ครีมกันแดดหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย ยี่ห้อไหนใช้ดีไม่มีอุดตัน

ด้วยสภาพอากาศของบ้านเราที่มีแดดค่อนข้างแรง จึงเป็นเรื่องปกติมากที่เราต้องหาเกราะป้องกันผิวของเราเอง และสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เราเข้าใจว่าการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวโดยเฉพาะผิวหน้านั้น ต้องมีความรอบคอบในระดับนึงเลยใช่ไหม เพราะอาการแพ้ครีมกันแดดนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกคน บางครั้งเราก็ต้องเริ่มจากการทดสอบใช้ผลิตภัณฑ์แล้วดูว่าผิวหน้าหรือผิวกายเราแพ้ส่วนผสมหรือเปล่า ก่อนที่เราจะไปเลือกครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย จะดีกว่าไหมถ้าเรารู้จักอาการแพ้ครีมกันแดดก่อนว่าเป็นอย่างไร เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเอาผิวหน้าเราเองไปทดลองโดยตรงด้วยข้อมูลที่เราเตรียมมาให้อ่านกัน

6 สัญญาณของอาการแพ้ครีมกันแดด

เราควรมาค้นหาต้นตอของอาการแพ้ครีมกันแดดกันหน่อยว่า เกิดจากอะไรได้บ้าง เพื่อให้เราสามารถเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับเราที่สุดโดยที่ไม่เกิดอาการแพ้ อย่างที่เรารู้กันว่าครีมกันแดดในปัจจุบันมี 3 แบบ คือ

แบบฟิสิคอล (Physical) ที่เป็นครีมกันแดดที่ไม่มีสารเคมีเลย ไม่ทิ้งสิ่งตกค้างบนผิวเรา แต่จะมีส่วนผสมของซิงค์และไทเทเนียมที่ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ โดยครีมจะทำหน้าที่สะท้อนแสง UV บนผิวออกไป

แบบเคมีคอล (Chemical) ที่มีการผสมสารเคมีลงไปในครีมเพื่อดูดกลืนรังสี UV ไว้บนผิว ไม่ให้ UV ทะลุลงไปถึงชั้นหนังแท้จึงทำให้เกิดความร้อนขึ้นที่ผิวหนัง ในบางคนอาจเกิดรอยไหม้บนผิวได้และเจ้าสารเคมีที่ผสมอยู่นี้เองที่อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ในบางคน เช่น แอลกอฮอล์เพื่อให้เป็นตัวทำละลายส่วนผสมต่างๆ เข้าด้วยกัน เพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยยืดอายุการใช้งานของครีมกันแดดแต่อาจทำให้เกิดการอุดตันใต้ผิว, ซิลิโคนเพื่อให้ครีมกันแดดติดทน ทำให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น, พาราเบนที่เป็นสารกันเสียในสกินแคร์ต่างๆ น้ำหอมหรือน้ำมันหอมระเหยเพื่อแต่งกลิ่นหรือกลบกลิ่นครีมกันแดด และ Octyl Methoxycinnamate หรือ Octinoxate ที่เป็นสารกันแดด UVB ที่ใช้นานๆ อาจจะสะสมเข้าสู่ร่างกายได้

และแบบผสม (Hybrid) ที่จะรวมการทำงานทั้ง 2 แบบเข้าด้วยกันที่มีอยู่ในครีมกันแดดรุ่นใหม่ๆ

1. สิวขึ้นทันทีหลังใช้ครีมกันแดด

เมื่อเราทากันแดดแล้วเริ่มเห็นว่ามีสิวขึ้นที่ใบหน้า และปริมาณสิวก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เราเริ่มใช้ครีมกันแดดนี้ ให้เราคิดไว้ก่อนเลยว่าเราอาจจะแพ้หรือเปล่า แต่อยากให้ดูอาการในข้ออื่นๆ เพิ่มเติมด้วย

2. รู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหน้าหลังทาครีมกันแดด

เมื่อเราทากันแดดไปแล้วผิวหน้าเรามีอาการแสบร้อน ข้อนี้อยากให้เราสันนิษฐานก่อนเลยว่าน่าจะเกิดอาการแพ้แบบเฉียบพลัน อยากแนะนำให้ล้างครีมกันแดดออกก่อน แล้วสังเกตต่อว่าอาการแสบร้อนลดลงไหม

3. ผิวแห้งลอกผิดปกติ

เมื่อทาครีมกันแดดไปซักพัก เริ่มเห็นว่ามีผิวลอก แดงเห่อผิดปกติ นั่นอาจจะเป็นอีกสัญญาณบอกว่า เราแพ้ครีมกันแดด แต่อย่าลืมว่าต้องสังเกตปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น บางคนไปผจญอากาศหนาวจัดมา หรือไปตากแดดจัดจากการดำน้ำมา ก็อาจทำให้ผิวเราลอกหรือแดงเห่อได้อยู่แล้ว

4. มีผื่นขึ้นเป็นปื้น

ข้อนี้ชัดเจนมากว่าหน้าเรากำลังแพ้อะไรบางอย่าง และถ้ามีผื่นขึ้น หรือรู้สึกระคายเคืองหลังจากทากันแดด ให้ล้างหน้าออกทันที และไปพบแพทย์โดยนำครีมต้องสงสัยติดมือไปด้วย

5. ผิวไวต่อแสง

อาการนี้อาจเกิดได้ในคนที่แพ้แดดร่วมด้วย สำหรับคนที่ไม่เคยมีอาการโดนแสงแดดแล้วรู้สึกแสบร้อนแต่วันที่เราทาครีมกันแดดตัวใหม่แล้วพอโดนแสงแดดกลับรู้สึกหน้ายิบๆ หรือมีอาการแสบร้อน ให้สังเกตดูว่าเกิดขึ้นทุกวันที่เราครีมกันแดดหรือเปล่า

6. มีตุ่มขาวหรือตุ่มแดงเล็กๆ ขึ้นบนใบหน้า

สำหรับอาการแพ้แบบเฉียบพลันที่เห็นได้แบบชัดเจนอีกอย่างคือ เริ่มมีตุ่มขึ้นที่ใบหน้า เป็นได้ทั้งแบบตุ่มน้ำใส หรือตุ่มแดงที่เหมือนมีการอักเสบเกิดขึ้น ซึ่งถ้ามีอาการตามนี้ ควรไปพบแพทย์โดยด่วนและอย่าปล่อยไว้เด็ดขาด

ผิวแพ้ง่าย เป็นสิว ควรเลือกครีมกันแดดอย่างไร

สรุปแล้วผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่เป็นสิวง่าย ควรเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของสิ่งที่อาจจะไปกระตุ้นการแพ้ของแต่ละคนได้ เช่น ไม่มีพาราเบน ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีซิลิโคน และไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม หรือ Octyl Methoxycinnamate หรือ Octinoxate ไว้ก่อน

ถัดมาคือเราต้องเข้าใจกลไกของการกันแดดเพื่อที่เราจะได้อ่านฉลากให้เข้าใจในตอนเลือกซื้อ คือ คำว่า SPF และ PA ว่ามันคืออะไรกัน SPF หรือ Sun Protection Factor คือ หน่วยวัดการป้องกันแสง UVB ส่วน PA คือ ค่าระดับการปกป้องผิวจาก UVA ซึ่งการอ่านค่าคือ จำนวนเท่าของเวลาที่เราสามารถอยู่ท่ามกลางแสงแดดได้ (เพื่อให้เราออกแดดได้นานขึ้นจากค่าที่เราเลือกใช้) เช่น SPF 50 PA+++ ก็คือ ครีมกันแดดที่มีสารปกป้อง UVB ได้นาน 50X30 = 1500 นาที และป้องกัน UVA ได้นาน 8 เท่า

การเลือกครีมกันแดดที่มีตัวเลขมากสุด จำนวนเท่ามากสุด ไม่ได้หมายความว่าจะปกป้องผิวเราได้ดีที่สุด เราควรเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับการใช้งานของเรามากกว่า เพราะค่าการกันแดดที่เยอะเกินไป ไม่ได้ช่วยให้ผิวเราป้องกัน UV ได้ดีขึ้น เช่น PA+ เหมาะกับคนที่ทำงานในออฟฟิศเป็นหลัก PA++ เหมาะกับคนที่ทำงานออกแดดบ้างในบางวัน PA+++ เหมาะกับการไปเที่ยวทะเลเจอแดดทั้งวัน

และสุดท้ายการเลือกครีมกันแดดแบบฟิสิคอล (Physical) ที่เน้นการสะท้อนแสง UV ออกไปจากผิว จะช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้สารเคมีให้กับผิวได้ดีกว่าครีมกันแดดแบบอื่น

แนะนำครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย นีเวีย ซัน เซนส์ซิทีฟ โปรเทค & ไลท์ ฟิล SPF50 PA+++