7 วิธีทําให้หน้าเต่งตึงโดยธรรมชาติ ยกกระชับให้หน้าดูอ่อนวัย

วิธีทําให้หน้าเต่งตึงโดยธรรมชาติ ยกกระชับให้หน้าดูอ่อนวัย

ไม่ว่าใครก็อยากมีผิวหน้าที่เต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ หน้าเด็กกว่าอายุจริง แต่จะทำยังไงดีให้ใบหน้าของเราดูสดใสและกระชับขึ้นได้บ้าง? วันนี้มาไขข้อข้องใจ และเปิดเผยเคล็ดลับในการดูแลผิวหน้าให้เต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยวิธีที่ทำได้ง่าย ๆ สามารถทำได้ที่บ้านกัน

สารบัญบทความ

  • ทำไมผิวหน้าถึงหย่อนคล้อย?
  • ปัจจัยที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยเร็วขึ้น
  • 7 วิธีทำให้หน้าเต่งตึงโดยธรรมชาติ
  • ส่วนผสมสำคัญในครีมลดริ้วรอย
  • คำถามที่พบบ่อย

ทำไมผิวหน้าถึงหย่อนคล้อย?

ผิวหน้าหย่อนคล้อยเป็นปัญหาที่หลายคนกังวล เพราะทำให้ดูแก่กว่าวัย ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผิวหน้าหย่อนคล้อยมีดังนี้

1. การลดลงของคอลลาเจนและอิลาสติน

คอลลาเจนและอิลาสตินคือโปรตีนที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับ เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายผลิตโปรตีนเหล่านี้น้อยลง ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดการหย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยได้

2. แรงโน้มถ่วง

แรงโน้มถ่วงของโลกส่งผลให้ผิวหนังค่อย ๆ หย่อนคล้อยลงมาตามกาลเวลา โดยเฉพาะบริเวณแก้มและคาง

3. การแสดงออกทางสีหน้า

การแสดงออกทางสีหน้าที่บ่อยครั้ง เช่น การขมวดคิ้ว การยิ้ม ทำให้เกิดรอยย่นและร่องลึก ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และใบหน้าดูแก่กว่าวัยได้

4. แสงแดด

รังสี UV จากแสงแดดนั้นทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอย

5. การสูบบุหรี่

นิโคตินในบุหรี่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้ผิวแก่เร็วและหย่อนคล้อย

6. การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วทำให้ผิวหนังหดตัวไม่ทัน สามารถเกิดการหย่อนคล้อยได้

7. พันธุกรรม

พันธุกรรมนั้นมีส่วนสำคัญในการกำหนดความแข็งแรงของผิว และอัตราการเกิดริ้วรอยได้

8. การพักผ่อนไม่เพียงพอ

การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวดูเหี่ยว และมีริ้วรอยก่อนวัยได้

ปัจจัยที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยเร็วขึ้น


ปัจจัยที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยเร็วขึ้น
  1. ความเครียด ความเครียดเรื้อรังทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาในปริมาณมาก ส่งผลเสียต่อผิวหนัง
  2. การทานอาหารไม่สมดุล การขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อผิว เช่น วิตามินซี, วิตามินอี, สังกะสี ก็ส่งผลให้ผิวอ่อนแอและหย่อนคล้อยได้ง่าย
  3. การขาดการออกกำลังกาย การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย

7 วิธีทำให้หน้าเต่งตึงโดยธรรมชาติ

1. การนวดหน้า

การนวดหน้าเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ผิวได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้น ผิวจึงดูสดใสและเต่งตึงขึ้น เทคนิคการนวดหน้าเบื้องต้นสามารถทำได้เองที่บ้าน โดยใช้นิ้วนวดวนเบา ๆ บริเวณใบหน้าจากล่างขึ้นบน ควรใช้น้ำมันหรือครีมนวดหน้าเพื่อลดแรงเสียดทานและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

2. การออกกำลังกายใบหน้า (Face Yoga)


การออกกำลังกายใบหน้า

Face Yoga เป็นการออกกำลังกายกล้ามเนื้อใบหน้า ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้นและลดเลือนริ้วรอยได้ ท่าออกกำลังกายที่ง่ายและได้ผล เช่น การเป่าลมแก้ม การยิ้มกว้าง หรือการเลื่อนริมฝีปากไปมา ควรทำเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 15-20 นาที

3. มาส์กหน้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติ

สมุนไพรมีคุณสมบัติในการบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และยังช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง การมาส์กหน้าด้วยสมุนไพรธรรมชาติเป็นประจำจึงสามารถช่วยให้ใบหน้าดูกระชับ และลดเลือนริ้วรอยได้ เช่น สูตรมาส์กหน้ามะเขือเทศและน้ำผึ้ง สูตรมาส์กหน้าไข่ขาวและน้ำมะนาว สูตรมาส์กหน้าขมิ้นและนม

4. การบำรุงผิวด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ


การบำรุงผิวด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ

การบำรุงผิวด้วยน้ำมันธรรมชาติถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีในการบำรุงผิวให้ดูกระชับ เต่งตึง เนื่องจากอุดมไปด้วยกรดไขมันที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำและดูเรียบเนียน นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ถูกทำลายได้อีกด้วย และที่สำคัญน้ำจากธรรมชาติมันบางชนิดสามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึง ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีสุขภาพดี เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันอาร์แกน น้ำมันโจโจ้บา และน้ำมันโรสฮิป

5. ดูแลผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์

การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอถือเป็นการลงทุนที่ดีต่อผิวหน้า เพราะมอยเจอร์ไรเซอร์จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวอิ่มน้ำและดูเรียบเนียน นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะและปัจจัยภายนอกอื่น ๆ ที่อาจทำลายผิว อีกทั้งยังช่วยให้ผิวสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้น เมื่อผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ ผิวจะแข็งแรงขึ้น มีความยืดหยุ่นมากขึ้น และริ้วรอยต่าง ๆ ก็จะดูลดเลือนลง ซึ่งการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ควบคู่กับเซรั่ม หรือทรีทเม้นท์ที่มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอยได้โดยเฉพาะ สามารถช่วยให้หน้าดูเต่งตึง และกระชับไวขึ้น อย่าง NIVEA Luminous 630 Anti-Age & Spot Serum (นีเวีย ลูมินัส630 แอนตี้เอจ แอนด์ สปอต เซรั่ม) เซรั่มที่ผสานไทอามิดอล (Thiamidol) สารไบรท์เทนนิ่งที่ทรงประสิทธิภาพพร้อม 2 พลัง ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้ดูกระชับ ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก และฝ้าแดดจุดด่างดำสะสม โดยไม่เกิดผลข้างเคียง จัดการได้ลึกถึงต้นตอฟื้นฟูผิวให้ดูสม่ำเสมอ เรียบเนียน อ่อนเยาว์


NIVEA Luminous 630 Anti-Age & Spot Serum

6. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

การทาครีมกันแดดเป็นประจำถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการชะลอการเกิดริ้วรอย เพราะรังสี UV จากแสงแดดเป็นตัวการหลักที่ทำลายคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ครีมกันแดดจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากรังสี UV ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำ นอกจากนี้ รังสี UV ยังกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในผิวหนัง ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของริ้วรอย ครีมกันแดดก็ช่วยลดการอักเสบนี้ได้อีกด้วย

7. อาหารบำรุงผิว

อาหารที่มีคอลลาเจน เช่น ปลาทะเล เต้าหู้ และผลไม้รสเปรี้ยว ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในผิว นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีวิตามิน C, E และแร่ธาตุสังกะสี ก็ช่วยให้ผิวแข็งแรงและมีสุขภาพดี


อาหารบำรุงผิว

การทำให้หน้าดูเต่งตึงด้วยวิธีธรรมชาตินั้นทำได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่การการดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เช่น มาร์คมะเขือเทศ มาร์คโยเกิร์ต รวมทั้งการนวดหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้นได้จริ แต่การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ก็มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณแข็งแรงและเต่งตึงได้เช่นกัน

คำถามที่พบบ่อย

  1. Q: ใบหน้าหย่อนคล้อยทำไงดี
    A: การดูแลผิวหน้าให้เต่งตึงขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติสามารถเริ่มจากการบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี, E หรือเรตินอล อีกทั้งการนวดหน้าอย่างถูกวิธีก็สามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวดูสดใสและยกกระชับขึ้นได้ และอย่าลืมนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  2. Q: การนวดหน้าทุกวันดีไหม
    A: การนวดหน้าเป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ช่วยให้ผิวดูสดใสและผ่อนคลาย แต่การนวดหน้าทุกวันอาจไม่จำเป็นเสมอไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ หากนวดแรงเกินไป อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ ควรนวดหน้าสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง หรือตามที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ
  3. Q: ปัญหาร่องแก้มลึก แก้ยังไง
    A: วิธีธรรมชาติสามารถทำได้โดยการดูแลผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีคุณภาพ การนวดหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต การออกกำลังกายใบหน้า และการพักผ่อนให้เพียงพอ

เคล็ดลับที่น่าสนใจสำหรับคุณ