1. เลเซอร์
การรักษาด้วยเลเซอร์เป็นวิธีการที่นิยมใช้ในการแก้ไขปัญหาคอเหี่ยว เพราะเป็นวิธีที่ไม่ผ่าตัดและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ โดยเลเซอร์จะทำหน้าที่ส่งพลังงานความร้อนไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ริ้วรอยลดลง และผิวดูเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยไม่ลึกมาก ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย ข้อดีของการรักษาด้วยเลเซอร์คือ เห็นผลเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน และสามารถปรับระดับพลังงานของเลเซอร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
2. ร้อยไหม
การร้อยไหมเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับผิว โดยการฝังไหมละลายใต้ผิวหนังเพื่อดึงผิวให้ตึงขึ้น ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอย เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยปานกลาง ข้อดีของการร้อยไหมคือ เห็นผลรวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด สามารถทำควบคู่กับการรักษาอื่นๆ ได้ และระยะเวลาในการพักฟื้นสั้น
3. ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เป็นการเติมสารเติมเต็มใต้ผิวหนังเพื่อให้ผิวดูอิ่มฟู ร่องลึกตื้นขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีร่องลึกบริเวณคอ ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คือ เห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้น แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ไม่นาน ต้องเติมซ้ำ
4. Ulthera
Ulthera เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวและลดเลือนริ้วรอยโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน
5. Thermage
Thermage เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวกระชับและเรียบเนียนขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์และกระชับ
6. ดึงหน้า
การดึงหน้าเป็นการผ่าตัดเพื่อดึงผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณคอให้กลับเข้าที่ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคอเหี่ยวรุนแรง ข้อดีของการดึงหน้าคือ ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและเห็นผลชัดเจนที่สุด แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธีอื่นๆ
Tips: Make up
แม้ว่าการใช้เครื่องสำอางจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาคอเหี่ยวได้อย่างถาวร แต่ก็สามารถช่วยปกปิดรอยคล้ำ รอยแดง หรือริ้วรอยได้ชั่วคราว ข้อดีของการใช้เครื่องสำอาง คือ สะดวก รวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายน้อย
วิธีป้องกัน และดูแลปัญหาคอเหี่ยว