นีเวียปกป้องผิวคุณจากภัยร้ายของแสงแดดอย่างไร
ปกติแล้ว แสงแดดถือว่าดีต่อสุขภาพของเรา แสงอาทิตย์ช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนินที่ทำให้มีความสุข ดังนั้นดวงอาทิตย์จึงทำให้เรามีความสุข แสงอาทิตย์ช่วยให้เราเปล่งประกายงดงามและช่วยกระตุ้นให้ผิวผลิตวิตามินดีซึ่งมีหน้าที่พิเศษในการดูแลกระดูกให้แข็งแรง รวมถึงสุขภาพโดยรวมของเรา แต่สิ่งที่เรียกว่ารังสี UVA และ UVB ในแสงแดดกลับส่งผลเสียต่อผิวเรา รังสี UVB จะทะลุผ่านผิวชั้นบนสุด ทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดดที่ปวดแสบ นอกจากนี้ รังสี UVB สามารถทำลาย DNA ได้โดยตรงเนื่องจากมีระดับพลังงานสูง ซึ่งในกรณีเลวร้ายที่สุดอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ส่วนรังสี UVA จะทะลุผ่านผิวได้ลึกกว่า แม้ตามปกติ เราจะสัมผัสถึงรังสีเหล่านี้ไม่ได้เนื่องจากไม่ทำให้เราปวดแสบ แต่รังสีเหล่านี้ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระที่สามารถทำลายเซลล์และ DNA ซึ่งอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง รวมถึงภาวะเครียดอนุมูลอิสระจาก UVA ยังอาจทำให้เกิดอาการแพ้และริ้วรอยแห่งวัยได้เช่นกัน รู้ไหมว่าริ้วรอยประมาณ 80% เกิดจากรังสี UVA!
ดังนั้น เราจึงควรใช้เวลาท่ามกลางแสงแดดอย่างระมัดระวังโดยมีการปกป้องผิวจากแสงแดดอย่างเพียงพอ หนึ่งในวิธีปกป้องผิวที่แพร่หลายที่สุดก็คือการทาผลิตภัณฑ์กันแดด นีเวียมีบทบาทในการบุกเบิกผลิตภัณฑ์กันแดด (ครีมกันแดดสูตรแรกของนีเวียวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในปี 1936!) และทุกวันนี้ เรายังเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดอันดับ 1 ของโลก* เพราะความมุ่งมั่นด้านนวัตกรรมของฝ่ายวิจัยและพัฒนา
ผลิตภัณฑ์กันแดดของนีเวียมีส่วนผสมของสารป้องกันแสงแดดซึ่งจำเป็นต่อการปกป้องผิวคุณจากผลกระทบของแสงแดด ปกติแล้ว สารป้องกันแสงแดดมีสองประเภท ได้แก่ สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิก (หรือที่เรียกว่าสารกันแดดแบบเคมีคัล) ซึ่งจะดูดซับรังสี UV และเปลี่ยนพลังงานเป็นความร้อน กันแดดประเภทนี้จะมีข้อดี เช่น เกลี่ยง่ายหรือเป็นสูตรโปร่งแสง ส่วนสารป้องกันแสงแดดอีกประเภทก็คือสารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุ (หรือที่เรียกว่าสารกันแดดแบบฟิสิคัล) ซึ่งประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่ก่อตัวเป็นเกราะปกป้องผิวคุณเมื่อทากันแดด และเกราะเหล่านี้จะสะท้อนรังสี UV ออกไปเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผิว อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุเพียงอย่างเดียวจะเกลี่ยบนผิวได้ยากกว่า ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกเพียงอย่างเดียวหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทั้งสารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกและแบบแร่ธาตุจะเกลี่ยบนผิวได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ กันแดดที่ใช้สารป้องกันแสงแดดแบบแร่ธาตุเพียงอย่างเดียวอาจจะทิ้งคราบขาวจางๆ ไว้ ซึ่งจะหนาแตกต่างกันตามค่าในการป้องกันแสงแดด
นีเวียมีทั้งผลิตภัณฑ์กันแดดที่ใช้สารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกเพียงอย่างเดียวหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทั้งสารป้องกันแสงแดดแบบออร์แกนิกและแบบแร่ธาตุ เพื่อให้มั่นใจในการป้องกันแสงแดดที่น่าเชื่อถือ พร้อมมอบประสบการณ์อันน่าพึงพอใจสูงสุดในการใช้งานแต่ละโอกาส
*แหล่งข้อมูล: Euromonitor International Limited; NIVEA in the category Sun Care, incl. Sun Protection, Aftersun and Self-Tanning; in retail value terms, ข้อมูลปี 2018
ผลิตภัณฑ์กันแดดและปะการัง
นีเวียมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงปะการังซึ่งเป็นหนึ่งในระบบนิเวศทางทะเลที่หลากหลายที่สุด สิ่งมีชีวิตในทะเลประมาณหนึ่งในสี่ดำรงชีวิตโดยพึ่งพิงปะการัง เราทราบดีว่าสถานการณ์ของปะการังทั่วโลกกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติเพราะปัจจัยต่างๆ มากมายที่มีความซับซ้อน ส่งผลให้ปะการังลดลง สาเหตุหลักสองประการก็คือความผิดปกติของอุณหภูมิและสภาวะอากาศที่รุนแรงซึ่งสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก นอกจากนี้ ปัจจัยในพื้นที่ก็ส่งผลกระทบอย่างมากเช่นกัน ตัวอย่างเช่น มลภาวะจากภาคพื้นดินอันเกิดจากการเกษตรและการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่ง การประมงที่ไม่คำนึงถึงหลักความยั่งยืน รวมถึงการเพิ่มจำนวนของสิ่งมีชีวิตที่เป็นภัยต่อปะการัง
เมื่อเร็วๆ นี้ การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปะการังในสภาวะของห้องทดลองได้บ่งชี้ว่าสารกันแดดบางตัวอาจกระตุ้นให้เกิดภาวะปะการังฟอกขาว ซึ่งหลักๆ ได้แก่ Oxybenzone (benzophenone-3) และ Octinoxate (ethylhexyl methoxycinnamate) มลรัฐฮาวายจึงห้ามไม่ให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีสารป้องกันแสงแดดแบบเคมีคัลตั้งแต่ปี 2021
ผลิตภัณฑ์กันแดดของนีเวียในยุโรปไม่เคยใช้ Oxybenzone เนื่องจากสารป้องกันแสงแดดดังกล่าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงที่กำหนดไว้สำหรับกันแดดของเรา นีเวียจึงหยุดใช้ Octinoxate ในผลิตภัณฑ์กันแดดทั้งหมดที่ยุโรปตั้งแต่ต้นปี 2016 หมายความว่าผลิตภัณฑ์กันแดดทั้งหมดของนีเวียในยุโรปได้มาตรฐานตามกฎหมาย Hawaiian Reef Bill ก่อนที่กฎหมายจะบังคับใช้ในปี 2018 เสียอีก
นีเวียใช้เฉพาะสารป้องกันแสงแดดที่หน่วยงานกำกับดูแลที่เหมาะสมพิจารณาแล้วว่าปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ เราจะประเมินส่วนผสมที่เรามีว่าอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ส่วนผสมใหม่จะต้องผ่านมาตรฐานสูงสุดของเราและเราจะไม่ใช้ส่วนผสมดังกล่าวหากความรู้วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันและการประเมินความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคตอันเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเราได้บ่งชี้ว่าส่วนผสมเหล่านั้นเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยสารป้องกันแสงแดดและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยังคงอยู่ในขั้นแรกๆ เท่านั้น ทั้งยังเป็นการดำเนินการในห้องทดลองเป็นหลัก ดังนั้น จึงยังไม่มีความชัดเจนในทางวิทยาศาสตร์ว่าสารป้องกันแสงแดดส่งผลต่อปะการังรวมถึงสิ่งแวดล้อมทางทะเลในวงกว้างมากน้อยเพียงใดในสภาวะจริง
เราปรารถนาที่จะติดตามและทำงานด้วยการค้นพบล่าสุดเพื่อผลักดันนวัตกรรมที่ยั่งยืนมากกว่าให้สำเร็จลุล่วง ดังนั้น เราจึงแลกเปลี่ยนข้อมูลกับนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน และผู้ผลิตของเราอย่างจริงจัง เพื่อช่วยให้เราสามารถพัฒนาและตรวจสอบให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์กันแดดของนีเวียเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม