รู้จักกระแดด สาเหตุ และวิธีรักษาให้ตรงจุด

รู้จักกระแดด สาเหตุ และวิธีรักษาให้ตรงจุด

กระแดด ปัญหาที่มักพบบ่อยในในผู้สูงอายุ แต่สำหรับประเทศไทยที่มีอากาศร้อน และแดดแรงตลอดทั้งปีตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้ไม่แปลกใจเลยที่สาว ๆ หลายคนจะมีปัญหากระแดดที่เกิดขึ้นบนใบหน้า จนทำให้สูญเสียความมั่นใจในตัวเองและการใช้ชีวิตประจำวัน แต่กระสามารถป้องกัน และรักษาให้หายได้โดยจำเป็นต้องรู้สาเหตุของการเกิดกระแดดก่อนว่ากระแดดเกิดจากอะไร? มีวิธีรักษากระแดดอย่างไรบ้าง? จริง ๆ แล้ว กระหายเองได้ไหม?

สารบัญบทความ

  • กระแดด คืออะไร
  • กระแดดเกิดจากอะไร สาเหตุของกระแดด
  • กระแดด มีลักษณะอย่างไร
  • วิธีดูแล รักษากระแดด
  • การดูแลผิวหลังรักษากระแดด
  • คำถามที่พบบ่อย

กระแดด คืออะไร

กระแดด (Solar lentigo) มักพบในผู้ที่มีอายุมาก มักมีสาเหตุหลักมาจากแสงแดดที่ประกอบไปด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet) หรือรังสียูวี (UV) นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนที่เป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานินให้ทำงานผิดปกติทำเกิด ”กระ” ขึ้นมาที่บริเวณผิวหนัง หากไม่ป้องกันหรือรักษาให้หาย จำนวนกระก็สามารถทวีคูณเพิ่มขึ้นจนรักษายาก รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาก็จะยิ่งสูงมากขึ้นด้วย ฉะนั้นการจัดการปัญหากระจึงควรเริ่มตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน สามารถเริ่มรักษากระได้จากการทาไวท์เทนนิ่งบริเวณที่เกิดกระ

กระแดดเกิดจากอะไร สาเหตุของกระแดด


กระแดดเกิดจากอะไร สาเหตุของกระแดด
  • แสงแดด : แสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดกระแดด เนื่องจากรังสี UVA และ UVB ในแสงแดดสามารถทะลุเข้าสู่ผิวหนังและกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินในเซลล์ผิว เมื่อผิวหนังสัมผัสกับแสงแดดบ่อย ๆ จะทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลหรือปื้นที่มีขอบชัดเจน ซึ่งมักพบในบริเวณที่โดนแสงแดดโดยตรง เช่น ใบหน้า แขน และมือ
  • ฮอร์โมนทำงานผิดปกติ : ฮอร์โมนที่ไม่สมดุล เช่น ฮอร์โมนเพศหญิงในช่วงตั้งครรภ์ และการใช้ยาคุมกำเนิด สามารถกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินได้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดฝ้า หรือกระแดดได้ง่าย
  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น : เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการฟื้นฟูผิวและการผลิตคอลลาเจนจะลดลง ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น

กระแดด มีลักษณะอย่างไร

กระแดด มีลักษณะเป็นจุด หรือเป็นปื้นราบเรียบ สีน้ำตาล มักมีขอบเขตชัดเจนกว่ากระชนิดอื่น มีขนาดไม่เกิน 1 เซนติเมตร มักเกิดที่บริเวณที่ถูกแสงแดดกระทบบ่อย มักพบมากในบริเวณที่โดนแสงแดด เช่น ใบหน้า โหนกแก้ม มือ หลังแขน เป็นต้น

วิธีดูแล รักษากระแดด

1. หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดด

พยายามหลีกเลี่ยงการออกไปเผชิญแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ แต่ถ้าหากเลี่ยงไม่ได้ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปทุกครั้ง และเตรียมอุปกรณ์สำหรับป้องกันแดดไปด้วย เช่น สวมหมวก กางร่ม สวมเสื้อผ้าแขนยาวมิดชิดเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด

2. ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

หมั่นทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกไปเผชิญกับแสงแดดข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นการออกไปใช้ชีวิตประจำวัน หรือออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากครีมกันแดดจะสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวี (UVA, UVB) ยังสามารถปกป้องผิวจากแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ และจอโทรศัพท์มือถือ ที่เป็นตัวการทำให้หน้าหมองคล้ำได้ด้วย

3. กลุ่มยาทาที่มีส่วนผสมช่วยลดเลือนรอยดำ

  • เรตินอล (Tretinoin) : อนุพันธ์ของวิตามินเอสามารถช่วยกระจางลงได้ โดยช่วยกระตุ้นการผลิตเซลล์ผิว และเร่งการผลัดเซลล์ ควรใช้ตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
  • กรดผลไม้ (AHA) : คือ กรดผลไม้ชนิดหนึ่ง สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยลดรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำ ได้
  • วิตามินซี (Vitamin C) : ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ลดเลือนรอยดำ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • Niacinamide (Vitamin B3) : ช่วยลดการอักเสบของผิว ลดรอยแดง และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น

4. รักษาด้วยเลเซอร์

Q-switched lasers เป็นเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง เหมาะกับการรักษาปัญหาเฉพาะจุด รวมทั้งช่วยทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ อย่าง กระ และจุดด่างดำต่าง ๆ ควรอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไปจึงจะเห็นผล และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนและมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวควบคู่กันไปด้วย

Tips : หลังจากทำเลเซอร์แล้วผิวจะมีความแห้งกร้านมากกว่าปกติ เพราะฉะนั้นจึงควรหามอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอเพราะผิวหลังเลเซอร์ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ยิ่งหากสามารถช่วยลดเลือนปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้เพื่อเสริมกับหัตถการที่ทำจะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่าง NIVEA Luminous630 Advanced Dark Spot Serum สูตรใหม่! ทรีทเม้นท์เซรั่มเข้มข้น ที่ผสานไทอามิดอล (Thiamidol) สารไบรท์เทนนิ่งที่ทรงพลังที่สุดจากนีเวีย ช่วยลดเลือนฝ้าแดด กระแดด และจุดด่างดำที่ฝังลึกสะสมนานนับ 10 ปี ช่วยลดเลือนฝ้าได้ถึง 82% สามารถจัดการได้ทั้งจุดดำที่มองเห็น และจุดดำที่ฝังลึกอยู่ใต้ชั้นผิวได้ถึงต้นตอ หากไม่รีบจัดการตั้นแต่เนิ่น ๆ อาจกลายเป็นจุดดำฝังลึกบนชั้นผิวได้ โดยครีมทาฝ้านีเวียไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหมือนครีมลอกฝ้า หรือ ครีมทาฝ้าตัวอื่น ๆ อีกทั้งยังจัดการปัญหากระแดดได้ลึกถึงต้นตอ ช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส อิ่มฟู นุ่มเด้ง ชุ่มชื้นถึงขีดสุดด้วยไฮยาลูโรนิกเข้มข้นถึง 2 เท่า เห็นผลจริงใน 2 สัปดาห์


การดูแลผิวหลังการรักษากระแดด

หลังการรักษากระแดด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยา หรือการทำเลเซอร์ ผิวจะบอบบางและไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้น การดูแลผิวอย่างถูกวิธี จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัว และป้องกันการเกิดกระแดดใหม่ ควรทาครีมบำรุงผิวที่อ่อนโยน เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และควรทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง และ PA+++ ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันผิวจากแสงแดด รวมถึงการเลือกครีมทาฝ้าที่เหมาะสม เพื่อช่วยลดเลือนรอยดำ ป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ และรักษาฝ้าเก่า วิธีที่ดีที่สุดในการรักษากระแดด และป้องกันกระแดดเกิดใหม่ คือ การดูแลผิวอย่างครบวงจร ทั้งการหลีกเลี่ยงแสงแดด การใช้ครีมกันแดด การใช้ครีมทาฝ้า และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

กระแดดนั้นไม่สามารถหายขาดเองได้โดยธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำหัตถการ เช่น เลเซอร์ การใช้ยาเฉพาะทาง หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพอย่าง นีเวีย ลูมินัส630 แอดวานซ์ ดาร์ค สปอต เซรั่ม (NIVEA Luminous630 Advanced Dark Spot Serum) ที่มีส่วนผสมของสารไทอามิดอล (Thiamidol) ช่วยลดเลือนกระแดดและจุดด่างดำฝังลึกได้ถึง 82% รวมทั้งควรป้องกันไม่ให้กระขึ้นเพิ่มบนบริเวณใบหน้า ซึ่งเราสามารถป้องการเกิดกระแดดบนใบหน้าได้โดยการหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงปัจจัยหลักที่จะทำให้เกิดกระแดดอย่าง “แสงแดด” อีกด้วย และเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ควรใช้ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทั้งเช้าและเย็น

คำถามที่พบบ่อย

  1. Q: กระแดด สามารถหายขาดได้ไหม?
    A: กระแดดสามารถรักษาได้ แต่ไม่สามารถทำให้หายขาด 100% โดยทั่วไปแล้ว กระแดดเกิดจากการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน ทำให้เม็ดสีในผิวหนังถูกกระตุ้นจนเกิดเป็นจุดสีน้ำตาลบนผิวหนัง ซึ่งมักพบได้ที่ใบหน้า แขน และหลังมือ
  2. Q: กระแดด สามารถหายขาดได้ไหม?
    A: กระแดดไม่สามารถหายไปเองได้ทั้งหมด แม้ว่าสีและความเข้มของกระแดดจะจางลงบ้างในช่วงที่ไม่ได้เผชิญกับแสงแดด แต่เมื่อกลับมาโดนแสงแดดอีกครั้ง กระแดดจะกลับมาสีเข้มขึ้นอีกครั้ง
  3. Q: กระแดดเป็นอันตรายไหม?
    A: กระแดดไม่เป็นอันตรายกับผิว แม้ว่ากระแดดจะไม่เป็นอันตราย แต่ผู้ที่มีปัญหานี้ควรให้ความสำคัญในการดูแลผิว โดยการหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดนาน ๆ และใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
  4. Q: รักษากระแดดด้วยเลเซอร์ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
    A: Q-switched lasers เป็นเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูง เหมาะสำหรับการรักษาปัญหาเฉพาะจุด เช่น กระและจุดด่างดำ โดยจะทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติในผิวหนัง โดยทั่วไปแล้วควรทำการรักษาอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป เพื่อให้เห็นผลที่ชัดเจน
  5. Q: กระแดด กับฝ้าต่างกันอย่างไร?
    A: กระแดดและฝ้ามีลักษณะที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดย กระ มักจะปรากฏเป็นจุดเล็ก ๆ ที่มีสีอ่อนหรือเข้มกว่าสีผิวปกติ มักพบในบริเวณที่โดนแสงแดด ขณะที่ ฝ้า มักมีลักษณะเป็นแผ่นปื้นที่มีสีเข้มกว่าผิวรอบข้าง มักเกิดขึ้นในบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก และคาง ซึ่งทำให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างสองปัญหาผิวนี้
  6. Q: เป็นกระแดดที่มือกี่วันหาย?
    A: โดยระยะเวลาขึ้นอยู่กับวิธีการรักษาและลักษณะของกระแดดเอง หากใช้วิธีการเช่นเลเซอร์ช กระแดดมักจะตกสะเก็ดและหลุดออกภายใน 5-10 วัน หลังการรักษา อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนของกระแดด รวมถึงการดูแลผิวหลังการรักษา หากมีการป้องกันและดูแลอย่างเหมาะสม ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานขึ้นและลดโอกาสในการเกิดกระแดดใหม่ได้

ทิปส์ที่น่าสนใจสำหรับคุณ