วิธีการป้องกันผิวจากแสงแดด
เมื่อเรารู้จักต้นเหตุแล้ว มาวางแผนดูแลและปกป้องผิวหนังกันดีกว่า เราสามารถปรับให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเรา ได้ตามความเหมาะสมเลยนะ
หลีกเลี่ยงแสงแดด
เริ่มจากเลี่ยงแสงแดดช่วง 10.00-16.00 น. เพื่อหลีกเลี่ยงการโดน UVB โดยตรง ใช้ร่มกันแดดหรือสวมหมวกถ้าต้องออกแดด สวมเสื้อแขนยาวเพื่อปกป้องการสัมผัสแสงแดดโดยตรงกับผิวหนัง สวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันต้อกระจก
ใช้โลชั่นกันแดดหรือครีมกันแดดเป็นประจำ
ควรใช้เป็นประจำทุกวันทั้งใบหน้าและลำตัว (ที่มักเป็นส่วนที่เราไม่ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่ ส่วนมากจะทาครีมกันแดด เมื่อจะออกแดดมากกว่า) อย่าลืมว่า UVA นั้นทะลุทะลวงได้ดีมาก เพราะงั้นการสวมเสื้อแขนยาวหรือกางร่มกัน UV ก็ไม่เพียงพอที่เราจะปกป้องร่างกายจาก UVA ได้นะ ส่วนการดูว่าบอดี้โลชั่นไหนปกป้องแสงแดดได้ดีแค่ไหน เราจะดูจากค่า SPF หรือ Sun Protection Factor สำหรับ UVB ที่มีค่าตั้งแต่ 2-50 (หรือบางทีถึง 100 เลยก็มี) แปลว่าเราสามารถตากแดดได้นานขึ้น...เท่า เมื่อเราใช้กันแดดนี้กัน UVB ซึ่งค่า SPF ที่เราควรเลือกจะอยู่ในช่วง SPF15-30 ก็จะให้เราทนทานในการตาก UVB ในแบบไลฟ์สไตล์ทั่วไป ที่ไม่ได้ออกแดดจัดโดยผิวไม่คล้ำได้
และค่า PA หรือ Protection Grade of UVA สำหรับ UVA ที่แสดงระดับการปกป้องตั้งแต่ + จนถึง ++++ และการแปลความหมายก็คือ เราสามารถตากแดดได้นาน...เท่าก่อนที่ผิวจะคล้ำจาก UVA เป็นการวัดประสิทธิภาพการป้องกัน UVA เป็น Persistent Pigment Darkening (PPD) หรือจำนวนเท่านั่นเอง (เช่นเดียวกันกับค่า SPF เลือกตามค่าที่เราต้องการก็เพียงพอแล้วล่ะ)
การอ่านค่า PA
PA+ |
คือ PPD 2-4 |
PA++ |
คือ PPD 4-8 |
PA+++ |
คือ PPD 8-16 |
PA++++ |
คือ PPD >16 |