผิวมันวาวนั้นเหมาะสำหรับผิวผสมมากที่สุด เพราะจะช่วยดูดซับความมันส่วนเกินและเหงื่อเม็ดเล็กๆ ได้ คุณสามารถใช้เจลที่ปราศจากน้ำมันก่อนหรือหลังการลงรองพื้นก็ได้เพื่อช่วยให้เมคอัพติดทนยิ่งขึ้น

เลือกแป้งสำหรับเมคอัพ

เพื่อช่วยให้เมคอัพของคุณติดทนนานขึ้น คุณอาจลงแป้งด้วยก็ได้ แป้งอัดแข็ง (pressed powder) จะช่วยลดความมันเงาและให้สัมผัสด้าน ไม่มัน คุณอาจปกปิดรอยคล้ำหรือจุดด่างดำเล็กๆ น้อยๆ ด้วยแป้งฝุ่นที่ได้จากแร่ธรรมชาติ (mineral powder)

ผิวสวยด้วยครีมทาหน้าสำหรับกลางวันชนิดมีสี

ครีมทาหน้าสำหรับกลางวันชนิดมีสีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นกีฬา เนื่องจากเนื้อครีมจะไม่ปิดกั้นรูขุมขนบนผิว ครีมเนื้อบางเบานี้ช่วยให้คุณเอาอยู่ทุกสถานการณ์แม้ไม่ได้แต่งหน้าหรือทาแป้งขณะมีเหงื่อออก ทั้งยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนอีกด้วย

ตัวเลือกอื่นที่ใช้แทนรองพื้นได้

ครีมทาหน้าสำหรับกลางวันชนิดมีสีไม่เพียงแต่ช่วยปกป้องผิวของคุณ แต่ยังช่วยให้ผิวดูสวยเนียนไร้ที่ติ แม้ว่าจะปกปิดได้ไม่ดีเท่ารองพื้น แต่ผิวหน้าของคุณจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ