วิธีดูแลผิวหน้าให้เหมาะกับแต่ละสภาพผิว
สภาพผิวของเราแบ่งได้ 5 แบบ คือ ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม และผิวแพ้ง่าย โดยสังเกตความแตกต่างที่
ผิวธรรมดา
สภาพผิวจะไม่มันเยิ้ม ไม่แห้งกร้าน รูขุมขนจะเล็ก ผิวดูเรียบเนียน
ผิวแห้ง
จะมีสภาพผิวที่ค่อนข้างแห้ง มองเห็นร่องผิว มีรอยแตกลอกเป็นขุยได้ จึงมักเกิดรอยแดงหรือการอักเสบของผิวหนังได้
ผิวมัน
ผิวมีรูขุมขนกว้าง ดูไม่เรียบเนียน มีความมันวาวเนื่องจากมีซีบัม หรือน้ำมันเคลือบบนผิวหน้า มักเกิดสิวได้ง่าย
ผิวผสม
ที่มักจะผสมกันระหว่างผิวมันบริเวณทีโซนกับผิวแห้งในบริเวณที่เหลือ จึงต้องดูแลผิวแต่ละบริเวณให้เหมาะสม
ผิวแพ้ง่าย
เป็นผิวหน้าที่อ่อนไหวเป็นพิเศษจากสิ่งกระตุ้น เช่น แสงแดด และจะเกิดอาการแพ้ขึ้นเป็นผื่น รอยแดง ที่อาจมีการอักเสบ ผิวลอกหรือแตกร่วมด้วย
Reference: https://www.romrawinclinic.com, https://skinx.app
เมื่อเราเริ่มรู้จักชนิดของผิวหน้าเราแล้ว โดยเฉพาะผิวมัน เราจะดูแลหรือแก้ปัญหาผิวหน้าเราอย่างไร ให้กลับมาสมดุล ผิวใส ปราศจากสิวกัน
เทคนิคการดูแลผิวมัน
ล้างหน้า
เริ่มจากขั้นตอนการดูแลผิวในแต่ละวันก่อนเลย ว่าเราเริ่มต้นวันใหม่ด้วยการล้างหน้าเช้าเย็น วันละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะหลังแต่งหน้ามาทั้งวัน แต่อย่าล้างหน้าบ่อยเกินไป หน้าจะแห้งจะยิ่งไปกระตุ้นให้หน้าเราผลิตน้ำมันออกมากเกินไปอยู่ดี
ส่วนโฟมหรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้านั้น ควรเลือกแบบที่ออกแบบมาเพื่อผิวมันโดยเฉพาะ เพื่อการควบคุมความมันส่วนเกิน บางสูตรช่วยควบคุมความมันระหว่างวันได้ด้วย หรือบางสูตรช่วยลดรอยดำรอยคล้ำจากสิวได้ด้วย ซึ่งขั้นตอนนี้ คือ ขั้นตอนที่เราต้องใช้เวลาทดลอง ค้นหากับตัวเราเองดีที่สุด
ดูแลระหว่างวัน
ส่วนการดูแลผิวมันระหว่างวัน แนะนำให้เราซับน้ำมันส่วนเกินออกด้วยกระดาษซับมัน คือ ซับลงไปในแต่ละที่ ที่ละ 15-20 วินาที แล้วเปลี่ยนแผ่นใหม่ เช่น หน้าผาก จมูก แก้ม และคาง อย่าใช้แผ่นเดียวซับทั้งหน้า
เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
โดยการใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับผิวมันโดยเฉพาะ ซึ่งมักจะมีส่วนผสมของ BHA (Beta Hydroxy Acid) LHA (Beta Lipohydroxy Acid) ที่ซึมเข้ารูขุมขนและต่อมไขมัน เพื่อลดการอุดตันในรูขุมขน ดื่มน้ำสะอาด 1-2 ลิตร โดยค่อยๆ จิบระหว่างวันให้เพียงพอต่อร่างกายของเรา ลดการกินอาหารมัน อาหารรสจัด หรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง หรือเลือกผลิตภัณฑ์แบบ Oil Free และอย่าลืมทาครีมกันแดดด้วย
ส่วนสายธรรมชาติสามารถมาส์กหน้าด้วย น้ำผึ้งผสมข้าวโอ๊ต, ว่านหางจระเข้ หรือแตงกวา โดยการทาบางๆ พอกหน้าไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วล้างออก ทำได้ทุกวัน วันละ 1 ครั้ง แต่ต้องใช้เวลาซักระยะหนึ่ง จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน
ที่จริงแล้วผิวมันเองก็มีข้อดีนะ ด้วยความที่ผิวมีซีบัมเคลือบ จึงช่วยให้ผิวเก็บความชุ่มชื้นได้มากกว่าผิวชนิดอื่นๆ และจึงเป็นเหตุผลที่ผิวมันจะเกิดริ้วรอยได้ยากกว่าผิวชนิดอื่น