ผิวกระจ่างใสไม่กลัวแดด

คู่มือเซรั่มผิวกายและครีมทาผิว สำหรับมือใหม่ เพื่อผิวกระจ่างใส สุขภาพดี

เคยสงสัยกันไหม ว่าเราควรเริ่มใช้ครีมทาผิวหรือเซรั่มทาผิวเมื่อไหร่ แล้วโลชั่น ครีม เซรั่ม หรือขี้ผึ้ง มีคุณสมบัติต่างกันอย่างไร เราควรเลือกใช้แบบไหนดี หรือการใช้น้ำมันแบบธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าวหรือเบบี้ออยจะเหมาะกับผิวเราและช่วยปกป้องผิวเราจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้จริงไหม หรือถ้าเราทำงานในห้องแอร์เกือบทั้งวัน ที่มีแนวโน้มว่าผิวเราน่าจะแห้งแน่ๆ ควรใช้อะไรดี หรือถ้าเราต้องออกไปข้างนอกโดนแดดเปรี้ยงตอนเที่ยงวันกับแก๊งมื้อเที่ยงเราต้องใช้อะไรดี เดี๋ยวเราจะสรุปรายละเอียดต่างๆ ให้ครบจบในที่เดียวกันเลย

ทำไมต้องใช้ครีมทาผิวหรือใช้เซรั่มบำรุงผิวด้วย

เรามาตั้งต้นจากสาเหตุก่อนว่า เราจำเป็นต้องใช้ครีมทาผิวกันไหม การดูแลผิวนั้นไม่เพียงแค่ดูแลผิวหน้าก็พอ เราควรดูแลผิวให้ครอบคลุมทั้งตัวด้วย ลองมานั่งคิดดูแล้วเราว่าจุดเริ่มต้นของการดูแลผิว น่าจะเป็นช่วงที่เข้ามัธยมต้นหรือมัธยมปลายของแต่ละคน ส่วนสาเหตุนั้นก็เริ่มจากการเริ่มใส่ใจดูแลผิวและรูปร่างตามวัย เริ่มดูแลสุขภาพผิวก่อนที่จะเกิดปัญหาผิวและสิว ที่จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงตามฮอร์โมนของช่วงวัยรุ่น

ครีมทาผิวมีกี่ชนิดใช้ต่างกันอย่างไร

ชนิดของครีมทาผิวนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ใหญ่ๆ ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน คือ

1. ครีมทาผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

เป็นครีมทาผิวที่เน้นส่วนผสมทำให้ผิวกลับมาอิ่มฟู มีความชุ่มชื้น ที่จะช่วยทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ที่ผิวด้วย ส่วนผสมหลักที่ว่าก็จะประกอบไปด้วย กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid) ที่ช่วยให้ผิวอิ่มฟูและยืดหยุ่น, เชียบัตเตอร์ (Shea Butter) ที่เป็นไขมันจากธรรมชาติจากต้นเชีย ที่ช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวนุ่มและมีวิตามินที่ดีต่อผิวหลายชนิด และกลีเซอร์รีน (Glycerin) ที่เป็นส่วนผสมหลักในสกินแคร์ช่วยดึงน้ำเข้าผิวให้ผิวดูอิ่มฟู ไม่แห้งเป็นขุย และช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว

2. ครีมทาผิวเพื่อปรับสภาพผิว

มีส่วนผสมที่เน้นการแก้ปัญหาผิวต่างๆ เช่น ครีมทาตัวลดความหมองคล้ำ โดยใช้ครีมทาผิวนี้ช่วยปรับสภาพผิวตามที่เราต้องการ มีส่วนผสมหลักคือ วิตามินที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใสและช่วยลดอนุมูลอิสระ (Vitamin A, C และ E), เซราไมด์ (Ceramide) หรือสฟิงโกไลปิด (Sphingolipid) ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ทำให้ผิวเราอุ้มน้ำได้ ช่วยให้ผิวแข็งแรง ลดการสูญเสียน้ำ ไปอุดรอยรั่วของชั้นผิว และสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Antioxidant) หรือสารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารที่ไปจับกับอนุมูลอิสระ (Free Radicle) ซึ่งก็คืออิเล็กตรอนอิสระที่หลุดออกจากอะตอม ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว อาจจะเกิดจากมลพิษรอบตัวเราที่สูดเข้าไป หรือเกิดจากการย่อยอาหารก็ได้ ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันแบบลูกโซ่ (Chain Oxidation Reaction) คือ อิเล็กตรอนอิสระตัวนี้จะไปแย่งจับคู่สารอื่นในร่างกายเพื่อให้ตัวมันเสถียรซึ่งก็จะเกิดต่อไปเรื่อยๆ เป็นทอดๆ

ประเภทของครีมทาผิว มีแบบไหนบ้าง ใช้ต่างกันอย่างไร

จากที่เราเห็นโฆษณามากมายแล้วสงสัยไหมว่าครีมทาผิวนั้นมีกี่แบบ แล้วควรเลือกแบบไหนดี เราสามารถแบ่งลักษณะจากผิวสัมผัสหรือเนื้อครีมตามความเข้มข้นสุดไปจนถึงเนื้อครีมที่เบาสุดได้ 6 แบบ คือ


ประเภทครีมทาผิว, เจลทาผิว, ครีมทาผิวแบบต่างๆ

1. ครีมทาผิว

เป็นเนื้อครีมที่เข้มข้นสุด มีส่วนผสมของน้ำมันมากสุดในบรรดาเนื้อครีมทั้งหมดจึงทำให้เนื้อครีมซึมสู่ผิวได้ช้าสุด เหมาะกับการใส่ส่วนผสมบำรุงผิวได้มากขึ้น หรือบางชนิดก็เป็นเนื้อครีมข้นเหมือนเนยที่เรียกว่า บอดี้บัตเตอร์ (Body Butter) หรือเป็นแบบแว็กซ์ (Wax) ที่เน้นให้ความชุ่มชื้นกับผิวขั้นสุด ที่เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งมากๆ หรือเวลาที่เราไปประเทศที่อากาศหนาวแล้วอากาศแห้งมากๆ จนผิวลอกสิ่งนี้เหมาะกับคุณ ส่วนคนที่มีผิวมันหรือผิวอุดตันเป็นสิวง่ายควรหลีกเลี่ยงครีมประเภทนี้

2. โลชั่นทาผิว

เป็นครีมทาผิวที่มีเนื้อเป็นของเหลวโดยมีส่วนผสมหลักคือน้ำมากกว่าน้ำมัน จึงซึมสู่ผิวได้ง่ายกว่า ไม่รู้สึกเหนอะหนะ และเป็นที่นิยมในตลาดมากที่สุดเพราะสามารถบำรุงผิวได้แบบพอดี รู้สึกผิวไม่แห้งแต่ไม่เหนียวเหนอะ ด้วยความที่เป็นที่นิยมนี้เอง จึงมีการผสมสารบำรุง วิตามิน สารสกัดจากพืชต่างๆ และครีมกันแดดเข้าไว้ด้วยเลย เหมาะมากสำหรับคนผิวผสมและผิวมัน หรือในโลชั่นบางสูตรก็เน้นเพิ่มครีมบำรุงแบบจัดเต็มจึงเหมาะกับคนผิวแห้งที่ไม่อยากใช้ครีมทาตัวได้ด้วย


3. เซรั่มทาผิว

เป็นตรงกลางระหว่างเนื้อครีมกับเนื้อโลชั่นแต่มีเนื้อที่ใสเหมือนน้ำกว่าโลชั่นแต่ยังมีความเหนียวอยู่เล็กน้อย เพื่อเน้นการซึมสู่ผิวได้ไว จะเป็นครีมทาผิวที่ต้องการการบำรุงแบบเร่งด่วนที่เน้นการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากส่วนผสมที่เข้มข้นกว่าโลชั่น เช่น พวกเซรั่มบำรุงผิวต่างๆ ที่มีส่วนผสมของสารบำรุงแบบเข้มข้นเหมาะกับทั้งคนที่มีผิวมัน หรือผิวแห้งที่ต้องการการบำรุงแบบเข้มข้น

4. เจลทาผิว

เป็นครีมที่มีเนื้อครีมที่อุ้มน้ำไว้มากจนมีเนื้อใสเพราะมี พอลิเมอร์ (Polymer) เป็นส่วนประกอบ ส่วนมากจะเป็นเจลบำรุงก่อนนอนหรืออายเจล (Eye Gel) ที่ใช้แล้วจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณนั้นได้อย่างเต็มที่ ผิวจะได้อิ่มฟู ชุ่มชื้น และช่วยป้องกันริ้วรอยได้ หรือเน้นใช้เฉพาะจุดได้แบบไม่ทิ้งคราบ เช่น เจลแต้มสิวต่างๆ ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่ถ้าผิวแห้งมากอาจจะต้องทาหลายครั้งจึงควรใช้ครีมทาผิวแบบโลชั่นหรือเนื้อครีมมากกว่า

5. อิมัลชั่นทาผิว

เป็นครีมลูกผสมระหว่างเจลกับโลชั่นที่จะทั้งดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายและช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นไปด้วยแต่ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะผิว เหมาะกับผิวมันและผิวผสม ส่วนมากจะใช้เป็น Day Cream ที่ไม่ทำให้หน้ามันเยิ้มจากการแต่งหน้า

6. เอสเซนส์ทาผิว

ครีมทาผิวแบบสุดท้ายมีเนื้อใสใกล้เคียงน้ำที่สุดที่เรียกว่า Water Base ส่วนมากจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในแถบเอเชียที่เน้นการฟื้นฟูผิวด้วยการบำรุงจากภายในแบบเข้มข้นเพราะเน้นครีมซึมเข้าผิวได้ง่ายสุดแล้ว เหมาะกับผิวทุกแบบและคนที่มีอาการแพ้น้ำมันในครีมทาผิว แต่ถ้าต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวมากกว่าควรเลือกเนื้อครีมแบบอื่นจะเหมาะกว่า


ส่วนผสมสำคัญที่ควรมีในครีมทาผิว

เราได้รู้จักประเภทของครีมกันไปแล้ว ต่อไปเราจะมารู้จักส่วนประกอบสำคัญที่ครีมทาผิวควรต้องมีกันบ้าง เพื่อที่เราจะได้เลือกให้เหมาะกับผิวของเราและเลือกได้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งานด้วย นั่นเป็นที่มาว่า ทำไมเราถึงมีครีมทาผิวหลายแบบเพราะกิจกรรมที่ต่างกันก็ต้องการครีมที่เหมาะกับผิวของเราที่ต่างกัน


สารให้ความชุ่มชื้น (Humectants)

เป็นสารที่ช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำไว้บนผิว สารที่นิยมใช้ คือ น้ำ (Water), กลีเซอรีน (Glycerin), กรดแลคติค (Lactic Acid) ที่เป็น AHA ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่มักจะพบในครีมทาผิวขาว, กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic Acid), เซลาไมด์ (Ceramide) ที่ช่วยทั้งเพิ่มความชุ่มชื้นและลดการสร้างเม็ดสีที่เหมาะกับคนผิวแพ้ง่าย และยูเรีย (Urea)

สารหล่อลื่น (Emollients)

เป็นสารที่ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น เช่น น้ำมันแร่ (Mineral Oil), ซิลิโคน (Silicone), ลาโนลิน (Lanolin) และกรดไขมัน (Fatty Acid) ที่ได้จากพืช เช่น ไขมันจากมะกอก ไขมันจากอโวคาโด

สารกันเสีย (Preservatives)

เป็นสารยืดอายุการใช้งานครีมทาผิวที่ป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ ส่วนมากจะเป็น พาราเบน (Paraben), กรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid), โซเดียมไฮดรอกไซด์ (Sodium hydroxide)

สารอื่นๆ (Additional ingredients)

นอกจากส่วนผสมหลักแล้ว ยังมีส่วนผสมเพิ่มเติมที่ช่วยทั้งปรับสภาพผิวและทำให้ครีมทาผิวมีความน่าใช้มากขึ้น เช่น สารกันแดด (Sunscreen), สารบำรุงผิว (Skin care ingredients) ต่างๆ เช่น วิตามินบี 3 (Nicotinamide) ที่ช่วยลดจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ, วิตามินซีหรือกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ที่ช่วยลดการเกิดเม็ดสีและมีส่วนกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน, วิตามินอี (Vitamin E) ที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ, สารเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว, สารช่วยลดเลือนริ้วรอยทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เช่น คอลลาเจน (Collagen), สารช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ, สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กลูตาไธโอน (Glutathione) ที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์, ไทโรซิเนสที่สร้างเม็ดสี และสารแต่งกลิ่น (Fragrances) หรือน้ำมันหอมระเหยต่างๆ


ครีมทาผิว, ส่วนผสมสำคัญในครีมทาผิวที่ควรมี

วิธีการเลือกซื้อครีมทาผิวให้ได้ผิวกระจ่างใสสุขภาพดี

การเลือกซื้อครีมทาตัวให้ได้ผิวกระจ่างใส สุขภาพดีนั้นไม่ยาก เริ่มจาก

เลือกครีมให้เหมาะกับสภาพผิวตัวเอง

เราต้องรู้ว่าผิวตัวเราเป็นผิวแบบไหน เหมือนผิวหน้าเราหรือเปล่า เช่น ถ้าเราเป็นคนออกกำลังกายบ่อยเหงื่อออกง่ายผิวตัวเราก็จะเป็นผิวมัน หรือถ้าเราเข้าห้องแอร์แล้วผิวลอกง่ายเป็นขุยก็แสดงว่าตัวเราเป็นผิวแห้ง

หลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้

สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ก่อนตัดสินใจซื้ออยากให้อ่านสารประกอบด้านหลังขวดก่อนว่า มีสารตัวไหนที่เราแพ้บ้างเพื่อให้เราหลีกเลี่ยงได้ หรือแม้แต่สารบางชนิดที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น พาราเบน ถ้าเราสามารถทดลองใช้เพื่อทดสอบอาการแพ้ก่อนซื้อได้ดีที่สุด หรือหลีกเลี่ยงการใช้สารนั้นๆ ได้ยิ่งดี

เลือกครีมที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน

การเลือกแบรนด์ครีมทาตัวที่ผ่านการวิจัยรองรับ ผ่านการทดสอบการใช้งานแล้ว ย่อมปลอดภัยกว่าการสุ่มเลือกใช้จากแบรนด์ที่เราไม่รู้จักแน่นอน ดังนั้นเราสามารถค้นหา ผลการทดลองหรือการอ่านรีวิวการใช้งานก็จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น

เลือกครีมทาตัวที่มีส่วนผสมของสารกันแดด

การปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การใช้ครีมทาตัวที่มีส่วนผสมของสารกันแดด สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และป้องกันไม่ให้ผิวเสียจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อเลือกซื้อครีมทาตัวที่มีสารกันแดด ควรคำนึงถึงค่า SPF ที่เหมาะสมกับกิจกรรมประจำวัน หากต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF สูงเพื่อการปกป้องที่ยาวนาน และอย่าลืมเลือกครีมที่มีส่วนผสมช่วยบำรุงผิว เช่น วิตามินอี หรือสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง การใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงแต่จะช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของแสงแดด แต่ยังช่วยให้ผิวของคุณดูสดใสและสุขภาพดีอีกด้วย

เลือกครีมทาผิวที่ช่วยแก้ปัญหาผิวแบบตรงจุด


นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไบรท์ ซี แอนด์ เอ วิตามินโลชั่น

เลือกครีมทาผิวที่ช่วยแก้ปัญหาผิวแบบตรงจุด

แต่ละคนมีสภาพผิวที่ต่างกัน เราต้องดูผิวตัวเองก่อนว่าเราต้องการแก้ปัญหาผิวเรื่องไหนบ้าง เช่น ถ้าผิวเราคล้ำเสียจากการออกแดดหรือมีจุดดำเกิดขึ้นหลังออกแดด เราขอแนะนำ นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไบรท์ ซี แอนด์ เอ วิตามินโลชั่น ที่เป็นโลชั่นช่วยแก้ปัญหาผิวคล้ำเสียให้กลับมามีสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น ที่มีทั้งวิตามินซีและวิตามินเอ มี UV ฟิลเตอร์กันแดด เนื้อบางเบาซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายที่เหมาะกับทุกสภาพผิวเลย

Review: https://www.gurucheck.co.th, https://www.cosmenet.in.th


ส่วนคนที่ต้องการแก้ปัญหาเรื่องรอยฝ้าจากการออกแดดจัด เราแนะนำ นีเวีย 10 ซูเปอร์วิตามิน&สกินฟู้ด บอดี้ เซรั่ม ยูธ โพรเทค ที่เป็นบอดี้เซรั่มเนื้อบางเบาเหมาะกับทุกสภาพผิวที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำฝังลึกที่แก้ยากให้ลดเลือนลง มีสารสกัดจากโกลเดนฟรุต (พีช, ไลม์, แอปริคอต และมะม่วง) ที่เต็มไปด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์และยังช่วยให้ผิวกระชับขึ้น และมีสารกันแดด SPF15 ให้ด้วย

Review: https://daisy.jeban.com, @keng


นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไบรท์ ซูเปอร์ ซี พลัส
นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไบรท์ ซูเปอร์ ซี พลัส

ส่วนใครที่มีกิจกรรมที่ต้องออกแดดค่อนข้างบ่อย นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไบรท์ ซูเปอร์ ซี พลัส เหมาะกับคุณ เพราะนี่คือ วิตามินเซรั่มที่มีวิตามินสูงถึง 50 เท่าช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสได้ดีมาก ยังมีสารกันแดด SPF50 PA+++ ที่เหมาะสำหรับคนตากแดดที่ช่วยป้องกันทั้ง UVA และ UVB ครบจบแน่นอนและยังเหมาะกับทุกสภาพผิว ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะผิวด้วย

Review: https://pantip.com/, https://www.cosmenet.in.th


ส่วนคนที่เจอปัญหาผิวหลังจากออกแดดเราแนะนำ นีเวีย เอ็กซ์ตร้าไบรท์ รีแพร์ แอนด์ โพรเทค SPF30 พีเอ++ บอดี้โลชั่น ที่นอกจากมีวิตามินซี 40 เท่าแล้วยังมี 8 สุดยอดอาหารผิวที่มาช่วยปรับสภาพผิวให้กลับมาสดใสสุขภาพดี มี SPF30 PA++ ที่ช่วยกันแดดด้วย จึงเหมาะกับการใช้ตอนกลางวันและใช้ได้ทุกสภาพผิว

Review: https://www.cosmenet.in.th

อีกหนึ่งสูตรจากนีเวียที่เหมาะกับการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและทำให้ผิวเรียบเนียนได้ใน 2 สัปดาห์ คือ นีเวีย เอ็กซ์ตร้า ไบรท์ เรเดียนท์ แอนด์ สมูท บอดี้ โลชั่น ที่เราว่าเหมาะกับการใช้ทาก่อนนอนเพราะนอกจากมีวิตามินซี 40 เท่าจาก 8 สุดยอดอาหารผิวที่มีวิตามินซีจัดเต็ม เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 24 ชั่วโมงแล้ว ยังมี UV ฟิลเตอร์อีกด้วย

Review: https://www.cosmenet.in.th, https://www.vanilla.in.th


นีเวีย เอ็กซ์ตร้าไบรท์ รีแพร์ แอนด์ โพรเทค SPF30 พีเอ++ บอดี้โลชั่น
นีเวีย เอ็กซ์ตร้าไบรท์ พรีเมียมฟราแกรนซ์ เวลเว็ท โรแมนซ์ พีโอนี เซรั่ม, นีเวีย เอ็กซ์ตร้าไบรท์ พรีเมียมฟราแกรนซ์ มิราเคิล สวีท สวีท แพร์ เซรั่ม

และอีก 2 เซรั่มทาผิวที่เราอยากแนะนำ คือ นีเวีย เอ็กซ์ตร้าไบรท์ พรีเมียมฟราแกรนซ์ เวลเว็ท โรแมนซ์ พีโอนี เซรั่ม และ นีเวีย เอ็กซ์ตร้าไบรท์ พรีเมียมฟราแกรนซ์ มิราเคิล สวีท สวีท แพร์ เซรั่ม ที่เป็นเซรั่มที่เน้นการบำรุงผิวให้กระจ่างใสทั้งคู่ด้วยวิตามินซีเข้มข้น 50 เท่า ทำให้ผิวเราสม่ำเสมอ มี UV ฟิลเตอร์ช่วยกรอง UV และมีจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ ความหอม ซึ่งความหอมจะติดผิวเรายาวนานถึง 12 ชั่วโมง

Review: https://www.sanook.com

สรุปแล้วการเลือกครีมทาผิวไม่ว่าจะเพื่อบำรุงให้ผิวเรากระจ่างใสสุขภาพดี หรือเพื่อปรับสภาพผิวต่างๆ เช่น ไปทะเลมาแล้วผิวคล้ำลง ถ้าเราเข้าใจเรื่องครีมทาผิวแบบจริงจังเราจะเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้เหมาะกับตัวเราที่สุด ค่อยๆ ทำความเข้าใจผิวของตัวเรา ค่อยๆ เลือกสิ่งที่ใช่สำหรับเราที่สุดไปด้วยกัน เพื่อผิวสวย สุขภาพดี ที่ใครเห็นต้องทักกันเลย

Reference: https://www.pobpad.com, https://www.rosrin.com, https://bangkokpattayahospital.com, https://www.revomed.co.th, https://www.beautycosmet.com, https://www.bangkokbiznews.com,https://pantip.com


เคล็ดลับที่น่าสนใจสำหรับคุณ